- 1. ชาว Pantip แชร์ประสบการณ์สุดประทับใจจาก ม่อนจอง
- 1.1. ชาว Pantip แชร์ประสบการณ์ มานั่งเป้อละเมอ ผ่อวิวตี้ม่อนจอง : ก่อนการเดินทาง
- 1.2. ชาว Pantip แชร์ประสบการณ์ มานั่งเป้อละเมอ ผ่อวิวตี้ม่อนจอง : ค่าใช้จ่ายต่างๆ
- 1.3. ชาว Pantip แชร์ประสบการณ์ มานั่งเป้อละเมอ ผ่อวิวตี้ม่อนจอง : สิ่งที่ควรเตรียมไป
- 1.4. ชาว Pantip แชร์ประสบการณ์ มานั่งเป้อละเมอ ผ่อวิวตี้ม่อนจอง : เริ่มต้นการเดินทาง!
- 1.5. ชาว Pantip แชร์ประสบการณ์ มานั่งเป้อละเมอ ผ่อวิวตี้ม่อนจอง : ความสวยงามของม่อนจอง
- 1.6. ชาว Pantip แนะนำเรื่องที่ต้องรู้ก่อนไป ดอยม่อนจอง
- 1.7. สรุปสิ่งที่ชาว Pantip แนะนำและรีวิวเกี่ยวกับ ดอยม่อนจอง
- 2. บทสรุปส่งท้าย : ม่อนจอง ประสบการณ์ประทับใจไม่รู้ลืมจากชาว Pantip
ชาว Pantip แชร์ประสบการณ์สุดประทับใจจาก ม่อนจอง
ทุกวันนี้มีหลายสิ่งเปลี่ยนไปโดยเฉพาะลักษณะการทำงานของคนส่วนใหญ่ ซึ่งกดดันให้ทำงานมากขึ้นหนักขึ้น จึงไม่แปลกเลยที่หลายคนจะมีความเครียดและเมื่อสะสมนานวันเข้าความเครียดที่สะสมอาจทำให้เกิดปัญหาสุขภาพ บางคนเริ่มดูแลตัวเองเมื่อมีปัญหาสุขภาพแล้ว แต่ในความเป็นจริงทางที่ดีที่สุดคือการหลีกเลี่ยงปัญหานั้น หนึ่งในวิธีที่หลายคนทำเมื่อมีความเครียดคือการออกจากบ้านออกจากที่เดิมๆ ไปท่องเที่ยวและไปหาอะไรใหม่ๆ ม่อนจอง คือหนึ่งในที่ท่องเที่ยวติดลิสต์ของคนไทย ที่นี่จะน่าสนใจแค่ไหน มาดูรีวิวจากชาว Pantip กัน!
ชาว Pantip [รีวิววังน้ำเขียว] มีที่เที่ยวอะไรบ้างในปี 2022!!
ชาว Pantip แชร์ประสบการณ์ มานั่งเป้อละเมอ ผ่อวิวตี้ม่อนจอง : ก่อนการเดินทาง
ก่อนที่จะทำการไปเข้าพักยังที่แห่งนี้ เราจำเป็นต้องขออนุญาตก่อน …
คำถามก็คือ เราต้องขออนุญาตกับใคร ? ขอยังไง ? หาเอกสารที่ไหน ?เราทำการบ้านจากหลากหลายเว็บไซต์ หลากหลายรีวิวอย่างมาก แต่แล้วปัญหาก็เกิดขึ้น .. ได้ทำเอกสารข้อมูลแบบคำร้องจาก https://bit.ly/3nQFdz9 และทำการส่งอิเมล์ไปที่ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16
ตามขั้นตอนที่เราเคยได้โทรถามจากเจ้าหน้าที่ผู้ดูแลการเข้าออกพื้นที่ของศูนย์แต่คำตอบที่ได้จากเจ้าหน้าที่ ทำให้เราแทบช็อค เพราะเสียงจากปลายสายได้แจ้งว่า การขออนุญาตเข้าสถานที่ ได้ถูกจองไว้เต็มแล้ว
สิ่งที่ตามมา พวกคุณก็คงเดาได้ ว่าเรา เสียความรู้สึก แค่ไหน … แต่ก็นั่นแหละ เราก็ไม่ได้โชคร้ายเสียทีเดียว ต้องขอบคุณเพื่อนผู้ร่วมทางผู้เป็นคนเชียงใหม่
ทำการหาเบอร์ติดต่อ แล้วโทรสายตรงไปหาเจ้าหน้าที่ กริ๊งเดียวจบ ได้อนุมัติขึ้นเขาทันที !หากคุณอ่านมาถึงตรงนี้แล้ว คุณก็คงจะงงว่า อ้าว … แล้วเขาดำเนินการอะไร? ยังไงต่อ? แล้วเราต้องทำอะไรต่ออีกไหมหลังจากนั้น?
วันนี้จขกท.เอาสรุปง่ายๆ ให้เข้าใจง่ายๆ และให้เพื่อนๆได้ทำตามกันง่ายๆ ง่ายกว่าประสบการณ์ที่จขกท.ได้เจอมากับตัว ไปเลยค่ะ
ข้อสรุปของ ขั้นตอนขออนุญาตเข้าพื้นที่ (กรณีพักแรม)
– ส่งสำเนาบัตรประชาชน (พร้อมเซ็นสำเนาถูกต้อง พร้อมกำกับว่า ใช้เพื่อขออนุญาตเข้าพื้นที่ดอยม่อนจอง) มาที่คุณ ข้าวฟ่าง (083-479-9978) หรือ Line : llsatisfyllnongfang
– แจ้งจำนวนผู้ร่วมทาง ที่เดินทางไปด้วยกัน
**หมายเหตุ** ทางคุณข้าวฟ่างจะดำเนินการเรื่องเอกสารขออนุญาตขึ้นเขาให้ เพื่อความสะดวกของเพื่อนๆ
เมื่อเราได้ทำการส่งเอกสารเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็รอยืนยันก็เป็นอันเสร็จสิ้นค่ะ ! เท่านี้ก็ไม่ต้องเป็นกังวลว่าจะมีปัญหาตอนจะขึ้นเขาแล้ว
เพราะเรื่องที่เราควรกังวลต่อจากนั้น คือเรื่องการเตรียมตัวแล้วค่ะ …
ชาว Pantip แชร์ประสบการณ์ มานั่งเป้อละเมอ ผ่อวิวตี้ม่อนจอง : ค่าใช้จ่ายต่างๆ
ในปี 2563 นี้ ดอยม่อนจองได้เปิดเขาให้พวกเราได้ไปสำรวจเส้นทางกันตั้งแต่
19 พฤศจิกายน ไปจนถึง 21 กุมภาพันธ์ 2564 กันเลยยาวๆ
บอกเลยว่าเป็นโอกาศดี ที่เราจะได้เข้าไปศึกษาธรรมชาติ แบบไปกลับ หรือจะพักค้างแรม แต่เป็นเวลาหนึ่งคืนเท่านั้น
ซึ่งทางอุทยานได้กำหนดจำนวนคนต่อพื้นที่ รองรับการพักแรมด้วยเต็นท์ได้ไม่เกิน 400 คน/วัน
ในส่วนของอุทยานเอง ก็มีจะเจ้าหน้าที่คอยให้บริการความสะดวกต่างๆ และจัดแจงเรื่องค่าใช้จ่ายที่เราต้องจ่ายก่อนเข้าใช้สถานที่บนดอย
ซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายหลักๆดังนี้ …
1. ค่าเช่าเหมารถขึ้นอุทธยาน 2,300.- /คัน (ไป-กลับ)
2. ค่าเข้าชมอุทธยาน 20.- /คน
3. ค่าเช่าสถานที่เพื่อกางเต้นท์ 50.-/เต้นท์
4. ถุงนอน 100.-/ชิ้น
5. เต้นท์ 100.-/ชิ้น
6. ลูกหาบ 600.- / คน (เหมาไป-กลับ แบกไม่เกินคนละ 20 กก.)
***หมายเหตุ***
นี่เป็นราคาอัพเดตล่าสุดเดือน พ.ย. 63
หากท่านใดมีถุงนอนและเต้นท์ไปเอง ก็ไม่จำเป็นต้องเช่าจากอุทยานค่ะ
ชาว Pantip แชร์ประสบการณ์ มานั่งเป้อละเมอ ผ่อวิวตี้ม่อนจอง : สิ่งที่ควรเตรียมไป
สิ่งที่ควรเตรียมไป (ที่อุทธยานไม่มีให้เช่า)
1. ยาต่างๆ (กันยุง ทาแผล ใดๆ)
2. ไฟฉาย เพราะตอนกลางคืนจะมืดมาก
3. อาหารสำหรับ 2-3 มื้อ
4. อุปกรณ์กันหนาวต่างๆ
5. ถุงขยะ (จำเป็นอย่างยิ่ง)
6. น้ำสะอาด สำหรับดื่ม หรืออื่นๆ
7. พาวเวอร์แบงค์ (ด้านบนไม่มีไฟฟ้า)
8. ทิชชู่แห้ง ทิชชู่เปียก สำหรับทำความสะอาด
**หมายเหตุ** เจ้าหน้าที่ย้ำเตือนมากในเรื่องของการรักษาความสะอาด เพราะฉะนั้นเราเองก็ต้องเคารพสถานที่
ด้วยการเก็บขยะใดๆอันเกิดจากเพื่อนมนุษย์ ลงมาจากเขาด้วยกันนะเจ้า
ชาว Pantip แชร์ประสบการณ์ มานั่งเป้อละเมอ ผ่อวิวตี้ม่อนจอง : เริ่มต้นการเดินทาง!
การเดินทางสู่ “ม่อนจอง”
เตรียมตัวกันแล้ว เราก็ออกเดินทยานมุ่งสู่ปลายทาง “บ้านห้วยปูลิง” จุดนัดพบที่เราต้องเริ่มการผจญภัยของเรา เมื่อเราทำการขนย้ายสัมภาระขึ้นกระบะ 4WD เราก็เดินทางต่อไปยังทางเข้าอุทยานที่ไม่ไกลกันมาก
เพื่อที่เราต้องติดต่อชำระค่าใช้จ่าย รวมไปถึงการติดต่อว่าจ้างลูกหาบคนคูลของพวกเราด้วย ซึ่งใดๆ ผนวกกับช่วงปิดเทอมขอเด็กๆ ลูกหาบของเราครั้งนี้ จึงเป็นหนุ่มน้อยวัยใสสองหน่อ ที่จะมาช่วยแบกของให้เราในครั้งนี้
นี่ก็เป็นกังวลในใจ ว่าพ่อหนุ่มจะไหวไหม แต่ก็มาลองกันสักตั้ง !
เมื่อเราพร้อมกันแล้ว ก็ทยานขึ้นสู่ดอยม่อนจองกันเลย !! เมื่อเราเริ่มออกเดินทางจากเขตอุทยาน มุ่งขึ้นสู่จุดเริ่มเดินเขา เป็นระยะทางกว่า 12 กม. ที่บอกเลยว่า
ผู้ชำนาญทางเท่านั้น ที่จะพาเราผ่านเส้นทางนี้ขึ้นไปได้ และนี่เป็นเหตุผลว่าทำไมเราถึงต้องเหมารถขึ้นมา เพราะช่วงหน้าฝนที่ผ่านมา ทำให้พื้น ถูกเคลือบด้วยโคลนขนาดใหญ่ ทำให้เราโยกตัวไปมา ตามสภาพของพื้นดินที่กระทบกับล้อรถ ผ่านไปไม่ถึง 1 ชม. เราก็ได้มาถึงยัง จุดเริ่มต้น ของ นักปีนเขาหน้าใหม่ อย่างเรา พ่อหนุ่มหน้าใสสองหน่อไม่รอช้า แบกตระกร้าหวายคู่ใจ เดินหน้านำทางพวกเราไปอย่างรวดเร็ว
4 กิโลเมตร นั่นคือระยะทางที่เราจะต้องออกเดินเท้า ไปเรื่อยๆ เพื่อไปให้ถึง ลานกางเต้นท์ ความรู้สึกตอนเดินจริง เหมือน 10 กว่ากม. ;_; “รองเท้าใหม่ๆดี พวกผมจะใส่ไว้เตะบอล” น้องลิขิตกล่าว
เราพลางจ้องมอง รองเท้าระบายหลายรู ที่น้องใส่เดินแบกของ แล้วคิดว่า งั้นนี่คงเป็นคู่เก่าสินะ …
เอ๊ะ!? หรือนี่คือเคล็ดลับในการเดินเขาอย่างคล่องแคล่วของเด็กๆกัน ? เส้นทางที่ผ่าน รายล้อมไปด้วยทุ่งหญ้าเขียวขจี และกลิ่นของธรรมชาติ
เป็นสิ่งที่ช่วยเยียวยาหัวใจ ที่ห่อเหี่ยวมาจากพิษร้ายของโควิด-19
พวกเราออกเดินกันมาได้กว่า 10 นาที เชื่อไหมว่า เกือบหมดแรงแล้วค่ะคุณ (555)
ยอมรับตามตรงว่า เราก็ไม่ใช่สายออกกำลังกายมาตั้งแต่แรก ก็ยังแอบคิดว่ามาขนาดนี้จะไหวไหม ?
แต่ก็กัดฟันเดินต่อ ปนหอบ หายใจแรงแฮ่กๆ เดินขึ้นเนินอย่างไม่หยุดยั้ง แบกความหวังที่จะไปให้ถึงจุดหมายของเรา แล้วก็มาจนถึงจุดพักแรก “ภูหินช่อ” กับวิวที่น่าตกตะลึง เจอแบบนี้ถึงกับหายเหนื่อย ..
พักกินน้ำสักครู่ แล้วก็ออกเดินกันต่อ เดินมาเรื่อยบนเส้นทางที่ไม่สับสน จนมาถึงยังเนินผู้พิชิต ที่ใครต่อใครก็จะขิตเพราะเนินแห่งนี้มานักต่อนัก
ยินดีต้อนรับเข้าสู่ “เนินหมาหอบ” หรือ “เนินฮิปฮอป” และเมื่อเราพยายามมากพอ ความสำเร็จมันก็มาอยู่ตรงหน้าของเราจริงๆ มีผู้คนบางส่วนที่ล่วงหน้ามาถึงก่อนเรา เลยจับจองพื้นที่ด้านหน้าไปอย่างแน่นขนัด
พวกเราสายชิวที่มาถึงกลุ่มท้ายๆ เลยต้องเดินขึ้นเนินไปต่ออีกหน่อย
ที่ซึ่งหนุ่มน้อยของทีมเรา ล่วงหน้ามากางเต้นท์ไว้ให้อยู่ก่อนหน้าแล้ว ขณะนั้นเป็นเวลา4 โมงกว่าๆ เราเลยคุยกันว่า จะไปดูพระอาทิตย์ตกดิน ตรงบริเวณ “ผาหัวสิงห์”
หลังจากพักหายเหนื่อย และเติมพลังกันเรียบร้อย เราก็ไปกันต่อเลยค่ะ
ชาว Pantip [รีวิว]นั่งรถไฟไปกาญจนบุรี กับบรรยากาศชิวๆปี 2022
ชาว Pantip แชร์ประสบการณ์ มานั่งเป้อละเมอ ผ่อวิวตี้ม่อนจอง : ความสวยงามของม่อนจอง
นับเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุด สำหรับการถ่ายภาพยามเย็น
พระอาทิตย์ค่อยๆผ่านเมฆหมอก เคลื่อนตัวลงอย่างช้าๆ แสงอาทิตย์ที่สาดส่องเข้ามา ไม่ได้ทำให้เรารู้ร้อนแต่อย่างใด กลับสดชื่นสบายใจที่ได้มาเห็นวิวเช่นนี้ เมื่อความมืดมิดเข้ามาแทนที่ บรรยากาศค่อยๆสงบลง เหลือเพียงเงาของผู้คนที่เดินเรียงแถว กลับไปยังที่พัก แล้วความมืดมิดก็เข้ามาปกคลุมทั่วท้องฟ้า ในมือเรามีเพียงไฟฉายที่ส่องสว่าง แสดงให้รู้ว่าต่อให้จะมืดแค่ไหน เราก็ยังมีแสงที่ส่อง ทางกลับบ้าน ให้เรา ความหนาวเริ่มเคลื่อนตัวเข้ามาอย่างช้าๆ จนควันออกปาก เมื่อเดินกลับมาถึงเต้นท์
เด็กๆของเรา ได้ต้อนรับการกลับมาของเรา ด้วยกองไฟอุ่นๆ และน้ำร้อนสำหรับเตรียมอาหารในค่ำนี้ ของแก้หนาวเราก็ไม่ได้มากมายอะไร แค่ติดตัวไว้ก็อุ่นใจแล้วจ้าา
วันนี้พักกันก่อน แล้วจะมาต่อกันใหม่ กับวิวอาทิตย์อุทัย … 05:30 น. เสียงของเพื่อนของคนหนึ่งดังขึ้น เพื่อปลุกพวกเราให้ตื่นจากความหนาวเหน็บ
สภาพของพวกเราตอนฟื้นขึ้นมา เหมือนไหลเทไปตามแรงโน้มถ่วงของโลก
พวกเราขยี้ตาตื่น พร้อมทำตัวให้สดชื่น เพื่อจะไปรับเช้าวันใหม่กับดวงตะวันที่กำลังขึ้น ณ “ผาหัวสิงห์” ที่เก่าแต่วิวใหม่
พระอาทิตย์ดวงเดิม ค่อยๆเคลื่อนตัวผ่านทิวเขาขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
เจ้าไข่แดงดวงโต เผยให้เห็นแสงที่สาดกระทบยอดหญ้า จนเปลี่ยนเป็นสีทองอร่าม นี่คือที่มาของ “นั่งเป้อละเมอ” ไอแดดอุ่นที่กระทบตัวเรา เริ่มทำให้เรารู้สึกง่วงอีกรอบแล้ว วิวผาหัวสิงห์ ที่เราแอบสังเกตุเห็นว่า มีทิวเขากอลิล่าร์ที่อยู่ข้างๆกัน จินตนาการบางทีอยู่เหนือเหตุผลจริงๆ เมื่อเก็บภาพกันหนำใจ เราก็เดินทางกลับมายังเต้นท์ของเรา
ทานข้าวเช้า ดริปกาแฟดื่ม ก่อนจะเก็บข้าวของ กลับไปยังที่ที่เราจากมา ต้องขอบคุณหนุ่มน้อยทั้งสองจากใจ ที่มีบทบาทในการเดินทางครั้งนี้ของเราเป็นอย่างมาก เจมส์ และ ลิขิต ก่อนจะลงเขาก็แวะทำธุระหนักเบาให้เรียบร้อย ซึ่งที่นี่เขามีห้องน้ำนะคะคุณ !! ไอ่ตอนเดินลงคงจะไม่เท่าตอนขึ้น ใครข้อเข่าไม่ดี ก็ให้ค่อยๆเดินเด้ออ
ห้องน้ำเขาเป็นส้วมหลุมที่ถูกขุดไว้ กางด้วยผ้าใบขนาดใหญ่ใส่ไว้ในหลุม
ไม่ได้ดีเริศ แต่ก็ไม่ได้ถือว่าแย่นะคะคุณ ! ขากลับในความเป็นจริงแล้ว เราจะต้องกลับทาง เนินหมาหอบ ทางเดิมค่ะ
แต่เนื่องความลาดชัน ซึ่งเราประเมิณแล้วไม่น่ารอด บวกกับรองเท้าของเพื่อนคนหนึ่งอาการไม่ค่อยสู้ดี เราจึงได้ตัดสินใจ ใช้ทางเดียวกันกับน้องๆลูกหาบ ที่ไม่ต้องเดินขึ้นและลงเนิน แต่อาศัยเลาะริมเขาไปแทนค่ะ แล้วเราก็เดินลงเขา โดยอาศัยทางเก่าที่เดินขึ้นมา
การก้าวออกจากเซฟโซน มาเผชิญโลกกว้าง มักจะมาด้วยความยากลำบากเสมอ
แต่ที่สิ่งที่คุ้มค่ากว่านั้น คือเราได้พบความยิ่งใหญ่ของธรรมชาติ ที่รายล้อมตัวเราอยู่เสมอมา
เพราะสุดท้ายแล้วการเดินทางไม่เคยมีที่สิ้นสุด และนี่คือการเดินทางของฉัน
การเดินเขาครั้งแรก ในฉบับของฉัน #somewherecalling
ชาว Pantip แนะนำเรื่องที่ต้องรู้ก่อนไป ดอยม่อนจอง
ลงแต่เช้า น่าจะทันนะ รีบลงให้ถึงข้างล่างก่อนเที่ยง ขับรถอีก 2 ชม.เข้าเชียงใหม่
ถ้าเวลามันบีบก็อย่าไปเลยครับ มันจะเที่ยวแบบกังวลเสียเปล่า ไปวันศุกร์ กี่คน ครับ ตรงวันหยุดไหม
ม่อนจอง มันขึ้นไม่ยากหรอกครับ แต่การเดินเท้าไปดูพระอาทิตย์ขึ้นจากจุดกางเต๊นท์ก็ไกลอยู่พอสมควรตื่นตี4 เดินเท้าไปดอยหัวสิงห์อีก รอพระอาทิตย์ขึ้น กว่าพระอาทิตย์จะมาก็ไม่รู้ จะมาเช้ามาสาย กว่าจะเดินกลับมาเต๊นท์ที่พักอีกเก็บของอีก กว่าจะเดินลงอีก กว่ารถที่เราเหมาขึ้นไปจุด เดินขึ้นดอยจะลงมาถึงจุดที่ทำการอีก ลงมาถึงก็อาบน้ำอีก กว่าจะมาถึงสนามบินเชียงใหม่ก็4ชม.ได้นะ คำนวนง่าย ตื่นตี4เดินไปหัวสิงห์ 1-1.30 ชม. ก็05.00-05.30 น. รอพระอาทิตย์อีก1-2ชม.ก็06.30-07.00น. ใช้เวลาถ่ายรูปอีก1ชม.ก็07.00-08.30น ถ้าหมอกลงไม่เยอะก็จะได้เวลาขนาดนี้ ถ้าหมอกลงเยอเพผื่อเวลาไปอีก ได้นะกว่าจะเดินกลับอีก1-1.30ชม นี้ก็เกือบ10.00นแล้ว กินข้าวเช้าอีกล่ะตรงที่พัก กินเสร็จเก็บของอีกล่ะ กว่าจะเดินลงอีก 2-3ชม.ได้ ขาลงอาจจะเร็ว กว่าจะออกจากจุดเดินขึ้นดอยมาถึงจุดที่ทำการอีก กว่าจะอาบน้ำอีก กินข้าวกลางวันอีก จากอมก๋อยถึงเชียงใหม่ 4ชม.แล้วครับ ถ้าจะให้ทันตื่นตี5 ลงจากอมก๋อยเลยทันแน่นอน 07.00-08.00น.ไม่เกินนี้นะ ทันเครื่องแน่นอน ไหวไหมล่ะ ไม่มีทางจากเชียงใหม่ไป อ.อมก๋อย ใช้เวลา2 ชม.
สรุปสิ่งที่ชาว Pantip แนะนำและรีวิวเกี่ยวกับ ดอยม่อนจอง
ชาว Pantip รีวิวและแนะนำประสบการณ์เที่ยว ม่อนจอง
– ชาว Pantip ได้แนะนำสิ่งที่ควรทำและเล่าประสบการณ์ทั้งก่อนและเมื่อเริ่มการเดินทางที่แสนประทับใจ!
– ชาว Pantip ยังช่วยแชร์ประสบการณ์ตั้งแต่เริ่มจนถึงจุดหมายปลายทางและรูปภาพสวยๆจากพวกเขา!
ชาว Pantip [รีวิว]เขาค้อสวิสปี 2022 มีจุดไหนที่ควรแวะเช็คอินบ้าง?
บทสรุปส่งท้าย : ม่อนจอง ประสบการณ์ประทับใจไม่รู้ลืมจากชาว Pantip
เห็นไหมว่ามีผู้คนจำนวนไม่น้อยเลยที่กำลังให้ความสนใจกับการท่องเที่ยว ภาคเหนือเป็นภาคที่หายคนให้ความสนใจด้วย เนื่องจากในช่วงหน้าหนาวมีบรรยากาศและสถานที่มากมายที่ทำให้ประทับใจ และหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่อยู่ในลิสต์ของใครหลายคนคือ ม่อนจอง
ในบทความนี้ชาว Pantip ที่มีประสบการณ์เที่ยว ม่อนจอง ก็ได้ออกมารีวิวและแชร์ประสบการณ์ สุดท้ายนี้หวังว่าบทความที่รวบรวมกระทู้และความเห็นจากชาว Pantip นี้จะเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่กำลังมองหาข้อมูล หากผิดพลาดประการใดก็ขออภัยมา ณ ที่นี้…