รวม 10 [[รีวิว]] Pantip สัมผัสหิมะสุดนุ่ม สวยราวต้องมนต์ ณ ชิราคาวาโกะ (Shirakawago)

หมู่บ้าน Shirakawago ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของจังหวัด Gifu มีหมู่บ้านทั้งหมด 16 หมู่บ้านตั้งอยู่ตลอดแนวแม่น้ำ Shougawa และแนวทางหลวง พื้นที่ 95% คือป่าเขาและเพียง 0.5% เท่านั้นที่เป็นพื้นที่เกษตรกรรมหมู่บ้าน Shirakawa-go Gassyo-zukuri เป็นหมู่บ้านที่มีชื่อเสียงที่ได้รับการยกย่องให้เป็นมกดกโลกโดดเด่นด้วยการสร้างบ้านตามแบบสถาปัตยกรรมโบราณ ด้วยการสร้างหลังคาบ้านที่มีความลาดชันสูงถึง 60 องศาเพื่อลดการสะสมของหิมะที่มีมากในฤดูหนาว รวมทั้งระบบการรักษาความอบอุ่นเพื่อประหยัดพลังงาน ถูกก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1919 และเป็นบ้านเรือนที่มีความเก่าแก่ที่สุดซึ่งมีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 350 ปี หมู่บ้าน Gassyo-zukuri ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรกดกโลกเช่นเดียวกันกับสวนสาธารณะแห่งชาติ Hakusan ที่เป็นป่าดิบชื้นเต็มไปด้วยต้นบีช (Beech) นอกจากนี้ยังมีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติอีกมากมายทั้งบ่อน้ำร้อนที่แม่น้ำ Ojirakawa หรือน้ำพุร้อน Hirase

คลิก! อ่านกระทู้ต้นฉบับ

ช่วงเวลาที่เดินทาง  : 31-7 กุมภาพันธ์ 2017  ช่วงเวลานี้ ถือว่าเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสม หลังจากที่ดูรีวิวมาหลายๆที่มา 55 เพราะในเดือนมกราคม อาจเสี่ยงเกิดพายุ (อ้างอิงก่อนผมไป กลางเดือนมกรามีพายุนะครับ) แต่ถ้าไปช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ หิมะที่ไม่ฟูแล้วก็ได้ เป็นน้ำแข็งซะส่วนใหญ่ (อาจจะนะครับ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ )

คลิก! อ่านกระทู้ต้นฉบับ

การเดินทางที่ง่ายและประหยัดที่สุดคือนั่งบัสจากสถานีนาโกย่าเป็นบัสของเมเทะซึบัส

คลิก! อ่านกระทู้ต้นฉบับ

ผมเลือกเดินทางจาก osaka – takayama โดยใช้ pass / takayama-hokuriku area tourist pass ในราคา 14000 เยน (ประมาณ 4300 บาท) ก่อนจะใช้งานก็นำตั๋วจากประเทศไทย ไปแลกที่ญี่ปุ่น ก่อนนะครับถึงจะใช้ได้ สถานที่แลกที่สถานี โอซาก้า pass นี้ ค่อนข้างนั่งรถไฟ หลายต่อนะครับ รวม 3 ต่อ สำหรับบางคนที่มีเวลาน้อยอาจจะไม่ค่อยเหมาะซักเท่าไหร่ แต่เสน่อีกอย่างหนึ่งของการมาเที่ยวญี่ปุ่น คือการนั่งรถไฟครับ ช่วงเวลาที่รอรถไฟ บรรยากาศในสถานี ช่วงเวลาของการเปลี่ยนสถานี เป็นความสนุกอย่างนึงของทริปสำหรับผมเลย  และเราจะได้ซึมซับบรรยากาศของการเดินทางบนรถไฟอีกด้วย ได้เห็นวิวทางข้างทาง  การใช้ชีวิต ที่มีความเป็นชนบท เห็นทิวเขา ป่า แม่น้ำ หมู่บ้าน … ถือว่าเป็นการมาเที่ยวญี่ปุ่นอย่างแท้จริง

คลิก! อ่านกระทู้ต้นฉบับ

สำหรับใครที่ไปนะครับ สิ่งที่ไม่ควรลืม การถ่ายรูป ไฟร์ raw ครับ 555555 นักถ่ายภาพ ก็ถ่ายเก็บไว้เลยย ผมกลับมาแล้วเสียดายมาก เพราะถ่ายไฟร์ raw มาน้อย  ส่วนจุดชมวิว ผมก็ไม่ได้ขึ้นไปดูครับ เนื่องจากไปหลายคน บางคนก็เหนื่อยเพราะเดิน เลยไม่ได้ขึ้นไปดู (อันนี้ก็เสียดาย)

คลิก! อ่านกระทู้ต้นฉบับ

ถ้าถามว่าควรอยู่ที่ Shirakawago นานแค่ไหน ถ้าไปกลับในวันเดียวกัน ตอนก่อนผมไป ผมก็มีคำถามนี้ในใจ ผมว่าแล้วแต่คนมากกว่า บางคนอยากดูวิวนานๆ ชอบถ่ายรูปเยอะๆ ก็อาจจะซัก 5-6 ชั่วโมง แต่ถ้ากรณีมีผู้ใหญ่ไปด้วย ซึ่งอาจจะให้เดินเยอะๆ แบบวัยรุ่นก็คงไม่ไหว สัก 4 ชั่วโมงก็เหลือเฟือแล้วครับ เอาจริงๆ มันก็ไม่ได้กว้างอะไรมากมาย แต่คนส่วนใหญ่จะใช้เวลาถ่ายรูป ดูวิว ซื้อของฝากมากกว่า ซึ่งร้านของฝากที่นี่ก็มีของสวยๆ แปลกๆ เยอะเหมือนกันนะครับ

คลิก! อ่านกระทู้ต้นฉบับ

สามารถให้เจ้าหน้าที่ถ่ายรูปกลุ่มเรากับป้ายให้แล้วรอรับได้เลยด้วยนะครับ ราคา 1,500 YEN เค้าจะใส่เป็นกรอบกระดาษให้ หรืออยากจะถ่ายเองก็ฟรี ตามอัธยาศัยเลยครับ

คลิก! อ่านกระทู้ต้นฉบับ

มีอุปกรณ์ทำความอุ่นมาแนะนำด้วยสำหรับคนขี้หนาวโดยเฉพาะเรียกแผ่นอุ่นไคโระ เอาไว้ติดที่เสื้อชั้นในสุดจะอุ่นนานประมาณ 8 ชั่วโมงติดที่เสื้อนะคะอย่าให้ติดผิวโดยตรง ช่วยได้เยอะเลยเวลาหนาวมากๆมือชาๆยังพอมีที่ให้ซุกเเพราะปกติเราจะติดไว้แถวพุงคะ หาซื้อได้ที่ร้านขายยาทั่วไปราคาเริ่มต้นที่ 200 กว่าเยน

คลิก! อ่านกระทู้ต้นฉบับ

เราจะเจอบ้านหลายๆ หลังเป็นแบบ Gassho-style ค่ะ ซึ่งเป็นบ้านไร่ที่มีลักษณะหลังคาสูงชัน ทำมุมถึง 60 องศา เมื่อถึงหน้าหนาว หิมะตกหนักมากๆ หลังคาแบบนี้จะทำให้หิมะร่วงลงมาตามแนวได้มาก และไม่กองทับอยู่ให้เสี่ยงบ้านถล่มค่ะ นอกจากนั้นหลังคาที่มุงจากฟางข้าวและหญ้าแห้งมัดรวมกันแน่นๆ หนาถึงราวๆ 1 ฟุตนี้ ก็มอบความอบอุ่นให้กับบ้านด้วยค่ะ บ้านที่เปิดให้เข้าชมภายใน เราได้เข้า 2 ที่ คือ Wada House กับ Kanda House ค่ะ ค่าเข้าชม 300 เยน ทั้ง 2 ที่ โดยที่บ้านวาดะจะเจออยู่แรกๆ เลยหลังจากเดินเข้าหมู่บ้านได้ไม่นาน จะสังเกตได้ว่าบ้านหลายหลังจะสร้างให้หันหน้าไปทางเดียวกัน เพื่อให้หลังคา 2 ฝั่งรับแสงแดดมากที่สุดจากทิศตะวันออก-ตกค่ะ การวางแนวบ้านนี้จะช่วยละลายหิมะบนหลังคาได้เร็วและบ้านอุ่นค่ะ

คลิก! อ่านกระทู้ต้นฉบับ

สำหรับคนจะเดินขึ้นเอง (ไม่ว่าจะเพราะประหยัดเงิน ออกกำลังกาย หรือพลาดรถก็แล้วแต่ 5555) มองหาป้ายบอกทางไป Shiroyama Viewpoint นะคะ แล้วก็เดินขึ้นเนินเรื่อยๆ ใช้เวลาประมาณ 15-20 นาทีก็จะถึงค่ะ

คลิก! อ่านกระทู้ต้นฉบับ