รวม 17 สถานที่เที่ยว ที่ชาว Pantip แนะนำว่าห้ามพลาด ณ Nikko (นิกโก้) ประเทศญี่ปุ่น

รวม 17 สถานที่เที่ยว ที่ชาว Pantip แนะนำว่าห้ามพลาด ณ Nikko (นิกโก้) ประเทศญี่ปุ่น

แบกเป้เที่ยว ชิลถ่ายรูปวัฒนธรรมและธรรมชาติ ณ Nikko (นิกโก้) ตามรอยชาว Pantip

Nikko Pantip  นิกโก้

 

Nikko (นิกโก้).. เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของประเทศญี่ปุ่น เพราะ Nikko (นิกโก้) ถูกจัดให้เป็น “โซนมรดกโลก” ที่เพียบพร้อมไปด้วยศิลปะ วัฒนธรรม และธรรมชาติ เรียกได้ว่าเดินทางมาเพียงที่เดียวสามารถซึมซับความเป็นญี่ปุ่นได้อย่างครบถ้วนกันเลยทีเดียว ดังนั้น เพื่อเป็นข้อมูลที่น่าสนใจ สำหรับคนที่กำลังอยากที่จะเดินทางไปเที่ยว ณ Nikko (นิกโก้) บทความในวันนี้ ได้ทำการรวบรวมข้อมูลที่น่าสนใจ และสถานที่ท่องเที่ยวห้ามพลาดที่แนะนำโดยชาว Pantip มาฝากกัน!

 

รวม 23 สถานที่ท่องเที่ยว ณ Okinawa (โอกินาวา) สนุก อร่อย ฟิล โดนใจชาว Pantip

 

มาทำความรู้จักกับ Nikko (นิกโก้) กันก่อน

มาฟังความเห็นจากสมาชิกชาว Pantip กัน!!!

Nikko เป็นอีกเมืองหนึ่งที่มีชื่อเสียงไปในระดับโลก ด้วยธรรมชาติที่สวยงามรายล้อมไปด้วยภูเขา อีกทั้งยังเป็นแหล่งที่ตั้งของสถาปัตยกรรมโบราณที่ยังมีความสมบูรณ์จนได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การ UNESCO และที่สำคัญ เดินทางสะดวกไม่ไกลจาก Tokyo สามารถเที่ยวแบบเช้า-เย็นกลับได้ จึงทำให้ Nikko ดึงดูดนักท่องเที่ยวมากมายจากทั่วทุกมุมโลกให้มาเยี่ยมเยือนอยู่เสมอ

 

คลิก! อ่านกระทู้ต้นฉบับ

 

รวมรีวิว 8 กระทู้Pantip ว่าด้วยเรื่อง Oshino Hakkaiหมู่บ้านน้ำใสใกล้ภูเขาไฟฟูจิ

 

สิ่งที่ควรทราบก่อนเดินทางไปยัง Nikko (นิกโก้) โดยชาว Pantip

Nikko Pantip  นิกโก้

 

ก่อนที่จะเดินทางไปท่องเที่ยว ณ Nikko (นิกโก้) ชาว Pantip มีข้อมูลที่น่าสนใจ และไม่ควรพลาดมาฝากให้ทราบกัน ดังต่อไปนี้

 

 

  1. Nikko (นิกโก้) ไม่เหมาะกับการมาเที่ยวในหน้าร้อน

มาฟังความเห็นจากสมาชิกชาว Pantip กัน!!!

การมาเที่ยว Nikko ในช่วงนี้ (ต้นเดือนเมษายน) อย่าคาดหวังว่าจะเจอซากุระบานซักต้นเลยนะคะ ตลอดเส้นทางที่ขับรถผ่านนั้นมีแต่ต้นไม้ที่แห้งแล้ง มีแต่กิ่งที่ใบไม่ร่วงหมด (ยกเว้นโซนศาลเจ้าที่มีต้นไม้ใหญ่ร่มรื่น) แดดแรง แต่มีลมเย็นสบายค่ะ

 

คลิก! อ่านกระทู้ต้นฉบับ

 

 

  1. Nikko (นิกโก้) ควรหลีกเลี่ยงวันหยุด

มาฟังความเห็นจากสมาชิกชาว Pantip กัน!!!

หลีกเลี่ยงวันเสาร์อาทิตย์หรือวันหยุดราชการนะคะ เพราะคนญ่ปุ่นก็ออกเที่ยวมหาศาล มีบางท่านไปวันเสาร์อาทิตย์ บอกว่ารถติดมากกกกกกกกกกก  ตอนเราไป เราเลยไปวันธรรมดาน่ะ เที่ยวแบบชิลๆ ไม่เจอรถติด ได้ไปทั้งโซนมรดกโลก น้ำตก ทะเลสาบ

 

คลิก! อ่านกระทู้ต้นฉบับ

 

 

  1. Nikko (นิกโก้) ร้านค้าส่วนใหญ่จะปิดในวันพุธ

มาฟังความเห็นจากสมาชิกชาว Pantip กัน!!!

คราวที่แล้วไปวันพุธ ซึ่งเป็นวันที่ร้านส่วนใหญ่ปิด นิกโก้เงียบใจหาย  ดีแต่หาร้านกินข้าวที่ถูกใจไม่ได้

 

คลิก! อ่านกระทู้ต้นฉบับ

 

 

รวม 11 กระทู้ เที่ยว Kawagoe สัมผัสเสน่ห์เมืองเก่าใกล้เมืองโตเกียว โดยชาว Pantip

 

แนะนำการเดินทางไปยัง Nikko (นิกโก้) โดยชาว Pantip

Nikko Pantip  นิกโก้

 

สำหรับการเดินทางไปยัง Nikko (นิกโก้) สามารถทำได้หลายวิธี ทั้งโดยรถยนต์ส่วนตัว และระบบโดยสารประจำทาง โดยมีรายละเอียดที่ควรทราบ ดังต่อไปนี้

 

1.การเดินทางไปยัง Nikko (นิกโก้) โดยรถส่วนตัว

 

มาฟังความเห็นจากสมาชิกชาว Pantip กัน!!!

จาก Tokyo ใช้เวลาเดินทางโดยรถยนต์ประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่งค่ะ ขับสบายๆขึ้น expressway ยาวไป 🚙 กว่าจะถึง Nikko ก็ประมาณ 11 โมงเห็นจะได้ สำหรับที่หมายของวันเบาๆ วันนี้คือการไปชมดินแดนที่เรียกได้ว่ามีความสวยงามขั้นมรดกโลก มีศาลเจ้าที่โด่งดังและธรรมชาติที่สวยงาม

 

คลิก! อ่านกระทู้ต้นฉบับ

 

 

2.การเดินทางไปยัง Nikko (นิกโก้) โดยระบบขนส่งมวลชน

 

มาฟังความเห็นจากสมาชิกชาว Pantip กัน!!!

ารจะเดินทางไป Nikko เราเดินทางโดยรถไฟสาย Tobu-Nikko Line ออกเดินทางจาก Asakusa Station(Tobt skytree Line) ตามภาพนะ ซื้อตั๋วได้ที่ Tobu Tourist Information Center แนะนำว่าให้ซื้อล่วงหน้าก่อนเดินทาง 1 วัน หรือ 2 วัน อย่างของเราเดินทาง 7.30 น. ถ้าไปซื้อวันที่เดินทางก็กลัวจะไม่ทันขึ้นรถไฟ เพราะว่าที่ขายตั๋วเปิดประมาณ 7.30 น. ตอนเราไปถึง 7 โมงเช้า มีคนยังไปต่อแถวเข้าคิวรอซื้ออยู่ หน้าตาตั๋วที่เดินทางก็อันนี้นะ อันนี้เป็นตั๋ว Nikko All Area คือให้เดินทางจาก Asakusa ไป Nikko และใช้เดินทางรถบัสใน Nikko ราคา Nikko All Area ราคา 4520 yen = 1356 บาท ทีนี้ ถ้าจะเดินทางไป Nikko ก็จะมีรถไฟธรรมดา กับแบบ limited express ถ้าธรรมดาเปลี่ยนประมาณ 3 ต่อ แต่ถ้า express นั่งยาวไปเลย แต่ว่าต้องจ่ายเพิ่มนะ ราคาที่ต้องจ่ายเพิ่มสำหรับ express train 1080 yen = 354 บาท แต่ถ้าเป็นวันหยุดส. อา. จะราคา 1160 yen = 348 บาท บนตั๋ว จะบอกเวลาที่รถไฟออก และเลขที่นั่งของเรา เวลาจะเข้า platform เราต้องเข้าไปในห้องให้พนง.ตรวจตั๋ว อยู่ใกล้ๆช่องที่คนมีบัตร IC ผ่าน เราต้องเตรียมตั๋วทั้งสองใบให้เจ้าหน้าที่ดู คือ 1.ตั๋วราคา 4520 yen และ 2.ตั๋วที่เราอัพเพื่อเป็น limited express train เข้าไปแล้วจะมีหมายเลขชานชาลาบอกชัดเจน หลังจากนั้นนั่งสาย 2c ไปลงที่ Chuzenji onzen bus stop หรือหมายเลข 26 ใช้เวลาเดินทางจาก Tobu-Nikko Station ประมาณ 45-50 นาที ถ้ารถติดเป็นชม.ได้

 

คลิก! อ่านกระทู้ต้นฉบับ

 

 

แบกเป้ตามชาว Pantip ไปเที่ยวสุดชิลที่นารา (Nara) กับ 6 สถานที่ แห่งประวัติศาสตร์ที่อาจทำให้หลงรัก!

 

17 จุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจของ Nikko (นิกโก้) แนะนำโดยชาว Pantip

 

สำหรับจุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจของ Nikko (นิกโก้)  มีอยู่ทั้งหมด 2 ส่วน ได้แก่ โซนมรดกโลก ศาลเจ้าต่างๆ  และโซนธรรมชาติ น้ำตก ภูเขา ทะเลสาบ โดยมีสถานที่ท่องเที่ยวที่มีความน่าสนใจ ดังต่อไปนี้

 

ศาลเจ้านิกโกะโทโชกุ (Nikko Toshogu)
ศาลเจ้านิกโกะโทโชกุ (Nikko Toshogu)
ศาลเจ้าที่สวยงามอลังการถูกขึ้นชื่อว่าเป็น UNESCO World Heritage Site🏅ถูกสร้างขึ้นเมื่อปี 1617 เพื่อเป็นสุสานที่อุทิศให้แก่ โชกุนโทะคุงะวะ ศาลเจ้าแห่งนี้มีพื้นที่ใหญ่โตมากๆๆๆๆ ค่ะ ตั้งอยู่ในเขต Nikko National Park พี่หยอดใช้เวลาเดินเอื่อยเชื่อยอยู่ในพื้นที่นี้เกือบ 2 ชั่วโมงค่ะ เพราะที่นี่บอกเลยว่าว้าว!! ทุกจุด ด้วยสถาปัตยกรรมที่สวยงาม สิ่งปลูกสร้างส่วนใหญ่สร้างจากไม้ และภาพแกะสลักต่างๆ ที่ตกแต่งอยู่ตามแนวกำแพง ประกอบกับป่าต้นไม้สูงใหญ่ที่โอบล้อมศาลเจ้าไว้ ทำให้ร่มรื่นและเย็นสบายมากค่ะ Highlight ของที่นี่ เช่น : – Gojunoto หรือ เจดีย์ 5 ชั้นสีแดงสด ความสูง 36 เมตร – Yomeimon Gate ซุ้มประตูทางเข้าศาลเจ้าที่สวยงามด้วยสีเหลืองทอง เปิดบูรณะไปยาวนานถึง 4 ปีเต็ม เพิ่งจะกลับมาเปิดให้ชมได้เมื่อปี 2017 ที่ผ่านมา – Karamon Gate ซุ้มกระตูทางเข้าอีกชั้นที่อยู่ติดกับ main hall (ตอนนี้อยู่ระหว่างปรับปรุงบางส่วน) – รูปปั้นแกะสลักรูปสัตว์ทั้ง 3 จุด คือ Three Monkeys 🙈🙉🙊, Imaginary Elephants 🐘 ,  และ Sleeping Cat 🐈 สำหรับในส่วนศาลเจ้า Nikko Toshogu Shrine นี้จะเสียค่าเข้าคนละ 1,300 JPY 🎟 นะคะ คุ้มค่ะข้างในสวยมาก ปล. ใครขับรถมา สามารถขับขึ้นไปจอดใกล้ศาลเจ้าด้านบนเขาได้นะคะ
สะพานชินเคียว (Shinkyo Bridge)
สะพานชินเคียว (Shinkyo Bridge)
สะพานศักดิ์สิทธิ์ สีแดงสดที่เปรียบเสมือนประตูทางเข้าของเขต Sannai เป็นส่วนหนึ่งของ Futarasan-Jinja ตั้งอยู่บริเวณเชิงเขา เป็นสะพานข้ามแม่น้ำ Daiya-gawa ที่ใสแจ๋ว มีความเชื่อว่าแม่น้ำนี้เองคือ เส้นแบ่งเขตแดนระหว่างโลกมนุษย์กับแดนศักดิ์สิทธิ์ เป็นจุด landmark ที่นักท่องเที่ยวต้องแวะมาเก็บภาพเป็นที่ระลึกค่ะ แต่หากใครอยากจะเดินข้ามสะพานแห่งนี้ ต้องเสียค่าเข้าคนละ 300 JPY 🎟 นะคะ ปล. สะพานนี้จะอยู่ริมถนนนะคะ หากขับรถไปเองจะหาที่จอดยากนิดนึง ตรงสะพานจะมีสามแยกเล็กๆ ให้เลี้ยวซ้ายเลยไปจะมีที่จอดตรงร้านสะดวกซื้อด้านขวา
วัดรินโนจิ (Rinnoji Temple)
วัดรินโนจิ (Rinnoji Temple)
เป็นวัดที่มีความสำคัญของเมืองนิกโก้ ก่อตั้งโดย Shodo Shonin พระสงฆ์ผู้นำศาสนาพุทธ วัดนี้ก่อสร้างในช่วงศตวรรษที่ 8, ปี 766,  อาคารหลักของวัด คือ Sanbutsudo หรือ Three Buddha Hall ประกอบด้วย บ้านหลังใหญ่เคลือบทอง ภายในเป็นที่ประดิษฐานของรูปแกะสลักไม้ Amida, Senju-Kannon(พระพุทธรูป Kannon พันมือ) และ Bato-Kannon(พระพุทธรูป Kannon ที่มีศีรษะเป็นม้า) ถัดจากอาคาร Sanbutsudo มีสวน Shoyo-en สวยงาม ไว้ใช้สำหรับนั่งสมาธิ และหอสมบัติ(Treasure House) ที่จัดแสดงนิทรรศการทางพุทธศาสนา
Futarasan Shrine
Futarasan Shrine
Futarasan Shrine ถูกค้นพบเมื่อปี 782 โดย Shodo Shonin เป็นพระที่เผยแพร่ศาสนาพุทธในNikko และเป็นพระองค์นี้นี่แหละที่ค้นพบ Rinnoji Temple. Futarasan shrine แห่งนี้ใช้เป็นสถานที่สักการะเทพเจ้าแห่งเทือกเขาที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดสามแห่งของ Nikko นั่นคือ เทือกเขา Nantai, Nyoho และ Taro. Futurasan เป็นอีกชื่อหนึ่งของเทือกเขา Nantai ซึ่งเป็นเขาที่มีความสำคัญที่สุดในสามเขาที่กล่าวมา
Toshugu Shrine
Toshugu Shrine
สถานที่แห่งนี้ เป็นสถานที่พักผ่อนสุดท้ายของ Tokugawa Ieyasu ผู้ก่อตั้ง Tokugawa Shogunate ที่ปกครองญี่ปุ่นมากว่า 250 ปี จนกระทั่งปี 1868 Toshogu shrine แห่งนี้ ยังเป็นที่ที่เก็บสิ่งสำคัญทางศาสนาชินโตและพุทธไว้ด้วย ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องปกติสำหรับสถานที่สักการะบูชาจะมีองค์ประกอบของทั้งสองศาสนาอยู่ในที่เดียวกัน แต่เมื่อเข้าสู่ยุคเมจิ ศาสนาชินโต ก็ได้ถูกแยกออกจากศาสนาพุทธ และสิ่งของทางพุทธศาสนา ก็ถูกนำออกไปจากศาลเจ้าทั่วทั้งญี่ปุ่น แต่อย่างไรก็ตาม ที่ Toshogu shrine แห่งนี้ ทั้งสองศาสนายังไม่ถูกแยกออกจากกันโดยสมบูรณ์ เดินเข้ามาจะเจอ pagoda หน้าประตูทางเข้าหลัก
จุดชมวิว Akechidaira หรือกระเช้า Akechidaira Ropeway
จุดชมวิว Akechidaira หรือกระเช้า Akechidaira Ropeway
จุดนี้ตั้งอยู่ระหว่างทางของถนนสายโรแมนติกค่ะ ไฮไลต์ของการขึ้นกระเช้านี้คือการชมวิวน้ำตก Kegon, ภูเขา Nantaisan และทะเลสาบ Chuzenji จากมุมสูงแบบ bird eye view ! (และก็จะได้เห็นวิวถนนที่โค้งไปมาด้วยค่ะ) ค่าบริการไป-กลับ 730 JPY/คน 🎟 ปล. ครั้งนี้พี่หยอดตัดสินใจไม่ขึ้นกระเช้าค่ะ เพราะวิวทิวทัศน์ช่วงนี้ไม่สวยงามเหมือนตอนใบไม้เปลี่ยนสี มองวิวบนเขามีแต่ต้นไม้แห้งค่ะ 55
ทะเลสาบชูเซ็นจิโกะ (Lake Chuzenji,中禅寺湖)
ทะเลสาบชูเซ็นจิโกะ (Lake Chuzenji,中禅寺湖)
ตั้งอยู่ภายในพื้นที่อุทยานแห่งชาติ Nikko เช่นกัน มีความยาวโดยรอบทะเลสาบประมาณ 25 กิโลเมตร มองไปสุดลูกหูลูกตาสวยงามมากค่ะ ⛅️ บริเวณริมถนนต้นทะเลสาบจะมีเสาโทริอิยักษ์ตั้งอยู่ ชื่อว่า Aka Torii เป็นสัญลักษณ์บอกว่าถึงแล้วนะ ! ช่วงที่พี่หยอดไป รอบๆ ทะเลสาบบรรยากาศอาจจะเหงาๆ หน่อยค่ะ อาจจะยังไม่ถึงเวลาช่วง high season แต่ส่วนตัวแล้วพี่หยอดชอบนะ ผู้คนไม่พลุกพล่านวุ่นวาย ได้เดินเล่นรับลมหนาวชิวๆ มองท้องฟ้าสะท้อนกับพื้นน้ำสีฟ้าสด ให้ความรู้สึกสงบมากๆ (ถ้ามาช่วงบ่ายจะถ่ายรูปแล้วย้อนแสงหน่อยนะคะ
น้ำตกเคะงน (Kegon Falls,華厳滝)
น้ำตกเคะงน (Kegon Falls,華厳滝)
เป็นน้ำตกที่มีชื่อเสียงที่สุดในบรรดาน้ำตกทั้ง 48 แห่งใน Nikko และถูกจัดอันดับให้ติด 1 ใน 3 น้ำตกที่สวยงามที่สุดของญี่ปุ่นด้วยค่ะ โดยน้ำตกแห่งนี้ ไหลมากจากสายน้ำจาก Lake Chuzenji ไหลลงมาจากหน้าผาหินสูงกว่า 97 เมตร 💦 ถ้าเราขึ้นกระเช้า Akechidaira ก็จะเห็นวิวจากด้านบน แต่ถ้าเรามาที่ Kegon Falls Elevator นี้ เราจะได้เห็นน้ำตกแบบชัดๆจากมุมล่างเลยค่ะ โดยต้องซื้อบัตรราคา 550 JPY/คน 🎟 เพื่อลงลิฟท์ความลึก 100 เมตร ใช้เวลา 1 นาที เพื่อลงไปยัง observatory desk ค่ะ จากจุดด้านล่างเราสามารถมองเห็นความยิ่งใหญ่ของ Kegon Falls ได้อย่างชัดเจน ยิ่งถ้าเป็นช่วงน้ำเยอะๆ หน่อยคงจะดีงามกว่านี้มากมาย (ช่วงนี้น้ำน้อยค่ะ อาจจะไม่อลังการมากนัก) อ่อ… และหลังจากชมน้ำตกแล้วก่อนกลับ อย่าลืมชิมปลาย่างเกลือของดีของ Nikko ด้วยนะคะ มีขายอยู่ที่ร้านอาหารด้านหน้าทางลงไปน้ำตกนี่เลยค่ะ มีปลา 3 ชนิดให้เลือก คือ Ayu , Iwana และ Yamame 🐟 ราคาตัวละ 600 JPY เสียบไม่ย่างทานได้ทั้งตัวหัวจรดหางเลยค่ะ !!!
สุสานโชกุน วัด Taiyuin
สุสานโชกุน วัด Taiyuin
ก่อนเข้าสุสานจะมีรูปแกะสลักอีกหนึ่งที่มีชื่อเสียง เจ้าของผลงานเดียวกันกับศิลปินที่สร้างรูปแกะสลักแมวปิดหูปิดตาปิดปาก นั่นคือรูปแกะสลักแมวนอนหลับ ลองหาดูกันนะครับสนุกๆ หาไม่เจอก็ถามเลย where is the sleeping cat 555
เจดีย์โบราณ 5 ชั้น สีแดง
เจดีย์โบราณ 5 ชั้น สีแดง
ต้นตำรับการออกแบบสิ่งปลูกสร้างที่ anti แผ่นดินไหว โดยภายในจะใช้ระบบแขวนท่อนซุงยักษ์ห้อยจากยอดบนสุดใต้หลังคา ยาวทะลุทลวงทั้งห้าชั้นลงมันยันพื้น แล้วทะลุพื้นชั้นล่างลงไปใต้ถุน แขวนลอยอยู่แบบนั้น ทำให้เจดีย์นี้ให้ตัวได้ยามเกิดการสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหว เป็นต้นแบบของการสร้างหอคอยโตเกียวด้วย
บ้านทูตอังกฤษ (British Embassy Villa Memorial)
บ้านทูตอังกฤษ (British Embassy Villa Memorial)
ออกจากน้ำตกก็ขับเลียบทะเลสาบเลาะฝั่งตะวันตกของทะเลสาบชูเซ็นจิ สองโลเศษๆ เท่านั้นก็มาเจอกับอดีตบ้านพักฑูตอังกฤษ ไม่มีไรมาก มาชมบ้านพักสวยๆ แนวโมเดิร์นริมทะเลสาบ ภายในบ้านจัดให้เดินวนชมได้ มีสองชั้น เพลินดี เหมาะมาเก็กท่าถ่ายพรอทเทรดด้วย เสียค่าธรรมเนียมเล็กน้อย คนละ 200 เยน
บ้านฑูตอิตาเลียน (Italian Embassy House Memorial)
บ้านฑูตอิตาเลียน (Italian Embassy House Memorial)
ติดๆ กับบ้านฑูตอังกฤษก็จะเป็นอดีตบ้านฑูตอิลาเลียน ฉีกสไตล์เลย หลังตะกี้ยังญี่ปุ่นแบบโมเดิร์นๆ อยู่ ท่านฑูตอิตาลีคงชอบแบบญี่ปุ่นวินเทจมากกว่า ใครมาแล้วต้องเก็บให้ครบทั้งอังกฤษทั้งอิตาลี
น้ำตก Ryuzu Falls (ริวซู)
น้ำตก Ryuzu Falls (ริวซู)
ป็นน้ำตกขนาดเล็กแต่ไม่ได้สวยแค่น้ำตก มันลงตัวด้วยป่ารอบข้างอย่างแรง ที่นี่จะพีคสุดในฤดูใบไม้เปลี่ยนสี เพราะป่าหน้าน้ำตกทั้งหมดนี่จะพากันเปลี่ยนเป็นสีเหลืองสีแดงสีส้ม สวยสุดๆ แต่ว่าแต่ในหน้าซัมเมอร์แบบนี้สีเขียวชะอุ่มก็ดูร่มรื่นชื่นตาไปอีกแบบ ที่สำคัญชื่นใจที่คนโคตรน้อยด้วย สายน้ำตกนี้เกิดจากลำห้วยที่เชื่อมสองทะเลสาบ คือไหลมาจากทะเลสาบ Yomoto ที่อยู่ด้านเหนือ มาตกเป็นน้ำตกริวซูก่อนไหลลงทะเลสาบชูเซ็นจิ มันจะมีเทรลเดิน 300 เมตรขนานไปกับด้านเหนือของน้ำตก เดินขึ้นก็ได้ แต่เดินลงเหมาะกว่า แต่ก็นะ ไม่ว่าจะสูตรไหนคุณก็ต้องไปกลับอยู่
พื้นที่ชุ่มน้ำ (High Attitude Wetland Nikko National Park)
พื้นที่ชุ่มน้ำ (High Attitude Wetland Nikko National Park)
บริเวณนี้คือพื้นที่ชุ่มน้ำขนาดใหญ่ ส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาตินิกโก้ พื้นที่ชุ่มน้ำ หรือ Wetland ที่มีขนาดกว้างถึง 4 ตร.กม. และเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำที่อยู่บนที่สูง ความสูงจากน้ำทะเลบริเวณนี้เฉลี่ย 1,400 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง มีเทรลเดินเท้าระยะสั้นที่มีชื่อว่า Shizen Kenkyuro รอบๆ พื้นที่ที่ต้องใช้เวลาเดินกว่า 2 ชั่วโมง คนนิยมมาเดินชมธรรมชาติ ดอกไม้ นก แม้แต่นักถ่ายภาพที่นิยมภาพทางช้างเผือกก็นิยมมาล่าช้างที่นี่กัน สำหรับใครที่ไม่มีเวลามากก็สามารถแวะมายืนชมวิวเฉยๆ ตรงจุดนี้ ที่เรียกว่า Senjogahara View point เป็นจุดชมวิวริมทาง
น้ำตกอุ่น Yutaki Falls (ยูทากิ)
น้ำตกอุ่น Yutaki Falls (ยูทากิ)
น้ำตกตัวที่สาม Yutaki Falls (เรียก Yutaki หรือ  Yudaki ก็ได้ ) ว่ากันว่ามันเป็นน้ำตกอุ่น เนื่องจากเป็นน้ำที่ผุดมาจากแหล่งน้ำพุหลายๆ แหล่งรอบทะเลสาบ แต่ไม่ได้พิสูจน์อุณหภูมิแต่อย่างใด เรามาถึงเย็นมากละ แดดหมดไปแล้ว เลยได้ภาพน้ำตกอารมณ์ขมุกขมัวแสงน้อยนิด แต่ก็ถือว่าเป็นน้ำตกทรงดีอีกแห่ง มันไหลมาเล็กๆ แล้วบานออกเรื่อยๆ ผ่านโตรกผานูนๆ อวบอูมตรงหน้า อยู่ถ่ายภาพได้นิดเดียวก็ต้องเผ่น แมลงไรไม่รู้เริ่มบินมากัดตามแขนขา เจ็บคัน ที่สำคัญ…โดนอยู่คนเดียว! ได้ไง
น้ำพุร้อน Yomoto
น้ำพุร้อน Yomoto
นิกโก้เป็นดินแดนแห่งออนเซ็น เฉกเช่นเดียวกันที่อื่นๆ ทั่วญี่ปุ่น คนไทยมาเที่ยวปุ่นก็นิยมที่จะต้องลงแช่น้ำแร่กัน นิกโก้มีแหล่งออนเซ็นชั้นดีหลายจุด Yomoto Onsen ก็เป็นหนึ่งในนั้น แต่.. เราไม่ได้มาออนเซ็น จริงๆ ก็ว่าจะแหละ แต่เปลี่ยนใจกันก่อนเพราะ… หิว สำหรับไฮไลท์ตรงนี้คือเรามาชมแหล่งกำเนิดของน้ำแร่ออนเซ็นกันเลย บริเวณนี้คือตาน้ำร้อน
เนินเขาทุ่งดอกไม้ (Nikko Kirifurikogen Hemerocallis flat orchards)
เนินเขาทุ่งดอกไม้ (Nikko Kirifurikogen Hemerocallis flat orchards)

ส้นทางมันจะไม่เกาะกลุ่ม มันจะฉีกออกไปไกลหน่อย ประมาณ 11 กิโลตั้งต้นจากสถานีรถไฟ Nikko เนินเขาทั้งลูกปกคลุมไปด้วยทุ่งดอกไม้ ที่หมุนเวียนเปลี่ยนไปทั้งปี หน้าร้อนดอกลิลลี่บานสะพรั่ง หน้าสปริงก็มีกุหลาบพันปีขึ้น หน้าหนาวเห็นว่ากลายเป็นลานสกี มีเทรลเดินยาวมาก เดินไปกลับน่าจะไม่ต่ำกว่า 3-4 กิโล เนินเขาแห่งนี้อยู่บนความสูงประมาณ 1300 -1600 เมตร เป็นเนินสูงๆ ต่ำๆ สลับๆ ใครที่ชื่นชอบดอกไม้ธรรมชาติเนี่ยไม่น่าจะพลาดที่นี่ไปได้เลย แต่ถ้าใครไม่ชอบนะ ผ่านเลยครับ เพราะวิวแลนด์มองไปก็งั้นๆ

 

ตะลุย Odaiba (โอไดบะ) กับ 8 สถานที่เที่ยวสุดฟิล! ในหนึ่งวัน ตามรอยชาว Pantip

 

บทสรุปส่งท้าย : Nikko (นิกโก้) น่าไปเที่ยวตามรอยชาว Pantip หรือเปล่า!?

Nikko Pantip  นิกโก้

 

Nikko (นิกโก้).. เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เหมาะอย่างมากสำหรับคนที่มีเวลาน้อย เพราะมีทั้งโซนท่องเที่ยวด้านศิลปวัฒนธรรม และท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่น่าสนใจมากมาย ถ้าหากใครมีเวลาน้อยแล้วอยากท่องเที่ยวให้ครบ จบในวันเดียว Nikko (นิกโก้) เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่น่าสนใจอย่างมากเลยทีเดียว..

 

ขอขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจากเว็บไซต์ Pantip

 

[CR] เที่ยวรัวรัว : One day in Nikko หนึ่งวันของฉันในนิกโก

[รีวิว] ทริปญี่ปุ่น ตอนที่ 2 Nikko (จากโตเกียวสู่นิกโก)… แบบละเอียด

10 ไฮไลท์ NIKKO in Summer สวยๆ [[ น้ำ-ฟ้า-ป่า-เขา ]] Japan

[CR] เที่ยวนิกโก้ (Nikko)โซนเมืองมรดกโลกในหุบเขา.. วันที่ 5 สะพายเป้เที่ยวญี่ปุ่น (JAPAN)

[CR] Go Go! Nikko วันเดียว เที่ยว 2 โซน [1/2]

NIKKO is NIPPON เที่ยว 1 วัน ทั้งโซน น้ำตก และ มรดกโลก

Lost in Nikko , เมืองเหงาๆที่แสนอบอุ่น ☃

ขอ step การเที่ยว NIKKO 1 day เช้า เย็นๆกลับ โตเกียว

 

 

ท่องเที่ยวLatest articles in the category