9 [[รีวิว]] เที่ยว พัก ชิล บนแพภูตะวัน ห่างไกลจากสัญญาณมือถือ แนะนำโดยชาว Pantip

แพจะไม่เปิดไฟฟ้าตั้งแต่ 6 โมงเช้าถึง 6 โมงเย็น ทำให้กลางวันจะไม่มีไฟฟ้าใช้นะครับ นอนในห้องตอนกลางวัน อบอ้าวและร้อนมากกกกก แต่ก็ ไปเล่นน้ำสิ มาเที่ยวเขื่อนมานอนทำไม 555

คลิก! อ่านกระทู้ต้นฉบับ

พอฝนหยุด ก็เล่นน้ำกันได้ กิจกรรมกลางวันที่นี่มีแค่ กิน นอน อ่านหนังสือ (ที่เตรียมมา) เล่นน้ำ พายเรือ แค่นี้จริงๆ เพราะมันไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ !!!!

คลิก! อ่านกระทู้ต้นฉบับ

อีกกิจกรรม นอกจากโดดน้ำ ลอยคอเล่น คือ พายเรือคายัค โดยเราต้องเอาเงินมัดจำ 200 บาท ไปมัดจำไม้พายมา ตอนเอาไปคืนก็ได้เงินคืนเต็มครับ มีทั้งเรือที่นั่งได้สองคน และแบบนั่งได้คนเดียว

คลิก! อ่านกระทู้ต้นฉบับ

พูดถึงห้องน้ำ ที่นี่จะเป็นห้องน้ำรวม ไม่แบ่งชายหญิง และไม่มีห้องน้ำในห้องนอน (ซึ่งก็ดี ไม่เหม็น มีคนบ่นให้เพื่อนฟังว่า แพที่มีห้องน้ำในตัวมีกลิ่นด้วย ซึ่งผมว่าก็จริงนะ) ห้องน้ำค่อนข้างสะอาด น้ำไหลแรงใช้ได้ ใครเข้าห้องน้ำตอนกลางคืนบ่อยๆ ก็ได้เดินบ่อยๆ 555

คลิก! อ่านกระทู้ต้นฉบับ

1. รถบัสของบริษัทพันทิพย์ สนามบินเข้าตลาดเกษตรในตัวเมืองสุราษฎร์ (150 บาท/คน) => ต่อรถตู้บริษัทพันทิพย์ => เขื่อนรัชชประภา (100 บาท/คน) * เส้นทางนี้เหมาะสำหรับคนที่จะเที่ยวในตัวเมืองสุราษฎร์ก่อน ราคาค่าเดินทาง 250 บาท

1. รถตู้บริษัทพันทิพย์ => เขื่อนรัชชประภา (200 บาท/คน) ต้องโทรจองที่นั่งล่วงหน้าก่อน 1 วันการเดินทาง เบอร์ 077-287-059 ควรบอกเวลาเผื่อเอากระเป๋าด้วยนะสำหรับคนโหลดกระเป๋า เพราะว่าคิวรถตู้จะเป็นรอบเวลา ทางคนรับจองจะจัดคิวรถตู้ตามเวลาให้เราเอง จองเสร็จก็เรียบร้อย ไม่ต้องกลัวว่าเค้าจะไม่มารับ พอเครื่องลง หรือตามเวลาที่เราบอกเค้าไว้ เค้าจะโทรตามเราเอง โดนมาแล้ว แหะๆ เกือบตกรถแหน่ะ!!!

คลิก! อ่านกระทู้ต้นฉบับ

  สำหรับคนที่พักแพภูตะวัน เจ้าหน้าที่จะโทรมาหาเรา นัดเวลากับเรา และบอกให้รถตู้ไปลงที่ “office แพภูตะวัน” นะ ไปถึง office นี่เหมือนถึงสวรรค์เลย ตึกแถวสวยงาม แอร์เย็นสบาย มีน้ำมีกาแฟบริการ ชำระเงินส่วนที่เหลือให้เรียบร้อย ก่อนจะนั่งรถตู้ VIP 10 ที่นั่ง แวะให้เราซื้อขนมด้วย ก่อนจะไปส่งเราที่ท่าเรือ … สำหรับส่วนนี้ ประทับใจบริการของแพมากครับ

คลิก! อ่านกระทู้ต้นฉบับ

ขากลับก็เหมือนเดิมครับ มีรถของแพมารับที่ท่าเรือ ไปพักที่ office แพภูตะวัน จนท.เค้าโทรหารถตู้ให้มารับเราที่ office แล้วไปส่งสนามบิน ค่ารถ 150 บาทต่อคนเหมือนเดิม แต่พวกเราโชคดีตรงที่แพเค้าคุยกับรถตู้ ขอให้ไปส่งเราที่ร้านของฝาก “แม่จิตร” (ซึ่งปกติไม่ผ่าน) แล้วขอร้านของฝากไปส่งเราที่สนามบินให้ด้วย..

คลิก! อ่านกระทู้ต้นฉบับ

แพภูตะวัน ซึ่งทางแพ จะมีบ้านพัก 2 แบบ

1. โซนแคปซูล : ห้องที่เราเลือกพักนั้นเอง มีทั้งหมด 30 ห้อง
2. โซนบ้านไม้เรือนกระจก : ด้านหลังห้องจะเห็นภูเขาใกล้มากกว่าแคบซูล ห้องเลยถูกเขียนไว้ว่า วิวภูเขา แต่ด้านหน้าห้องก็คือวิวแม่น้ำเหมือนกัน

คลิก! อ่านกระทู้ต้นฉบับ

มาส่องห้องพักกันดีกว่า วันนี้หวยออกเลขที่ 27 เลขเดียวกับงวดที่เรามาเมื่อปีที่แล้วเด้ะๆ เลย ประตูหลังห้องจ้ะ เตียงก็เป็นเตียงฟูกยางพารา แข็งๆหน่อย แต่นอนสบายมากกกก เหมือนนอน โรงแรมเลย ตอนเรามาปีที่แล้วคือแบบ สปริงอ่ะ ไม่โอเค มางวดนี้ละ ปลื้มปริ่มมาก เยี่ยม มีหมอนสำรองให้ด้วยนะ เพราะจริงๆห้องพักเค้าให้พักเยอะ ถ้าอัดกันไหวนะ เราว่า 4 ท่าน กำลังดีล่ะ ห้องพัดลมนาจ๊าาาา ตอนเรามาโชคดีคือฟ้าคลึ้มๆไม่ร้อนเผามาก มีลมเย็นๆ สบายๆ แต่ถ้ามาละฟ้าเปิด คือร้อนมากกกค่ะยูว!!! เราเตรียมพัดไปเลยอ่ะ กันพลาดเมื่อปีที่แล้ว แต่สรุปเย็นสบาย อิอิ

คลิก! อ่านกระทู้ต้นฉบับ

ร่องเรือประมาณ 20 นาที ก็ถึงแล้วววววว เขาสามเกลอ จุดแลนด์มารค์ของทุกคน เสียดายเรือต่อคิวเยอะไปหน่อย เรือของเราเลยจอดเทียบด้านข้าง แต่ก็สวยไปอีกแบบนะ

คลิก! อ่านกระทู้ต้นฉบับ

เดินทางไปดูถ้ำปะการัง ซึ่งอันนี้จะต้องขึ้นเนินเขาข้ามไปอีก 1 ลูกก่อน เดินสักพัก ก็ถึงแล้ววว ท่าเรือแพ ที่เราจะนั่งไปต่อเพื่อข้ามไปดูถ้ำปะการังกัน บรรยากาศการล่องแพ สามารถเอาเท้าลงน้ำได้ ไกด์เด็กน้อยไม่ว่าอะไรจ๊า ไม่นานนักก็ถึงทางเข้าถ้ำแล้ว !!! พอเข้าด้านใน น้องเค้าจะให้ ไฟฉายมา 3 อัน เหมือนคนกรีดยางอ่ะ ใส่ที่หัว ต้องแบ่งๆกันนะ เรามาเป็นแบบหมู่คณะ นอกนั้นก็เดินตามน้องๆ ไกด์เลยจ้ะ

คลิก! อ่านกระทู้ต้นฉบับ

สำหรับข้อมูลการจองแพ เสิร์ชชื่อแพใน google ก็จะเจอเว๊บของเค้าเลยครับ ผมจอง 3 วัน 2 คืน ไปกัน 3 คน ตกคนละ 4000 บาท อาหาร 6 มื้อ (เที่ยงเย็นวันแรก เช้าเที่ยงเย็นวันทีสอง และเช้าวันทีสาม) รวมตั้งแต่ เรือมาจากท่าเรือ จนเรือกลับไปถึงท่าเรือ ระหว่างนั้นไม่ต้องเสียเงินอะไรเลยครับ

คลิก! อ่านกระทู้ต้นฉบับ