19 สถานที่ท่องเที่ยวที่จะทำให้ชาว Pantip ร้องคำว่า “รักจังเลย!”

ด้วยระยะทางการเดินป่าขึ้นเขา 5 กิโลเมตร และต่อทางราบบนเขา 3-4 กิโลเมตร อาจไม่ใช่อุปสรรคของใครหลายๆคน เพื่อจะได้ไปสัมผัสกับโลกที่แตกต่างบนภูเขาลูกนี้ เพราะบรรยากาศบนภูกระดึง เหมือนกับอีกโลกหนึ่ง… ที่เต็มไปด้วยป่าสน ลำธาร สายหมอก น้ำตก และใบเมเปิ้ลสีแดง ที่ร่วงหล่นสองข้างทางเดิน มีจุดชมวิว หน้าผาชมพระอาทิตย์ตก เช่น ผาหล่มสักและผาหมากดูก และทะเลหมอกในยามเช้าที่ผานกแอ่น การเดินทางขึ้นภูกระดึง ใช้เวลาเดินเท้า 3-5 ชั่วโมง แต่ระหว่างทางมีจุดพัก ร้านอาหาร ร้านของฝาก ที่เรียกว่า ซำ และยังมีบริการลูกหาบช่วยยกสิ่งของขึ้นภู อาจเหนื่อยหน่อยนะครับ แต่เมื่อถึงจุดยอดภูแล้ว ไม่ต้องห่วงเลยครับ มีทั้งร้านเนื้อย่าง ร้านอาหาร ร้านเช่าเต็นท์ บรรยากาศคล้ายๆตลาดเลยทีเดียว นอกจากนี้ บนภูกระดึงเป็นที่ราบขนาดใหญ่ สามารถปั่นจักรยานเที่ยวรอบๆได้ แน่นอนครับมีจักรยานให้เช่าด้วย

ภูกระดึงมีช่วงเวลา เปิดฤดูการท่องเที่ยว ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม – 31 พฤษภาคม ของทุกปี และปิดฤดูการท่องเที่ยว ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน – 30 กันยายน ของทุกปี ถ้าอยากดูน้ำตกสวยๆก็ต้องเดือนตุลาคม-พฤศจิกายน ถ้าอยากดูใบเมเปิ้ลเปลี่ยนสีก็ต้อง ธันวาคม-มกราคม

ทะเลหมอกและสายลมในหน้าหนาว ที่สามารถสัมผัสได้ทุกเพศทุกวัย แค่เดินจากจุดจอดรถไม่กี่ก้าวเท่านั้นเอง เพราะรถยนต์สามารถขับไปได้ถึงยอดภูเรือ อุทยานแห่งชาติภูเรือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สามารถเที่ยวได้ทั้งปี เพราะเป็นที่สูงมีอากาศหนาวเย็นตลอดปี โดยเฉพาะฤดูหนาว จะมีทะเลหมอกทอดตัวยาวตามแนวยอดเขา ที่ทำเป็นทางเดินสำรวจธรรมชาติ และยังมีระเบียงที่ยื่นออกสู่หน้าผา ภายในอุทยานมีจุดท่องเที่ยวมากมาย ทั้งสวนต้นสน สวนดอกไม้ น้ำตก หน้าผา ถ้ำและลานหินรูปร่างแปลกตา นอกจากนี้ยังมีจุดกางเต็นท์ บ้านพัก รอบๆอุทยานก็ยังมีรีสอร์ทมากมาย ในช่วงเดือนธันวาคม – มกราคม เป็นช่วงเวลาที่ภูเรือจะสวยที่สุด เพราะเป็นช่วงดอกไม้เมืองหนาวผลิบาน อีกทั้งยังมีต้นซากุระเมืองไทย (ต้นพญาเสือโคร่ง) ดอกสีชมพูบานสะพรั่งเต็มต้น อุทยานแห่งชาติภูเรือ อยู่ห่างจากจังหวัดเลย 50 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางเเค่ 1 ชม.

ถนนริมแม่น้ำโขงตลอดความยาว กว่า 2 กิโลเมตร เต็มไปด้วยบ้านไม้โบราณกว่าร้อยปี และร้านค้า ร้านขายของที่ระลึก ร้านขายของทำมือ สินค้าพื้นเมือง บรรยากาศเมืองเล็กๆที่เต็มไปด้วยวัฒนธรรมและบ้านเรือนที่สร้างจากไม้ ริมแม่น้ำโขง อีกทั้งยังอนุรักษ์ร้านค้าโบราณ ร้านทำหมอน ร้านท่อผ้า โรงหนังโบราณ ร้านขายของหัตถกรรม ราวกลับเวลาย้อนกลับไป 30-40 ปีก่อน เมืองโบราณหลายร้อยปี ที่มีกลิ่นไอของหลวงพระบาง ประเทศลาว เนื่องจากเมื่อหลายร้อยปีก่อนนั้น… ประเทศลาวย้ายเมืองหลวงจากหลวงพระบางมาที่เวียงจันทน์ ชาวหลวงพระบางส่วนหนึ่ง จึงอพยพมาตั้งเมืองริมแม่น้ำโขงที่เชียงคานในปัจจุบัน ทำให้คนเชียงคาน มีสำเนียงและวัฒนธรรมที่มีเอกลักษณ์ ต่างจากคนอีสานในจังหวัดอื่นๆ ที่พักต่างๆในเชียงคาน ถูกปรับปรุงจากบ้านไม้โบราณ ทำให้ได้บรรยากาศกลิ่นไอเรือนไม้อีสาน ลองมานอนที่เชียนคานสักครั้ง รับรองว่าได้บรรยากาศที่ไม่เหมือนที่ใดมาก่อนแน่นอนครับ

ภูเรือเป็นอำเภอที่มีการเพาะพันธุ์ต้นไม้เมืองหนาวที่ใหญ่ที่สุด เพื่อจำหน่ายไปทั่วไปประเทศ จึงเป็นพื้นที่ที่มีสวนดอกไม้มากมาย เช่นบริเวณด้านหน้าและด้านหลังที่ว่าการอำเภอภูเรือ มีการจัดจำหน่ายสินค้า ร้านอาหาร เครื่องดื่มและการแสดงดนตรี นอกจากนี้ยังมีสวนดอกไม้ของเอกชนที่ตกแต่งดอกไม้หลายหลายสีสัน ในบรรยากาศทุ่งดอกไม้ ให้นักท่องเที่ยวได้เข้าไปถ่ายรูปในสวน แถมยังสามารถซื้อต้นไม้กลับไปตกแต่งที่บ้านได้ด้วยนะครับ ทุ่งดอกไม้ อยู่ไม่ไกลจากอุทยานแห่งชาติภูเรือ ห่างจากตัวอุทยานประมาณ 10 กิโลเมตร จึงสามารถเดินทางท่องเที่ยวต่อเนื่องเป็นเช่นทางเดียวกันได้เลย

ภูบ่อบิด เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับการพัฒนาไม่นานนัก แต่เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวมากมาย เพราะอยู่ใกล้ตัวเมือง สามารถนำรถขึ้นไปได้เกือบถึงยอดภู แค่เดินอีกประมาณ 500 เมตร ก็ถึงจุดชมวิวยอดเขาแล้ว ทางเดินขึ้นมีบันไดเหล็ก สามารถเดินขึ้นได้อย่างสะดวก จุดชมวิวด้านบนสามารถมองเห็นทั้งฝั่งตัวเมืองเลย ที่มีแม่น้ำเลยไหลผ่าน โดยมีฉากหลังเป็นทิวเขาน้อยใหญ่เรียงราย นอกจากนี้ยังมีระเบียงชมวิว ที่สร้างหลายจุด หลายชั้น บางจุดสร้างเป็นหอชมวิว สามารถชมวิวมุมสูงได้โดยรอบ นอกจากชมวิวทะเลหมอกในยามเช้าแล้ว ยังมีจุดชมวิวพระอาทิตย์ตกที่สวยงามไม่แพ้กัน และช่วงหลังพระอาทิตย์ตกดินยังสามารถชมแสงสีในตัวเมือง เสมือนว่าเป็นแสงดาว บนพื้นดินเลยทีเดียวครับ

แก่งคุดคู้เป็นแก่งหินกลางลำน้ำโขง ในช่วงหน้าแล้ง น้ำลดทำให้เห็นแนว เกาะแก่งของโขดหินกลางลำน้ำโขง มีฉากหลังเป็นภูเขาสูงใหญ่ชื่อว่าภูควายเงิน นอกจากธรรมชาติที่สวยงามแล้ว แก่งคุดคู้ยังมีของฝากขึ้นชื่อคือ มะพร้าวแก้ว ที่ใครๆต่างบอกว่าอร่อยที่สุดของประเทศไทย ในช่วงหน้าหนาว มีสวนดอกไม้ริมแก่งคุดคู้ ที่แต่งด้วยไม้ดอกเมืองหนาว หลากหลายสีสรร เปิดบริการให้นักท่องเที่ยวเข้าชมและถ่ายภาพ ไม่ไกลจากแก่งคุดคู่คือ ภูทอก จุดชมวิวทะเลหมอกของเชียงคาน ห่างจากตัวเมืองเชียงคาน 5 กม. สามารถจอดรถได้ที่ตีนภู แล้วต่อรถสองแถวบริการของชุมชน ไปถึงยอดภู โดยไม่ต้องเดินให้เหนื่อยเลยครับ

ท่ามกลางหุบเขาที่โอบล้อมหนองน้ำขนาดใหญ่ ห่างจากตัวเมืองจังหวัดเลยแค่ 15 กม. เป็นที่ตั้งของอ่างเก็บน้ำห้วยกระทิง ที่ดังกล่าวถูกพัฒนาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ ที่เที่ยวได้ทั้งปี มีเอกลักษณ์ คือแพไม้ไผ่ที่ลอยล่องกลางหนองน้ำ มีจุดบริการการล่องแพ โดยจะมีเรือยนต์นำแพออกไปกลางหนองน้ำ มีบริการอาหารและเครื่องดื่ม โดยเฉพาะไก่ย่าง-ส้มตำ ที่แซ่บไม่แพ้ที่ใด สำหรับใครที่อยากนั่งเล่นชิวๆริมน้ำ ก็สามารถทานอาหารที่แพริมน้ำได้

ภูลำดวน เราถือว่าเป็นไฮไลท์เลย ขับรถจากเชียงคานประมาณ 40 นาที แต่วิวอลังการมาก เป็นจุดชมวิวที่เพิ่งเปิดได้ไม่นาน อยู่ที่ อ.ปากชม มีสกายวอล์ค เป็นสะพานไม้ และมีจุดชมวิวทั้งหมด3จุด ชมวิวได้แบบ 360 องศาเลย กดชัตเตอร์กันรัวๆ มองไปมุมไหนก็สวยไปหมด ยิ่งช่วงเช้ามีทะเลหมอกสวยงามมาก  ชมวิวโค้งแม่น้ำโขง อากาศหนาวเย็นสบาย

🚗 การเดินทาง ขับรถมาจอดที่จุดรับฝากรถ แล้วนั่งรถอีแต๊ก ต่อประมาณ 15 นาที ค่ารถอีแต๊ก : คนละ60บาท

ภูป่าเปาะ จุดเด่นของที่นี่ คือการมาชม ภูหอ หรือ ฟูจิเมืองเลย ที่เรียกว่าฟูจิ เพราะลักษณะคล้ายภูเขาไฟฟูจิที่ประเทศญี่ปุ่น เป็นภูเขายอดตัด ไม่เหมือนใคร โดยจุดชมวิวบนภูป่าเปาะจะมีอยู่ทั้งหมด 4 จุด จุดที่1-3 ไม่ต้องเดิน นั่งรถอีแต๊กแวะเที่ยวได้เลย แต่จุดที่4 ต้องเดินขึ้นไปอีก 200 เมตร จะเป็นวิว 360 องศาจ้า แต่จุดที่ชมวิวภูหอได้ใกล้ที่สุดและสวยที่สุด เรายกให้จุดที่ 1 เลยจ้า วิวที่นี่สวยมาก เป็นอีกที่ ที่หนาวนี้ไม่ควรพลาด

🚗การเดินทาง ขับรถไปจอดที่จุดขึ้นรถอีแต๊กภูป่าเปาะ แล้วนั่งรถอีแต๊กต่อ 15-20 นาที ปล.ให้ขับรถไปตามพิกัดที่ให้ไปน้า หากขับตามกูเกิ้ลแมพที่เป็นจุดชมวิวเราจะขึ้นไม่ได้นะ ค่ารถอีแต๊ก : คนละ 60 บาท

ไปภูลมโล ไปชมซากุระเมืองไทยกันค่า ที่ภูลมโล ปลูกดอกพญาเสือโคร่งเยอะมากๆ ชมพูไปทั้งภูเขา ส่วนช่วงเวลาการบานแล้วแต่สภาพอากาศ ส่วนใหญ่จะบานประมาณเดือน มกราคม ต้องบอกเลยว่าสวยมากจริงๆ ใครชอบดอกไม้ไม่ควรพลาด และอากาศบนภูหนาวมากๆๆๆ

🚗การเดินทาง ไม่สามารถขับรถขึ้นไปเองได้ค่ะ มีบริการรถสำหรับนักท่องเที่ยวซึ่งสามารถขึ้นภูลมโลได้ทั้ง 3 ทาง คือ จังหวัดพิษณุโลกขึ้นทาง อช.ภูหินร่องกล้า จังหวัดเพชรบูรณ์ขึ้นทางบ้านทับเบิก ส่วนจังหวัดเลยขึ้นทาง ต.กกสะทอน อ.ด่านซ้าย จ.เลย

พระธาตุศรีสองรัก สร้างขึ้นสมัยพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช เมื่อปี พ.ศ. 2103 เสร็จในปี พ.ศ. 2106 พระธาตุศรีสองรักสร้างขึ้นเพื่อให้เป็นสักขีพยานในการช่วยเหลือซึ่งกันและกันระหว่างกรุงศรีอยุธยา (สมัยสมเด็จพระมหาจักรพรรดิ) กับกรุงศรีสัตนาคนหุต (ปัจจุบันคือเวียงจันทน์ ประเทศลาว) ทางเดินเข้าสูพระธาตุ องค์สีขาวศิลปไทยลาว    กษัตริย์ทั้งสองพระองค์ทรงครองราชสมบัติ ตรงกับสมัยที่พม่าเรืองอำนาจ และมีการรุกรานดินแดนต่าง ๆ เพื่อขยายอำนาจ สมเด็จพระมหาจักรพรรดิและพระเจ้าไชยเชษฐาธิราชจึงตกลงรวมกำลัง เพื่อต่อสู้กับพม่า จึงทรงกระทำสัตยาธิษฐานว่าจะไม่ล่วงล้ำดินแดนของกันและกัน และเพื่อเป็นที่ระลึกในการทำไมตรีต่อกัน จึงได้ร่วมกันสร้างพระธาตุศรีสองรักเพื่อเป็นสักขีพยาน ณ กึ่งกลางระหว่างแม่น้ำน่านและแม่น้ำโขง ซึ่งเป็นรอยต่อของทั้งสองราชอาณาจักร

วัดเนรมิตวิปัสสนา ตั้งอยู่ในอำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย วัดตั้งอยู่สูงเด่นอยู่บนเนินเขา ห่างจากพระธาตุศรีสองรัก เพียงเล็กน้อย อุโบสถและเจดีย์ภายในวัดก่อสร้างด้วยศิลาแลงทั้งหลัง ตกแต่ง อย่างวิจิตรงดงามตามศิลปะภาคกลาง มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ขนาดกว้าง 40 เมตร ยาว 80 เมตร บริเวณพื้นที่โดยรอบมี การจัดแต่งสวนและต้นไม้ร่มรื่นสวยงาม พระอุโบสถและเจดีย์ภายในวัดล้วนก่อสร้างด้วยศิลาแลงทั้งหมดได้ให้บรรยากาศทั้งความเข้มขรึม ศรัทธาและสำรวม ประตูหน้าต่างเป็นไม้มะค่าแผ่นเดียว เขียนลายน้ำลงรักปิดทองอย่างประณีต

ร้านอาหารพื้นเมืองหลวงพระบาง วิวแม่น้ำโขง  ตั้งอยู่บนถนนคนเดินเชียงคาน ใครที่ผ่านไปมาจะต้องเห็นร้านนี้แน่นอน ร้านจะเป็นบ้านไม้สองชั้น สามารถนั่งทานด้านล่างและชั้นบนได้ อาหารที่แนะนำ น้ำพริกหลวงพระบางหมูทอด (แจ่วบอง) กระหล่ำทอดน้ำปลา ปลาส้มทรงเครื่องทอด ถั่วไร่ไฟแดง 156 ม.2 ถ.ชายโขง อ.เชียงคาน จ.เลย 42110 โทรศัพท์ 042-821-046 มือถือ : 089-009-4345 heonluangprabang@gmail.com เวลา เปิด-ปิด 11.00- 15.00 น.(รอบแรก) เปิด-ปิด 17.00- 22.00 น.(รอบสอง)

ตั้งอยู่ที่บ้านนาป่าหนาด ตำบลเขาแก้ว เดิมชาวไทดำอพยพมาจากเมืองเชียงขวาง ประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2448 มาตั้งถิ่นฐานอยู่ที่บ้านนาป่าหนาด โดยก่อตั้งเป็นหมู่บ้านวัฒนธรรมไทดำขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2539 โดย อาจารย์เพชรตะบอง ผู้อำนวยการศูนย์การศึกษานอกโรงเรียน อำเภอเชียงคานร่วมกับชาวบ้าน บ้านนาป่าหนาดในการจัดสร้างขึ้นเพื่อให้เป็นแหล่งที่เผยแพร่ข้อมูลด้านวัฒนธรรม และวิถีชีวิตรวมทั้งประวัติ ความเป็นมาของชนชาวไทดำบ้านนาป่าหนาด ปัจจุบันยังมีการอนุรักษ์วัฒนธรรมไทดำ มีบ้านที่สร้างขึ้นตามแบบเอกลักษณ์ดั้งเดิมของชาวไทดำ รวมทั้งเครื่องใช้ต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน ที่แสดงให้เห็นถึงวิถีชีวิตความเป็นอยู่ในอดีต และยังมีการรวมกลุ่มทอผ้าพื้นเมือง ของชาวบ้าน โดยสามารถชมการทอผ้า และเลือกซื้อสินค้าเป็นของฝากได้ ทุกท่านสามารถเข้าไปเยี่ยมชมและศึกษาประวัติข้อมูลของคนไทดำ และยังมีหัวหน้าชุมชนเป็นวิทยากรและพาเยี่ยมชมภายในหมู่บ้าน