นิกโก้เมืองมรดกโลกแห่งจังหวัด โทจิกิประเทศญี่ปุ่นซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลจากโตเกียวนัก เดินทางสะดวก 1 Day Trip ก็ไม่เป็นปัญหาซึ่งภายในนิกโก้เมืองมรดกโลกนั้นเป็นแหล่งรวมสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆดังนี้
ศาลเจ้านิกโก้โกโทโชกุ | ชมความงามแห่งยุคโชกุน |
ศาลเจ้านิกโก้ฟุตะระซัง | ศาลเจ้าที่ควรค่าแก่การศักการะ |
สะพานชินเคียว | หนึ่งในสามของสะพานที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น |
ทะเลสาบชูเซ็นจิโกะนิกโก้ | สัมผัสบรรยากาศริมทะสาบที่ไม่เหมือนที่ไหน |
น้ำตกเคะงนนิกโก้ | แหล่งธรรมชาติน้ำตกที่สวยที่สุด |
หมู่บ้านนิกโก้เอโดะ | แหล่งวัฒนธรรมในยุคสมัยเอโด |
ซึ่งเส้นทางการเดินทางไปนิกโก้นั้นทำได้อย่างไรบ้าง ไปดูคำแนะนำจากชาว Pantip กันเลย
วิธีเดินทางไป Nikko นิกโก้ เมืองมรดกโลก
1.เดินทางไปนิกโก้ด้วยรถยนตร์(เช่ารถ)
กว่าจะถึง Nikko ก็ประมาณ 11 โมงเห็นจะได้ สำหรับที่หมายของวันเบาๆ วันนี้คือการไปชมดินแดนที่เรียกได้ว่ามีความสวยงามขั้นมรดกโลก มีศาลเจ้าที่โด่งดังและธรรมชาติที่สวยงาม
2.เดินทางไปนิกโก้ด้วยรถไฟ
วิธีประหยัดกว่า คือ นั่งรถไฟ TOBU และ รถบัส TOBU ( ข้อมูลตรงนี้มีเยอะมาก )จาก สถานี JR ueno ผมจองตั๋ว รถไฟ shinkansen เที่ยวแรกสุด. 6.18 นาที สำรองที่นั่งเรียบร้อย
สถานี TOBU nikko เข้าไปในสถานี ซื้อตั๋ว ราคา 2,000 เยน สามารถ นั่งรถเที่ยวได้ทั้ง 2 โซน
ไม่จำกัดเที่ยว ในเวลา 2 วัน
1. Nikko All Area Pass : เป็นบัตรที่ครอบคลุมการใช้บริการรถไฟและรถบัสของ Tobu ได้ทั้ง 3 โซน
– สามารถนั่งรถไฟสาย Tobu จากสถานี Asakusa – สถานี Shimo-Imaichi ไป-กลับ 1 รอบ
– สามารถนั่งรถไฟและรถบัสของ Tobu สาย 2A, 2B, 2C, 2D ได้ทุกเส้นทาง
– มีระยะเวลาในการใช้บัตรได้ 4 วัน 3 คืน
วิธีการเดินทางภายใน Area นิกโก้มรดกโลก
– สามารถนั่งรถไฟสาย Tobu จากสถานี Asakusa – สถานี Shimo-Imaichi ไป-กลับ 1 รอบ
– สามารถนั่งรถไฟและรถบัสของ Tobu เฉพาะสาย 2C เท่านั้น ถ้าจะนั่งสาย 2A, 2B สามารถนั่งได้ถึงป้าย Rengeishi เท่านั้น
– มีระยะเวลาในการใช้บัตรได้ 2 วัน 1 คืน
– สามารถนั่งรถไฟสาย Tobu จากสถานี Asakusa – สถานี Shimo-Imaichi ไป-กลับ 1 รอบ
– สามารถนั่งรถไฟและรถบัสของ Tobu เฉพาะสาย 2C เท่านั้น ถ้าจะนั่งสาย 2A, 2B สามารถนั่งได้ถึงป้าย Rengeishi เท่านั้น
– สามารถนั่งรถบัสที่ Kinugawa Onsen Bus-Terminal (ป้าย 3)
– สามารถแลกตั๋วเข้าชมที่เคาน์เตอร์ทางเข้าก่อนเข้าสวนสนุก
– มีระยะเวลาในการใช้บัตรได้ 2 วัน 1 คืน
สถานที่ใน นิกโก้ ที่ชาวPantip ไปเยือน
หลังจากที่ศึกษาเส้นทาง การเดินทางมาเที่ยวที่นิกโก้กันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เรามาดูสถานที่จริงกันดีกว่า มีเป็นอย่างไรและเมื่อไปถึงสมาชิก Pantip ได้รับประสบการณ์อะไรกันกลับมาบ้าง
1.ศาลเจ้านิกโก้โทโชกุ
– Gojunoto หรือ เจดีย์ 5 ชั้นสีแดงสด ความสูง 36 เมตร
– Yomeimon Gate ซุ้มประตูทางเข้าศาลเจ้าที่สวยงามด้วยสีเหลืองทอง เปิดบูรณะไปยาวนานถึง 4 ปีเต็ม เพิ่งจะกลับมาเปิดให้ชมได้เมื่อปี 2017 ที่ผ่านมา
– Karamon Gate ซุ้มกระตูทางเข้าอีกชั้นที่อยู่ติดกับ main hall (ตอนนี้อยู่ระหว่างปรับปรุงบางส่วน)
– รูปปั้นแกะสลักรูปสัตว์ทั้ง 3 จุด คือ Three Monkeys 🙈🙉🙊, Imaginary Elephants 🐘 , และ Sleeping Cat 🐈
สำหรับในส่วนศาลเจ้า Nikko Toshogu Shrine นี้จะเสียค่าเข้าคนละ 1,300 JPY 🎟 นะคะ คุ้มค่ะข้างในสวยมาก
ปล. ใครขับรถมา สามารถขับขึ้นไปจอดใกล้ศาลเจ้าด้านบนเขาได้นะคะ
2.น้ำตกเคะงน
โดยต้องซื้อบัตรราคา 550 JPY/คน 🎟 เพื่อลงลิฟท์ความลึก 100 เมตร ใช้เวลา 1 นาที เพื่อลงไปยัง observatory desk ค่ะ
จากจุดด้านล่างเราสามารถมองเห็นความยิ่งใหญ่ของ Kegon Falls ได้อย่างชัดเจน ยิ่งถ้าเป็นช่วงน้ำเยอะๆ หน่อยคงจะดีงามกว่านี้มากมาย
(ช่วงนี้น้ำน้อยค่ะ อาจจะไม่อลังการมากนัก)
อ่อ… และหลังจากชมน้ำตกแล้วก่อนกลับ อย่าลืมชิมปลาย่างเกลือของดีของ Nikko ด้วยนะคะ มีขายอยู่ที่ร้านอาหารด้านหน้าทางลงไปน้ำตกนี่เลยค่ะ
มีปลา 3 ชนิดให้เลือก คือ Ayu , Iwana และ Yamame 🐟 ราคาตัวละ 600 JPY เสียบไม่ย่างทานได้ทั้งตัวหัวจรดหางเลยค่ะ !!!
3.ทะเลสาบชูเซ็นจิโกะ
(ถ้ามาช่วงบ่ายจะถ่ายรูปแล้วย้อนแสงหน่อยนะคะ 📷)
4.ศาลเจ้าฟุตะระซัง
5.สะพานชินเคียว
ของกินที่ขาดไม่ได้เมื่อไปเยือนนิกโก้
เที่ยวกันจนเหนื่อยแล้ว เพราะสถานที่ในนิกโก้คือจัดมาแบบแน่นๆ เดินบ้างอะไรบ้างก็อาจมีเหงื่อตกกันสักหน่อย ดังนั้นกองทัพต้องเดินด้วยท้อง!!
ปลาย่างแห่งนิกโก้
อ่านกระทู้ Pantip รีวิวนิกโก้ฉบับเต็มคลิกที่นี่
สรุปเที่ยวนิกโก้เมืองมรดกโลกตามรอย Pantip
นิกโก้เมืองมรดกโลกแห่งนี้มีสถานที่ให้ท่องเที่ยวทั้งศาลเจ้าให้ศักการะบูชา เสริมดวงหรือจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติก็มีให้เลือกดื่มด่ำ ไหนจะชองกินขึ้นชื่ออย่างปลาย่างสดๆ เนื้อหวานหอมอร่อย ใครมาเที่ยวญี่ปุ่นก็อย่าลืมเก็บนิกโก้ไว้เป็นหนึ่งในลิสแพลนเที่ยวของคุณด้วยนะ