- 1. แกงกระหรี่ญี่ปุ่น ไม่ได้ยากอย่างที่คิด!!! เพียงทําตามคําแนะนําชาว Pantip
- 1.1. แกงกระหรี่ญี่ปุ่น ใช้ตัวช่วยเพื่อทำให้ได้ง่ายขึ้น!!! ตามแบบชาว Pantip สูตรที่ 1
- 1.2. แกงกระหรี่ญี่ปุ่น ใส่ฟักทอง!!! หน้าตาจะเป็นแบบไหน ตามแบบชาว Pantip สูตรที่ 2
- 1.3. แกงกระหรี่ญี่ปุ่น สูตรต้นตำหรับ!!! ต้องลอง ตามแบบชาว Pantip สูตรที่ 3
- 1.4. แกงกระหรี่ญี่ปุ่นเนื่อจากญี่ปุ่น!!! มาดูกันแบบชาว Pantip สูตรที่ 4
- 1.5. แกงกระหรี่ญี่ปุ่นหมูยัดไส้มะเขือเทศ!!! อร่อยเหาะตามแบบชาว Pantip สูตรที่ 5
- 2. บทสรุปส่งท้าย : แกงกระหรี่ญี่ปุ่นมือใหม่ก็ทำได้!! ลองทำตามแบบชาว Pantip ดูสิ
แกงกระหรี่ญี่ปุ่น ไม่ได้ยากอย่างที่คิด!!! เพียงทําตามคําแนะนําชาว Pantip
แม้จะไม่ไปกินถึงประเทศญี่ปุ่น คุณก็สามารถที่จะฝึกทำแกงกระหรี่ญี่ปุ่นได้ โดยดูได้จากตัวอย่างของชาว Pantip ที่จะมีการรวบรวมหลักสูตรการทำแกงกระหรี่ญี่ปุ่น มาไว้ให้คุณได้ลิ้มลอง ตอนอยู่ในห้องครัวของตัวเองก็สามารถทำได้ เพื่อที่จะช่วยให้บรรยากาศในครอบครัวได้เพลิดเพลินกับอาหารหลากหลายมากขึ้น ไปรับชมกันเลย
อร่อยจนลืมฟิล! [5 สูตร] ต้มแซ่บกระดูกหมูอ่อน แนะนำวิธีทำโดยชาว Pantip
แกงกระหรี่ญี่ปุ่น ใช้ตัวช่วยเพื่อทำให้ได้ง่ายขึ้น!!! ตามแบบชาว Pantip สูตรที่ 1
วัตถุดิบที่ต้องเตรียม
1. ก้อนแกงกะหรี่
2. เนื้อหมูหันเต๋า
3. หอมหัวใหญ่
4. เเครอทเเละมันฝรั่ง
5. เเอปเปิล มะม่วงสุก
ขั้นตอนการทำ
1. เนื้อหมูหันเต๋า หอมหัวใหญ่จะหันเต๋าก็ได้นะหรือจัหันเเบบตามรูปก็ได้ เพราะสุดท้ายมันจะละลายไปกับน้ำเลย เเครอทเเละมันฝรั่งกันเต๋า จริงเเล้วต้องหันเเครอทให้เล็กกว่ามันฝรั่ง เพราะเเครอทสุกยากกว่ามันฝรั่ง เเอปเปิล มะม่วงสุก
2. ตั้งกะทะ ให้ร้อนใส่เนยลงไป นำมันพืชก็ได้นะตามสะดวกเลย เเต่ใส่เนยหอมกว่าเยอะ
เอาหมูลงไปผัดๆ ผัดพอสุก ใส่หอมหัวใหญ่ตามลงไป
3. พอหัวใหญ่เริ่มสุกสีเริ่มใส กลิ่มจะหอมขึ้นเยอะมาก หอมเนย หอมเนื้อหมูผัดเนย เพิ่มความหอมจากหอมหัวใหญ่อีกโอ๊ยยยย (พิมพ์ไปท้องร้องไป) โยนเเครอทตามลงไป ปิดท้ายด้วยมันฝรั่ง ผัดให้เข้ากันอีกสักพัก
4. เติมน้ำสต๊อก พูดซะหรูเลย 5555555555 จริงๆเเล้วเป็นน้ำเปล่าธรรมดาเนี่ยเเหละ
ขั้นตอนนี้เปลี่ยนจากกะทะเป็นหม้อเลย ง่ายต่อการเคี่ยวเเกง เคี่ยวจนทุกอย่างเปื่อยตามที่พอใจ
5. พอทุกอย่างเปื่อยเเล้ว ใส่ก้อนเเกงสับๆลงไปคนให้เข้ากัน ที่สับก้อนเเกงเพราะมันจะละลายง่าย ไม่ต้องคนมาก ช่วงนี้หมั่นคนหน่อย เดี่ยวจะไหม้ติดหม้อ เเต่ต้องเบาๆมือ ผักมันจะเละเอา
6. อ่าวเเล้วแอปเปิ้ลกับมะม่วงหายไปไหน สูตรนี้เอาใส่ท้ายสุดเลยค่ะ เอาไปปั่นรวมกัน เติมสองอย่างนี้หลังจากเราใส่ก้อนเเกงไปประมาณ5นาที ช่วงที่ใส่เเอปเปิลเเละมะม่วงปั่น น้ำเเกงจะข้นขึ้นเยอะมาก ใครชอบเค็มก็ใส่เกลือ ชอบเผ็ดก็ใส่พริกบ่นละเอียด ในตอนนั้นได้เลย เเค่นี้เป็นอันเสร็จพิธีกกรรมเรียบร้อย
แกงกระหรี่ญี่ปุ่น ใส่ฟักทอง!!! หน้าตาจะเป็นแบบไหน ตามแบบชาว Pantip สูตรที่ 2
ส่วนผสม
1. หัวหอมใหญ่ 2 หัว
2. แครอท 2 หัว
3.ฟักทอง 3 ชิ้น (หั่นสี่เหลี่ยมใหญ่นิสสสสสสสสนึง)
4 ผงแกงกะหรี้ญี่ปุ่น 12 ก้อน (ตามสูตร 9 ก้อน ดันซื้อแบบไม่เผ็ดมา เพราะไม่ทานเผ็ด มันไม่ถึงรสชาติ เลยเหมาหมดกล่อง 12 ก้อนไปเลย)
5.น้ำเปล่า 1500-1700 ml (ตามสูตรเป๊ะ)
6 น้ำตาลทราย 4 ช้อนโต๊ะ
7.น้ำมันพืช
ขั้นตอนการทำ
1. เอาน้ำมันพืชใสกระทะเลยค่ะตั้งไฟให้ร้อนนิดนึง ใส่หอมหัวใหญ่ผ้ดพอนิ่ม ดาวใช้กระทะเทปล่อน
2. จากนั้นใส่แครอทผัดไปพอนิ่ม ใส่ฟักทองเลย ไม่ต้องให้สุกแค่คน สอง สาม หนก็พอ เพราะฟักทองสุกง่าย จากนั้เททุกอย่างใส่หม้อ หรือถ้าขี้เกียจล้างหรือเปลี่ยนก็ข้ามขั้นตอนนี้ไป
3. จากนั้ใส่น้ำลงไปเลย ต้มไปแบ๊ปนึง อย่านานนะ เดี๋ยวฟักทองจะยุ่ย ประมาท 5 นาที คงประมาณนั้นแหละ เครื่องแกงกะหรี่ญี่ปุ่น หั่นละเอียดนิดนึงก่อนใส่
4. เคี๋ยวประมาณ 30 นาที แล้วก็ใส่น้ตาลทราย ชอบหวานเยอะหรือน้อยตามชอบ แต่ไม่ชอบกินหวาน จากนั้นก็เคี่ยวต่อไปอีก 30 นาที รวมๆแล้วก็ 1 ชั่วโมงพอดิบพอดี เป็นอันเสร็จพิธี
เคาะ [10 ร้านอาหาร] อร่อยจนต้องร้องขอชีวิตในเมืองพัทยา ตามชาว Pantip เจ้าถิ่นไปรู้จักกัน!
แกงกระหรี่ญี่ปุ่น สูตรต้นตำหรับ!!! ต้องลอง ตามแบบชาว Pantip สูตรที่ 3
ส่วนประกอบของแกงกะหรี่ญี่ปุ่นประกอบด้วย
1. หมู โดยทั่วไปนิยมหมูสามชั้น
2. เครื่องแกงกะหรี่ญี่ปุ่น
3. หัวหอมใหญ่
4. มันฝรั่ง
5. แครอท
6. มาการีน
7.น้ำ
เนื่องจากคนทำเป็นวิศวกร ส่วนผสมทุกอย่างเราจะใช้การกะ (ตามความชอบ)
ยกเว้นน้ำกับเครื่องแกงกะหรี่ที่เราจะใช้ในอัตราส่วน น้ำ 1.5 ลิตร ต่อ เครื่องแกงกะหรี่ญี่ปุ่น 1 กล่อง
วิธีทำ
1. ปอกเปลือกและล้างผักทุกอย่างจากนั้นหั่น หั่น แล้วก็หั่น ขนาดเท่าไหร่ก็แล้วแต่ชอบ แต่แนะนำให้หั่นมันฝรั่งให้หลากหลายขนาด เหตุผลเดี๋ยวจะอธิยบายต่อไป
2. นำผักและเนื้อหมูที่เตรียมไว้ใส่กระทะ และ ผัดด้วยมาการีนให้หอม ผัดพอให้หัวหอมสุก หรือเกรียมนิดหน่อยก็ได้ เพื่อให้หัวหอมเกิด Caramelization หรือกระบวนการสร้างคาราเมล จากน้ำตาลที่อยู่ในหัวหอม
3. จากนั้นนำส่วนผสมทุกอย่างย้ายลงใส่ในหม้อ ในที่นี้แนะนำให้ใช้หม้อเหล็กกล้าไร้สนิมอัดฐาน หม้อชนิดนี้ผลิตจากเหล็กกล้าไร้สนิมออสเตนิติก (Austenitic Stainless Steel) ที่มีการเพิ่มชั้นของทองแดง และ/หรือ อะลูมิเนียมลงไปที่บริเวณก้นหม้อ เหล็กกล้าไร้สนิมออสเตนิติก แม้จะทนการกัดกร่อนปลอดภัยต่อการใช้อุปโภค แต่มีสมบัตินำความร้อนต่ำ การใช้หม้อชนิดนี้ทำอาหาร โดยเฉพาะอาหารที่ต้องเคี่ยวเป็นเวลานาน จึงต้องระวังการไหม้ของอาหารที่บริเวณก้นหม้อ การอัดทองแดง หรือ อะลูมิเนียมลงไปที่ก้นหม้อจะช่วยเพิ่มการกระจายความร้อน และลดการไหม้ที่ก้นหม้อได้เป็นอย่างดี
4. เมื่อย้ายทุกอย่างลงไปในหม้อเรียบร้อยให้เติมน้ำสะอาดลงไป 1.5 ลิตร จากนั้นเราจะทำแบ่งเครื่องแกงครึ่งหนึ่งใส่ลงไป คนให้เครื่องแกงละลาย และเร่งไฟให้น้ำเดือด จากนั้นปิดฝาหม้อเพื่อเพิ่มแรงดันในระบบ ในขั้นตอนนี้การใช้เวลา 15-60 นาที ขึ้นอยู่กับว่าเราต้องการความฟินของหมูสามชั้นขนาดไหน หากต้องการสามชั้นที่ละลายในปาก เราจะปิดฝาหม้อและต้มต่อด้วยไฟอ่อน ค่อยๆ เคี่ยวให้คอลลาเจน (collagen) ซึ่งเป็นโปรตีน ส่วนใหญ่ในหนังหมู เปลี่ยนเป็น ให้เป็นเจลาติน (gelatin)ซึ่งเป็น โครงสร้าง ที่สามารถกักเก็บความชื้นเอาไว้ภายใน และมีความนิ่มสูงและหยุ่นลิ้น การเปลี่ยนคอลลาเจนเป็นเจลาตินนี้ จะต้องใช้ความร้อนร่วมกับความชื้น (moist heat) นั้นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเราต้องเคี่ยวแกงกะหรี่เป็นเวลานาน ผลพลอยได้จากการเคี่ยวเป็นระยะเวลานานนอกจากหมูจะนิ่ม เครื่องแกงจะซึมเข้าสู่เนื้อหมูมากขึ้นเรื่อย ๆ และน้ำแกงที่ได้จะมีความหวานและข้นมากขึ้น เนื่องจากหัวหอมและมันฝรั่งเมื่อสุกจะละลายลงสู่แกงกะหรี่ การละลายของหัวหอมต้มสุกจะทำให้แกงกะหรี่หวานขึ้นโดยธรรมชาติ เนื่องจากความร้อนจะทำให้โครงสร้างทางเคมีของหัวหอมเกิดการเปลี่ยนแปลงจากการสลายตัวของโมเลกุลของแป้งน้ำตาลที่อยู่ภายในโครงสร้าง ส่วนมันฝรั่งจะทำให้เนื้อแกงเข้มข้นขึ้นโดยเฉพาะมันฝรั่งชิ้นเล็ก ๆ ที่สุกได้ง่ายเนื่องจากมีปริมาตรต่อพื้นที่ผิวต่ำ ส่วนมันฝรั่งชิ้นใหญ่ ๆ ที่เราหั่นไว้ จะมีการละลายเพียงบางส่วนเนื่องจากมีปริมาตรต่อพื้นที่ผิวสูงทำให้การถ่ายเทความร้อนถึงเนื้อในได้ยาก เราจึงสามารถยังคงสามารถสนุกกับ Texture ของมันฝรั่งได้
5. เมื่อต้มแกงกะหรี่จนสาแก่ใจให้ปิดเตาแก๊สก่อน จากนั้นจึงให้ใส่เครื่องแกงที่เหลือลงไปแล้วคนจนเครื่องแกงละลายจนหมด การปิดเตาแก๊สไม่ใช่เพื่อการประหยัดพลังงาน แต่เป็นการเพิ่มความสามารถในการละลายของเครื่องแกงกะหรี่ เนื่องจากเครื่องแกงกะกรี่มีส่วนประกอบของแป้ง หากอุณหภูมิสูงเกินไปแป้งจะสุกและจับตัวเป็นก้อน อนึ่งในตอนนี้น้ำแกงของเรามีแป้งจากมันฝรั่งละลายอยู่เยอะ ความสามารถในการละลายโดยรวมของเครื่องแกงจึงลดลง
6. หลังจากเครื่องแกงละลายจนหมดให้เปิดเตาแก๊สอีกครั้ง คราวนี้ใช้ไฟอ่อน ค่อย ๆ คนแกงไปเรื่อย ๆ จนแกงเดือด ใช้เวลาประมาณ 10 นาที ก็ปิดเตาได้ หลังจากปิดเตา อย่ารีบตักแกงมากิน เพราะแกงที่เพิ่งเสร็จมีค่าความจุความร้อนสูงจากส่วนผสมข้นขลัก รอให้แกงเย็นลงนิดหนึ่งก่อน ค่อยตักมารับประทาน หากไม่เชื่อทดลองดูได้ ลิ้นพองอย่าว่ากัน
แกงกระหรี่ญี่ปุ่นเนื่อจากญี่ปุ่น!!! มาดูกันแบบชาว Pantip สูตรที่ 4
เตรียม
1. เนื้อวัว 250 g. (เนื้อหมู เนื้อไก่ ได้หมด)
2. หอมใหญ่ 300 g.
3. แครอท 100 g.
4. มันฝรั่ง 150 g.
5. น้ำมันพืช เล็กน้อย
6. น้ำเปล่า 750 ml
7. รูว์ ครึ่งกล่อง
(เราเพิ่มกระเทียม ลงผัดด้วย)
วิธีทำ
1. แยกต้มเนื้อวัวให้เปื่อยนุ่มในระดับนึงก่อน ค่อยเอามาหั่น ผัดรวมในขั้นตอนผัดส่วนผสม ทำให้เนื้อนุ่มเร็ว ทุ่นเวลาใช้ตัวช่วย น้ำแข็ง
2. ใส่ลงไปหลังจากน้ำต้มเนื้อเดือด เพื่อลดอุณหภูมิลงกระทันหัน ต้มต่ออีก 1 ชม.เปื่อยได้ดังใจหวัง
3. แยกเนื้อออกมาหั่นขนาดตามชอบ น้ำซุปตั้งเตารอไว้ก่อน ตั้งกระทะ ใส่เนย น้ำมันเล็กน้อย ผัดกระเทียม หอมใหญ่ แครอท มันฝรั่ง ให้มีกลิ่นหอม 5-10 นาทีใส่เนื้อ
4. เทส่วนผสมทั้งหมดลงไปในน้ำต้มเนื้อ ต้มไฟกลาง ประมาณ 20นาที ปิดแก๊สสักครู่ ใส่รูว์(ก้อนแกงกระหรี่) คนให้ละลาย เปิดเตาอีกครั้ง เคี่ยวให้แกงกระหรี่ ข้นขึ้นตามต้องการ ก็อร่อยได้เลย
แกงกระหรี่ญี่ปุ่นหมูยัดไส้มะเขือเทศ!!! อร่อยเหาะตามแบบชาว Pantip สูตรที่ 5
วัตถุดิบ
1. หมูสับปรุงรส
2. แป้งทอด
3. หอมแขกครึ่ง กก.
4. น้ำซุปพร้อมก้อนแกงกะหรี่ญี่ปุ่น
ขั้นตอนการทำ
1. นำหมูสับปรุงรสปั้นเป็นก้อนยัดไส้มะเขือเทศสดลูกเล็ก นำไปคลุกแป้งทอด ทอดจนสุกได้เป็นก้อนลูกชิ้นหมูขนาดประมาณ 4 ซ.ม. นำไปชุบแป้งทอดกรอบให้ทั่ว ทอดน้ำมันลอย
2. จัดการแกงกะหรี่ญี่ปุ่น โดยเอาหอมแขกครึ่ง กก. นำมาผัดจนเริ่มไหม้ ตอนนี้เนื้อหอมจะมีหวาน ใส่น้ำซุปพร้อมก้อนแกงกะหรี่ญี่ปุ่น ใส่หมูยัดไส้มะเขือเทศลงไป ปรุงรสด้วยเกลือ เคี่ยวต่ออีก 15 นาที เพียงเท่านี้ก็เป็นอันเสร็จ
[5 สูตร] วิธีทำหมูกรอบให้นุ่ม ฟู เคี้ยวอร่อยสู้ลิ้นสไตล์ชาว Pantip!
บทสรุปส่งท้าย : แกงกระหรี่ญี่ปุ่นมือใหม่ก็ทำได้!! ลองทำตามแบบชาว Pantip ดูสิ
ไม่ยากอย่างที่คิดใช่ไหม เดี๋ยวนี้มีผมสำเร็จรูปช่วยเราให้ประหยัดเวลาได้ด้วย สำหรับแกงกระหรี่ญี่ปุ่นอย่าลืมเลือกผักที่เราชอบ การเลือกผงแกงกะหรี่ก็สำคัญด้วย ถ้าไม่รู้จะเลือกแบบไหนก็เลือกตามแบบฉบับชาว Pantip ก็ได้ แค่นี้คุณก็จะมีแกงกะหรี่ญี่ปุ่นทานที่บ้านได้ ฝีมือการทำอาหารของคุณก็พัฒนาไปด้วย