[5วิธี]การทำติ่มซำกินเองที่บ้าน แบบชิลๆ กับชาวPantip ที่คุณก็ทำได้!!!

วิธีทำติ่มซำทานไม่ยาก!! มาลองทําไว้ทานที่บ้านกับชาว Pantip สิ

ตื่นมาเช้าๆ บรรยากาศเย็นๆฝนตกหน่อยๆ คงอยากจะหาอาหารอุ่นๆ ร้อนๆ คงทำให้คิดถึงติ่มซำที่มีหลากหลายของอร่อยให้เราเลือกทาน และยังร้อนๆอีกด้วย ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่ไม่อยากเดินทางไปร้านติ่มซำในตอนเช้าๆ เพื่อไปเบียดซื้อติ่มซำละก็ เรามีสูตรวิธีทำติ่มซำกินเองที่บ้านมาฝาก โดยรวบรวมสูตรการทำมาจากชาวpantip แน่นอนทำไม่ยากและยังแนะนำวิธีหาวัตถุดิบให้คุณด้วยไปดูกันเลย

[6 วิธี] เลือกร้านอาหารสไตล์ บุฟเฟ่ต์ปิ้ง-ย่าง ให้คุ้มค่าโดนใจ แนะนำโดยชาว Pantip!

วิธีทําติ่มซําเกี๊ยวกุ้งอลังการสุดชิก แบบฉบับPantip สูตรที่ 1

เริ่มเตรียมวัตถุดิบ

1. เนื้อกุ้งบด ปรุงรส

2. ไข่เยี่ยวม้า

3. ซี่โครงหมูนึ่งซ้อสพริก

4. บะหมี่พันกุ้ง

5. เกลือ พริกไทย น้ำตาล แป้งสาลี น้ำมันงาอย่างดี และซีอิ๊วขาว

วิธีการทำ

1 แบ่งกุ้งออกเป็น 2 ส่วน ส่วนนึงเอาไปสับ แล้วคลุกกับมันหมูสับเติม เกลือ พริกไทย น้ำตาล แป้งสาลี น้ำมันงาอย่างดี และซีอิ๊วขาว อย่างละนิดละหน่อย
นวดให้เข้ากันดี แล้วตามด้วยจับฟาดไปมาหลายๆครั้ง เพื่อให้เกิดความเหนียวเคี้ยวแล้วเด้งๆ อีกส่วนไม่สับ คลุกเหมือนข้างบน แล้วจับฟาดไปฟาดมาเหมือนกัน

2. เอาไปทำขนมจีบกุ้ง โดยเอาใบเกี๊ยวมาห่อ แล้วเอากุ้งแบบเป็นตัวๆวางไว้ด้านบน แล้วก็เอาไปนึ่ง ก็เอาใบตองมารองเข่ง นึ่งออกมาน่ากินดี แต่ชิมแล้วจืดไปหน่อย ที่จริงก่อนจะห่อ ต้องเอาใส่ไมโครเวฟชิมรสชาติซักคำนึงก่อน

3. กุ้งที่ไม่สับ เอามาห่อบะหมี่ ที่จริงต้องเป็นเส้นบะหมี่สด แล้วเอามาลวก แต่ถ้าไปขอซื้อก้อนเดียวเค้าจะไม่ขาย เลยเอาเส้นบะหมี่อบแห้งที่มีอยู่ในบ้านมาทำ เส้นเลยหนาไปหน่อย

4. ห่อเสร็จแล้วก็เอาไปนึ่ง หน้าตาก็ใช้ได้ แต่จืดไปนิดอีกแล้ว รวมทั้งใช้กุ้งตัวใหญ่ๆน่าจะดูดีกว่านี้

5. แล้วเอาไปนึ่ง หน้าตาก็เวิร์คอีก รอให้สุก พร้อมเสริฟได้เลย

คลิก! อ่านกระทู้ต้นฉบับ

วิธีทําเผือกทอดแบบติ่มซํา ในรูปแบบคนPantip สูตรที่ 2

เตรียมวัตถุดิบ

ส่วนที่1

ถั่วเขียวเลาะเปลือก 100 ก.
เผือกนึ่ง 300 ก.

เครื่องปรุง

เกลือ 1/4 ชช.
ผงชูรส 1/4 ชช. (ไม่ได้ใส่)
น้ําตาล 1 ชต.
ผงพะโล้ 1/4 ชช.
พริกไทย 1/2 ชช.
แอมโมเนีย 7 ก.(ไม่ได้ใส่)

ส่วนที่ 2
แป้งตั้งหมิ่น 125 ก.
น้ําเดือด 70 มล.
น้ำมันหมู 150 ก. (เอามันหมูมาเจียวแล้วพักให้เย็นเป็นไขแล้วตวงออกมาให้ได้ 150 ก.)

ส่วนที่ 3
( ไส้) หมูติดมัน 300 ก.
กุ้งสด
100 ก. เห็ดหอมหั่นชิ้นลูกเต๋า 50 ก.

เครื่องปรุง
เกลือ 1/4 ชช.
ผงชูรส 1/2 ชช. (ไม่ได้ใส่)
น้ําตาล 1/2 ชช.
น้ํา 50 มล.

แป้งมัน 1 ชช.
น้ำ 1 1/2 ชช.

น้ำมันงา 1 ชช.
น้ำมันสำหรับทอด

วิธีการทำ

1. นำถั่วเขียวแช่น้ำไว้ 4 ชม. แล้วเทน้ำทิ้ง ปอกเผือกล้างให้สะอาดหั่นให้เป็นชิ้นหนานำไปนึ่งพร้อมถั่วเขียวที่เตรียมไว้แล้วประมาณ 30 นาทีหรือจนสุกทั่ว

2. บดถั่วเขียวผ่านตะแกรงให้ละเอียด บดตอนร้อนๆค่ะจะได้บดง่ายๆหน่อย

3. เผือกก็บดให้แตกพยามให้ละเอียดๆหน่อยจะได้กินสบายๆ

4. นำเครื่องปรุง เคล้าให้เข้ากันแล้วพักไว้ก่อน

5. แป้งตั้งหมิ่น น้ำต้มเดือดตวงให้ได้ 70 มล.

6. ค่อยๆเทน้ำเดือดลงไปในแป้ง ระวังเดี๋ยวเหลวไป

8. จากนั้นเอาไปผสมรวมกับส่วนผสมเผือกให้เป็นเนื้อเดียวกัน

9. ใส่น้ำมันหมดลงไป ในรูปสีจะเข้มหน่อยจำไม่ได้ว่าเพราะไม่ได้กรองเอาเศษออกหรือเจียวไหม้เกิน (คาดว่าน่าจะเป็นอย่างหลังค่ะ แหะๆ) ยังไงก็ระวังนิดนึง
10. ขยำๆ นวดให้เข้ากันแล้วนำใส่ภาชนะปิดฝา วางในตู้เย็นช่องธรรมดาสัก 2 ชั่วโมง

11. เอาหมูติดมันซอยเป็นชิ้นเล็ก กุ้งก็ล้างปอกเปลือกหั่นชิ้นเล็ก เห็ดหอมก็หั่นชิ้นเล็ก

12. ตั้งกระทะพอน้ำมันร้อนเอาลงหมูลงผัดก่อนตามด้วยเห็ดหอม กุ้ง ใส่เครื่องปรุงของส่วนที่ 3 ลงไปผัด หรือชิมแล้วปรับปรุงรสตามชอบ จากนั้นเตรียมแป้งมันกับน้ำคนให้เข้ากันแล้วเทลงไปในกระทะ ผัดให้ทั่ว ตามด้วยน้ำมันงา ปิดไฟ พักให้เย็น

13. เคล็ดลับการทอดให้ฟูสวยนั้นอยู่ที่การใช้แอมโมเนียและไฟ  ตอนแรกเราตั้งกระทะให้น้ำมันร้อนแล้วเอาเผือกทอดที่ใส่ไส้แล้วลงไปแล้วรีบลดไฟลง ความร้อนของน้ำมันจะทำให้ตรงกลางสุกและจะค่อยๆทำให้แป้งฟูๆขึ้น จากนั้นปรับไฟกลาง ทอดต่อจนสุก รู้สึกว่าถ้าใช้ไฟแรงตั้งแต่แรกจะทำให้แป้งมันหลุดล่อนออกมาก่อน ทอดทีละก้อนดูก่อนก็ได้ค่ะว่าไฟแบบไหนถึงจะทอดออกมาสวย เพราะตอนทำก็ลองไฟไปหลายๆแบบได้เผือกทอดออกมาต่างๆกัน

คลิก! อ่านกระทู้ต้นฉบับ

[5สูตร] วิธีทำโจ๊กหมูยังไงให้น่าทาน? แบบฉบับ ชาวPantip สุดปัง!!

ฮะเก๋าติ่มซำ วิธีทำแบบง่ายๆ ตามแบบฉบับของชาวPantip สูตรที่ 3

เตรียมวัตถุดิบ

1. กุ้งแช่แข็ง
2. ซีอิ๊วขาว
3. แป้งข้าวโพด
4. ใบเมี่ยงญวน

วิธีทำ

1. เอาเนื้อกุ้งมาสับ อาจจะแบ่งกุ้งเป็นตัวเก็บไว้ใส่ตอนห่อด้วยก็ได้ ใครหามันหมูได้ก็เอามาสับผสมลงไปด้วยได้

2. ใส่ซีอิ๊วขาวกับแป้งข้าวโพดลงไปผสม ถ้ามีน้ำมันงาก็ใส่เพิ่มได้เพื่อความหอม

3. คลุกเคล้าให้เข้ากัน แล้วปั้นให้เป็นก้อน

4. เอาไปต้มในน้ำเดือดประมาณ 30 วินาที แค่พอสุก

5. เอาใบเมี่ยงญวนมาแบ่งครึ่ง เราจะใช้ครึ่งแผ่นต่อฮะเก๋าหนึ่งลูก

6. ทาน้ำเปล่าให้แป้งนุ่มลงเล็กน้อย แล้วพับครึ่ง

7. นำไส้กุ้งมาวางบนใบเมี่ยงญวน แล้วห่อเป็นก้อนกลมๆ ขั้นตอนนี้ยากนิดนึง เพราะถ้าใบเมี่ยงญวนชุ่มน้ำเกินไป มันจะยุ่ย และไม่ค่อยติดกัน

8. วางเรียงบนถาดนึ่ง เอาเข้าหม้อนึ่ง (ผมใช้หม้อหุงข้าวนึ่ง)

9. ใช้เวลานึ่งประมาณ 5 – 10 นาที ไม่ต้องนึ่งนานเพราะไส้สุกอยู่แล้ว นึ่งแค่ให้ร้อนๆ ใบเมี่ยงญวนใสขึ้น ดูน่ากิน

10. ตัวแป้งห่อมีความเหนียวหนึบ เนื่องจากพับแป้งเป็นสองชั้นก็จะให้ความรู้สึกหนานิดนึง ตัวไส้หลวมไปหน่อย อาจเป็นเพราะใส่แป้งข้าวโพดน้อยไป หรือผสมไส้เสร็จแล้วเอาไปต้มเลย ไม่ได้พักไส้ให้จับตัวกันก่อน

คลิก! อ่านกระทู้ต้นฉบับ

วิธีทำซาลาเปาแบบติ่มซำทานอร่อยที่บ้าน กับชาวPantip สูตรที่ 4

ส่วนผสมแป้งสปองจ์
1. แป้งซาลาเปา 250 กรัม
2. ยีสต์ 5 กรัม
3. น้ำอุ่น 150 กรัม

วิธีทำแป้งสปองจ์
1. ร่อนแป้งซาลาเปาลงในโถผสม แล้วใส่ยีสต์ลงไป

2. ใส่น้ำอุ่นลงไปในโถผสม นวดให้เข้ากันเป็นก้อนเดียว ซึ่งติ๊กใช้เครื่องนวดสปีด 3 ขั้นตอนนี้ใชัเวลาไม่นานค่ะ ประมาณ 2-3 นาที ทุกอย่างก็เข้ากันได้ดี แต่ยีสต์จะยังไม่ละลาย

3. พักแป้งสปองจ์ 1-1.30 ชั่วโมง อย่างน้อยๆก็ต้องมี 1 ชั่วโมง และต้องให้ขึ้นฟู 2-3 เท่า ถึงจะนำมาใช้ทำแป้งโดว์

4. นำพลาสติกถนอมอาหาร มาปิดคลุมภาชนะที่ใส่แป้งสปองจ์ให้มิดชิด ไม่ให้อากาศเข้า หรือจะเป็นผ้าชื้นๆก็ได้

5. เมื่อหมักแป้งสปองจ์ได้ที่ดีแล้วเราก็มาทำแป้งโดว์กันต่อเลย

 ส่วนผสมแป้งโดว์
1. แป้งซาลาเปา 150 กรัม
2. น้ำตาลป่น 90 กรัม
3. ผงฟู 2 กรัม (สูตรเดิมใช้ 6 กรัม)
4. เกลือ 1/2 ช้อนชา
5. น้ำเปล่า 60 กรัม (สูตรเดิม น้ำเปล่า 50 กรัม และ ไข่ขาว 10 กรัม)
6. เนยขาว 25 กรัม

วิธีทำแป้งโดว์
1. นำแป้งสปองจ์ที่หมักได้ที่แล้ว มาชกไล่ฟองอากาศบางส่วนออก

2. นำแป้งซาลาเปา น้ำตาลป่น ผงฟู และเกลือ นำมาผสมให้เข้ากันและทำการร่อนลงในโถผสม ใช้โถที่หมักแป้งสปองจ์เอาไว้

3. นำไปเข้าเครื่องนวด ยังคงใช้สปีด 3 เหมือนเดิม เติมน้ำเปล่าลงไป นวดให้เข้ากันดี

4. เมื่อนวดเข้ากันดีแล้ว ให้ใส่เนยขาว และนวดต่อจนกว่าแป้งจะเนียน และสามารถขึงเป็นฟิล์มได้

5. เช็คแป้งโดว์ว่านวดได้ที่หรือยัง โดยทำการดึงแป้งออกมาส่วนนึง มาลองขึงเป็นฟิล์ม ถ้าขึงได้ถือว่าใช้ได้

6. นวดเสร็จแล้ว นำแป้งโดว์มาพักไว้ประมาณ 10 นาที หากอะไรมาคลุมปิดแป้งด้วย เดี๋ยวแป้งจะแห้ง

7. เมื่อพักแป้งเสร็จแล้ว ให้ตัดแบ่งแป้งก้อนละ 40 กรัม จะได้ทั้งหมด 18 ชิ้น (น้ำหนักแป้งโดว์โดยรวม 720 กรัม) แบ่งแป้งทำครึ่งนึงก่อน

8. ตัดแบ่งเสร็จแล้ว ก็ปั้นแป้งให้เป็นก้อนกลมๆ

9. เมื่อปั้นเสร็จ ก็นำมาขึ้นรูปเลย โดยให้หยิบแป้งชิ้นแรกที่เราปั้นนำมาขึ้นรูปก่อน
ขึ้นรูปโดยการรีดแป้งออกเป็นวงกลม และพับแป้งด้านซ้าย และด้านขวา เข้ามาตรงกลาง และรีดแป้งอีกครั้ง จากนั้นก็ม้วนแป้งจากมุมล่างขึ้นมาด้านบน 

10. ขึ้นรูปเสร็จแล้ว ก็พักแป้งต่ออีก ให้แป้งขึ้นฟูเกือบ 2 เท่า ประมาณ 80% ก็ได้ เพราะตอนนึ่ง ซาลาเปาจะขยายตัวอีก พักแป้งไปประมาณ 35 นาที ก็จับลงหม้อนึ่ง

11. ใช้ไฟแรงปานกลางนึ่งซาลาเปา นึ่ง 12 นาที ระหว่างนึ่งห้ามเปิดฝาแอบดูเชียวน้า เปิดเมื่อไรซาลาเปายุบทันที

คลิก! อ่านกระทู้ต้นฉบับ

วิธีทำหมูสับนึ่งไข่เค็มกินกันที่บ้านแบบ ติ่มซำ ในฉบับชาวPantip สูตรที่ 5

วัตถุดิบ
1.หมูสับ 300 กรัม
2.ไข่แดงไข่เค็มดิบ 3 ฟองผ่าครึ่ง
3.ซอสหอยนางรม 1 ช้อนโต๊ะ
4.ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
5.น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
6.รากผักชี/กระเทียม/พริกไทย ตำรวมกัน 1 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ
1.ตำรากผักชี กระเทียม พริกไทย โขลกให้ละเอียด จะได้ส่วนผสมที่เรียกว่าสามเกลอ
2.ตักหมูสับใส่ชามผสมใส่สามเกลอลงไปขยำให้ส่วนผสมเข้ากันแล้วปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว น้ำมันหอย น้ำตาลทราย
3.จากนั้นนำหมูไปแช่ในตู้เย็นประมาณ 15-20 นาทีเพื่อให้หมูปั้นง่าย
4.นำหมูที่หมักไว้มาปั้นเป็นก้อนกลมกดให้หมูแบนลงสักนิดแล้ววางไข่แดงเค็มไว้ตรงกลาง แล้วนำไปวางบนจานทีเตรียมไว้
นำขึ้นนึ่ง ไฟปานกลาง 15 นาที (ขึ้นอยู่กับขนาดหมูที่เราปั้นด้วยนะคะ ถ้าปั้นบางก็จะใช้เวลาน้อย ถ้าปั้นหนาก็จะไช้เวลาเพิ่มขึ้นตามลำดับ
5.เมื่อนึ่งจนสุกแล้ว ยกขึ้นจัดเสิร์ฟ

[4 สูตร]น้ำจิ้มซีฟู้ด เมนูง่ายๆที่ไม่ธรรมดา ทำง่ายนิดเดียว มาดูสูตรของชาว Pantip กันเถอะ

บทสรุปส่งท้าย : วิธีทำติ่มซำไม่ยากใช่ไหม  ทำไปด้วยกันกับชาว Pantip สิไม่ยากเลย

เห็นไหมล่ะว่าวิธีการทำติมซำไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป คุณสามารถทำไปด้วยกันกับชาว Pantip ได้ ถ้าคุณคิดว่าต้องตื่นแต่เช้าเพื่อมาเตรียมวัตถุดิบหลายอย่างคงจะไม่ทัน คุณก็สามารถที่จะ เตรียมไว้ตั้งแต่ก่อนนอน เป็นกิจกรรมที่สามารถทำกับครอบครัวและมีอาหารเช้า อุ่นๆร้อนๆ ไว้รับประทานด้วยกันกับครอบครัวแล้ว ลองเลือกเมนูที่คุณคิดว่าสามารถทำได้ง่าย และคนในครอบครัว สนใจอยากจะกินสิ คุณก็จะสามารถสร้างความประทับใจให้กับคนในครอบครัวได้อีก