Beppu (เบบปุ) เรียกได้ว่าเมืองแม่แห่งออนเซนในคิวชู เกาะทางตอนใต้ของญี่ปุ่นและซ่อนตัวอยู่ในจังหวัด Oita ซึ่งออนเซ็นที่ Beppu นั้นขึ้นชื่อเลยว่าเหมาะแก่การมาเที่ยวแบบทุกเพศ ทุกวัยแม้แต่ สว.สูงวัยก็มาแช่ออนเซ็นได้แบบไม่ต้องเป็นกังวลเนื่องจาก ออนเซ็นที่ Beppu ส่วนใหญ่ออกแบบให้มีราวจับกันลื่น พื้นไม่ต่างระดับหมดความกังวลเรื่องหัวจะทิ่มลงบ่อออนเซ็น เรียกได้ว่าปลอดภัยทั้งเด็กเล็กและผู้ใหญ่สูงวัยกันทุกคนเลย
13 ที่เที่ยวคิวชู พร้อมรีวิวที่พักเรียวกังแนะนำโดยชาว Pantip
20 สถานที่เที่ยวห้ามพลาด ณ Fukuoka (ฟุกุโอกะ) แนะนำโดยชาว Pantip
วิธีเดินทางไป Beppu จากเมืองใกล้เคียง
สำหรับการเดินทางมา Beppu จากเมืองใกล้เคียงอย่าง Yufuin สามารถทำได้ด้วยรถไฟเพียงใช้เวลาแค้ 1 ชั่วโมง
วิธีเช่ารถไป Beppu จากสนามบิน
สำหรับการเดินทางจากสนามบินฟุกุโอกะและมุ่งหน้าสู่ Beppu นั้นใช้เวลาทั้งหมดประมาณ 2 ชั่วโมงในกรณีที่เดินทางด้วยรถยนตร์
เรานัดเจอน้องๆและหลานที่ Toyota rent a car counter เพื่อติดต่อรับรถ เจ้าหน้าที่เรียกรถตู้ของบริษัท มารับเราทั้ง 9 คน ไปส่งที่ outlet รับรถใกล้ๆสนามบิน
รถที่เราได้เป็นรุ่น Toyota Axio หนึ่งคัน และ Toyota Aqua อีกหนึ่งคัน ใส่กระเป๋าใบขนาดกลางและขนาดเล็กได้ครบทุกคน รถรุ่น Axio จะค่อนข้างใหญ่กว่า Aqua ใช้นั่ง 5 คน และมี child seat สำหรับหลานอายุ 3 ขวบให้ฟรีด้วยค่ะ (เราต้องขอไป ตอนจองรถ) รถทั้ง 2 คันที่เราจองเป็นรถไฮบริดจ์ ประหยัดน้ำมันค่ะ เราต้องชำระเงินค่าเช่า ETC card คันละ 324 เยน และค่าประกันกรณีเกิดเหตุฉุกเฉินที่ต้องต้องลากรถ หรือเรียกหน่วยกู้ภัย รวม 2 คันจ่ายเพิ่มอีกแค่ 500 เยนค่ะ หลังจากตรวจเช็คสภาพรถ และศึกษาการใช้งานของ GPS เป็นที่เรียบร้อย เราก็ออกเดินทางกันเลย
#13 สถานที่ท่องเที่ยวใน Beppu แนะนำโดยชาว Pantip
หลังจากที่เรียนรู้วิธีการเดินทางกันเป็นที่เรียบร้อยแล้วเรามาต่อกันที่สถานที่ท่องเที่ยวห้ามพลาดเมื่อมาเยือน Beppu กันดีกว่า
1. ไป Beppu ต้องแวะ : Beppu Park
ขับรถไปเที่ยวที่ Beppu Park หรือ Beppu Koen เพื่อไปชมดอกซากุระที่กำลัง full bloom สวยงาม นอกจากซากุระแล้ว ยังมีการปลูกทิวลิปหลากสีสัน ทำให้สวนนี้สวยสดชื่นมากทีเดียวค่ะ ภายในบริเวณสวน มีคนมาฮานามิกัน เตรียมอาหารมาปูเสื่อทานกัน แต่ไม่มีซุ้มขายอาหารนะคะ
2. ไป Beppu ต้องแวะ : Beppu Kaihin Sanayu
หลังจากทานอาหารเช้าที่โรงแรม โปรแกรมแรกเราจะไปอบทรายร้อนที่ Beppu Kaihin Sanayu ซึ่งมีค่าบริการอบทรายร้อนคนละประมาณ 1,000 เยน เราไปถึง 10.00 น. ได้อบทรายร้อน ตอน 11.20 น. ใช้เวลาอบแค่ 15 นาที คนที่ไม่ได้อบทรายร้อนก็แช่เท้าฟรีและเดินเล่นรอบๆรอได้ค่ะ
หลังอบทรายร้อนแล้ว จะรู้สึกสบายตัวมากค่ะ การอบทรายร้อนช่วยในการไหลเวียนของโลหิต ดีท๊อกซ์ ไดเอ็ท บำรุงผิวพรรณให้สดใสสุขภาพดี และยังมีสรรพคุณในการรักษาอาการปวดเมื่อยได้อีกด้วยค่ะ ใครมาเบปปุห้ามพลาดนะคะ แนะนำให้มาเช้าๆค่ะ คิวจะได้ไม่ยาว เราเอาหมวกคลุมผมมาใส่ตอนอบทรายได้ด้วยนะคะ เพราะเราขี้เกียจสระผม มันจะเสียเวลาเพราะต้องไปเที่ยวกันต่อค่ะ หลังอบทรายร้อน ถ้าใครมีเวลาจะแช่ออนเซ็นต่อก็ได้ค่ะ
3. ไป Beppu ต้องแวะ : Jigoku Mushi Kobo
มื้อเที่ยงเราไปทานอาหารนึ่งด้วยไอน้ำออนเซ็นที่ Jigoku Mushi Kobo คนเยอะมาก และคิวยาวมากค่ะ ทางร้านมีที่จอดรถให้ฟรีอยู่ด้านหลังร้านนะคะ ช่วงระหว่างรอ เดินไปแช่มือแช่เท้าตรงศาลาที่อยู่ข้างๆร้านได้ฟรีนะคะ ถ้าใครหิวก็รองท้องด้วยพุดดิ้งของที่ร้านได้ มีขายตรงแถวๆหน้าเคาน์เตอร์นะคะ เมื่อเราไปลงชื่อรับคิวนึ่งอาหารแล้ว ให้ไปกดเลือกอาหารที่เราต้องการจะนึ่งที่ตู้อัตโนมัติ และให้พนักงานมาช่วยดู เพราะต้องประเมินว่าอาหารทั้งหมดที่เราเลือกใช้เตานึ่งกี่เตา เราจะต้องเสียค่าเตานึ่งอีกเตาละ 340 เยนค่ะ และจากนั้นเอาบัตรที่กดจากตู้ มายื่นที่เคาน์เตอร์เพื่อให้ในครัวเค้าจัดอาหารให้ค่ะ เมื่อถึงคิวเรา เค้าจะเรียกเรามาเอาอาหารไปนึ่งเอง และให้นาฬิกาจับเวลาค่ะ จะมีพนักงานคอยแนะนำว่าอะไรนึ่งนานเท่าไหร่ เมื่อครบเวลาที่นึ่งเสร็จ เราก็นำอาหารมาทานได้ มีจาน ตะเกียบ น้ำจิ้ม และถ้วยน้ำจิ้มไว้ให้เราบริการตัวเองนะคะ การมาทานอาหารที่นี่ต้องใจเย็นๆ นะคะ เพราะรอนานมากจริงๆค่ะ
4. ไป Beppu ต้องแวะ : Oniishibouzu Jigoku
ช่วงบ่ายเราไปเที่ยวบ่อน้ำพุร้อนที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติของเมืองเบปปุ ซึ่งจริงๆมีทั้งหมด 8 บ่อ แต่เราเลือกแค่ 2-3 บ่อ คือ บ่อโคลนเดือด บ่อทะเลเดือด และบ่อสีส้มอิฐค่ะ ถ้าเลือกเข้าชมเป็นบางบ่อ ก็สามารถจ่ายค่าเข้าชมแยกแต่ละบ่อได้นะคะ
บ่อโคลนเดือด (Oniishibouzu Jigoku)
เป็นบ่อโคลนเดือดสีขุ่น และเดือดปุดๆตลอดเวลา
5. ไป Beppu ต้องแวะ : Umi Jigoku
บ่อทะเลเดือด (Umi Jigoku)
บ่อน้ำพุร้อนนี้จะมีสีฟ้าซึ่งมีโคบอลต์เป็นส่วนประกอบ บริเวณรอบๆจัดสวนไว้อย่างสวยงาม ช่วงนี้ซากุระกำลังบาน ยิ่งสวยงามมากๆค่ะ
6. ไป Beppu ต้องแวะ : Chinoike-Jigoku
ถ่ายรูป บ่อ Chinoike-Jigoku หรือบ่อนรกสระเลือด แล้วอย่าเพิ่งรีบกลับนะ เดินอ้อมบ่อเข้าไปทางด้านขวา มีทางเดินขึ้นไปด้านบนเขา เดินขึ้นไปไม่ไกลมาก จะเป็นจุดชมวิวมุมสูงของบ่อนรกสระเลือด สวยทีเดียวเลยแหละมุมนี้
7. ไป Beppu ต้องแวะ : Tasumaki Jigoku
บ่อถัดไปคือบ่อนรกหมายเลข8 Tatsumaki Jigoku หรือบ่อนรกพวยพุ่ง เดินจากบ่อหมายเลข 8 มาได้เลย อยู่ข้างๆกัน บ่อนรกพวยพุ่งเป็นบ่อเล็กๆ เล็กมากจริงๆจนดูเหมือนไม่มีอะไร แต่เดี๋ยวก่อน ชื่อบ่อนรกพวยพุ่งไม่ได้ตั้งไว้เล่นๆนะ ทุกๆ 30 นาที บ่อนี้จะมีน้ำพุร้อนพุ่งขึ้นมาเพราะแรงดันใต้ดินจากธรรมชาติ พุ่งขึ้นมาครั้งหนึ่งจะพุ่งอยู่ประมาณ 5-10 นาที คอยดูเวลาให้ดี อย่าได้พลาดเชียว มันเป็นธรรมชาติที่อัศจรรย์มากๆ
8. ไป Beppu ต้องแวะ : Shiraike-Jigoku
บ่อ Shiraike-Jigoku หรือ บ่อนรกสีขาว น้ำในบ่อจะเป็นสีเขียวๆออกขาวๆหน่อยๆ สวยมากๆ ยิ่งเวลาแดดส่องลงมานะ สวยสุดๆเลย เราสามารถเดินชมได้โดยรอบ มีต้นไม้ปลูกไว้สวยๆ หามุมถ่ายรูปกันได้เลย ด้านในบ่อ Shiraike-Jigoku หรือ บ่อนรกสีขาว มีเป็นเหมือน aquarium เล็กๆ โดยมีการโชว์พวกปลาในเขตร้อน เช่นปลา arapaimas (ตัวในรูป แบบตัวเป็นๆก้อมี) และปลาพิรันย่าจากลุ่มน้ำอเมซอนด้วย
9. ไป Beppu ต้องแวะ : Oniyama Jigoku
ด้านในบ่อ Oniyama Jigoku หรือ บ่อนรกยักษ์ภูเขา ก้อจะเจอยักษ์ภูเขาตัวแดงๆใหญ่เชียว นั่งเฝ้าบ่ออยู่ เอ๊ะ ทำไมบ่อมันควันคลุ้งขนาดนั้นล่ะ ไม่เหมือนบ่อที่ผ่านๆมาเลย ลองเข้าไปดูใกล้ๆดีกว่า มีควันเยอะมากๆก้อเพราะน้ำในบ่อนี้มีอุณหภูมิสูงถึง 99.1 องศาเซลเซียสเลย เรียกได้ว่าตกลงไปนี่ สุกกันพอดี ควันเลยขโมงซะขนาดนี้ ร้อนที่สุดในบรรดาบ่อนรกทั้ง 8 บ่อเลย
10. ไป Beppu ต้องแวะ : Kamado Jigoku
บ่อ Kamado Jigoku หรือ บ่อนรกหม้อไฟ จะมีบ่อน้ำแร่ที่มีสีฟ้าสวยงามอยู่สองบ่อ เราจะเจอบ่อเล็กนี่ก่อน ซึ่งมีอุณหภูมิถึง 85 องศาเซลเซียสเลย
ะมีความพิเศษอยู่ตรงที่
ถ้าเราจุดบุหรี่แล้วพ่นควันบุหรี่ไปทางบ่อโคลน ควันบุหรี่และความร้อน จะทำปฎิกิริยากับสารที่ระเหยขึ้นมากับน้ำแร่ ทำให้เกิดเป็นควันโขมงขึ้นมา แปลกๆดี
อ่านรีวิว Pantip เที่ยว Beppu ฉบับเต็มคลิกที่นี่
11. ไป Beppu ต้องแวะ : Kirinko Lake
ทะเลสาบ Kirinko เป็นทะเลสาบขนาดกลาง มีภูเขาเป็นฉากหลัง เป็นจุดถ่ายภาพที่สวยงาม มีความพิเศษตรงที่น้ำทะเลสาบและกระแสน้ำแร่ไหลรวมกันจากก้นบึ้งของทะเลสาบ น้ำในทะเลสาบมีความใสมาก ถ้ามาในฤดูหนาวช่วงเช้าจะเห็นหมอกปกคลุมทะเลสาบสวยงามมากค่ะ
12. ไป Beppu ต้องแวะ : Cafe`Duo
มาเจอร้าน Cafe’Duo ซึ่งเป็นร้านที่มีชื่อเสียงเรื่องการทำลาเต้อาร์ต 3 มิติ บรรยากาศร้านน่ารัก และเจ้าของร้านสองสามีภรรยาใส่ใจในการตกแต่งลาเต้อาร์ต หรือขนมทุกเมนูเลยค่ะ
13. ไป Beppu ต้องแวะ : Beppu Tower
วันนี้ต้องหอบหิ้วกระเป๋ากันอีกแล้ว โดยเราพักกันที่เรียวกัง Bokai ซึ่งอยู่ใกล้ๆกับ Landmark ของเมือง Beppu นั่นคือ Beppu Tower มี logo Asahi ตัวเบ้อเร่งอยู่ด้านบน แต่ไม่ได้ขึ้นไปนะ แค่เดินผ่าน 555555555
#2 ที่พักเรียวกังน่าลองนอนที่ Beppu รีวิวโดยชาว Pantip
เที่ยวทั้งวันอย่างเหนื่อยล้าใน Beppu หลายคนคงอยากได้ที่พักพร้อมออนเซน + วิวสวยๆ ได้นอนพักผ่อนใจแบบสบายกายกันใช่ไหมล่ะ นี่เลยเราขอแนะนำที่พักสไตล์เรียวกัง ห้องนอนแบบญี่ปุ่นดั้งเดิมพร้อมออนเซ็นฟินๆสมกับ Beppu ที่เป็นเมืองแห่งออนเซ็น
1. Bokai Ryokan Beppu
ได้เวลากลับไปพักแช่น้ำแร่ที่เรียงกังสุดหรูในคืนนี้แล้ว โดยเราพักกันที่เรียวกังชื่อ Bokai ราคาคนละ 18,000 เยน ก้อตกคนละ 5,400 บาท พักกัน 5 คนได้ห้องใหญ่มาเลย สรุปแล้วคืนนี้เราเสียตังค์ค่าห้องทั้งหมด 27,000 บาทเลยทีเดียว แต่ขอบอกเลยว่าคุ้มค่าสุดๆ และไม่แพงเลย ห้องพักเดินเข้ามาจะมีระเบียงทางเดิน ตรงไปสู่ห้องกว้างๆห้องนี้ โดยใช้เป็นห้องนั่งเล่น ทานข้าว และห้องนอน ผนังด้านนึงเป็นกระจกขนาดใหญ่ทั้งหมด เห็นวิวทะเล บรรยากาศสุดยอดมากๆ
อาหารใน Bokai Ryokan Beppu
ไฮไลท์ของเรียวกัง Bokai นอกจากห้องพักแล้ว ก้อจะเป็นอาหารนี่แหละ อลังการ อร่อยสุดๆ และปริมาณเยอะมากๆ เยอะแค่ไหนเหรอ ก้อประมาณว่า กินๆไปบ่นเป็นเสียงเดียวกันว่า เคี้ยวจนเมื่อยปากแล้วก้อยังกินไม่หมดเลย
ในรูปคือ ซาซิมิกุ้งมังกร คนละ 1 ตัวเต็มๆ สด อร่อย เนื้อเด้งมากมาย
2. Umi Kaoru Yado Hotel New Matsumi Beppu
โรงแรมที่เราพักก็ตามหัวข้อกระทู้เลย Umi Kaoru Yado Hotel New Matsumi
โรงแรมนี้ดูเหมือนคนไทยจะไปพักอยู่บ่อยนะคะ
ก่อนหน้านี้ก็มีคนเคยรีวิวโรงแรมนี้ในพันทิปแต่น่าจะหลายปีมาแล้วค่ะ ข้อดีของรร.นี้ที่เห็นชัดๆเลยคือ พูดภาษาอังกฤษได้ค่อนข้างดี
เมื่อเทียบกับที่อื่นๆในฟุกุโอกะที่ได้ไปพักมา
ในห้องพักมีคำอธิบายการใช้งานต่างๆเป็นภาษาไทยด้วยค่ะ แล้วตอนไปฝากกระเป๋า เจ้าหน้าที่คอยแนะนำวิธีไปบ่อน้ำพุให้อย่างละเอียด
เช่น เราต้องไปยืนรอรถบัสป้ายตรงไหน ลงป้ายไหน รถบัสเบอร์อะไรรถมาอีกทีกี่โมง… พร้อมให้แผนที่มาด้วย คือดีมาก
ประทับใจสุด
บรรยากาศออนเซ็นในโรงแรม Umi Kaoru Yado Hotel New Matsumi Beppu
สรุปเที่ยว Beppu ตามรอย Pantip
เที่ยว Beppu ทั้งทีจะนอน Hostel ก็คงจะเหมือนมาไม่ถึง Beppu บอกเลยว่าต้องนอนเรียวกังเท่านั้นถึงจะฟิน สถานที่ท่องเที่ยวก็คงหนีไม่พ้นบ่อนรกและออนเซ็นทราย ส่วนสวนสาธารณะต่างๆก็ไม่ควรพลาดถ้าไปในช่วงที่ดอกไม้กำลังเบ่งบาน