สรุป [6] ประเด็นน่าสนใจ ชิมช้อปใช้ มีประโยชน์อย่างไรบ้าง? ชาว Pantip อยากบอก!

โครงการชิมช็อปใช้เป็นกุศโลบายที่มีการวางแผนมาอย่างดี     ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว โครงการชิมช็อปใช้เป้าหมายหลักมีสองประการ    หนึ่งก็กระตุ้นเศรษฐกิจนั่นแหละ    สองคือการดึงเอาร้านค้าเล็กๆย่อยๆเข้ามาสู่ระบบออนไลน์      เพื่อนำไปสู่การตรวจสอบรายได้และเข้าสู่ระบบภาษี      การดึงเอาเศรษฐกิจนอกระบบเข้ามาอยู่ในระบบนี้รัฐบาลดำเนินการมาตั้งแต่แรกและออกนโยบายต่างๆมาเสริมโดยตลอด   ออกนโยบายจ่ายแบบออนไลน์ไปเรื่อยๆบรรดาร้านค้าเล็กๆเห็นร้านที่เข้าร่วมโครงการไปได้รายได้เพิ่มขึ้น    เดี๋ยวสุดท้ายก็ต้องทยอยมาเข้าโครงการด้วยในที่สุด

คลิก! อ่านกระทู้ต้นฉบับ

ในแง่ดึงร้านค้าเข้า E-paymentถือว่าได้ผล  แต่ในแง่กระตุ้นเศรษฐกิจ การแจกหมื่นเล้านมันแค่เศษเสี้ยวเมื่อเทียบกับ GDP  จะให้ได้ผลมันต้องเกิด multiplier มากๆ โดยเฉพาะจากการเติมเงินเพิ่มนอกจาก1,000จากรัฐ  อาจเกิดการใช้จ่ายทวีเป็นแสนล้านได้ แต่ช่วงโหว่ใหญ่ๆเลย  ก็คือ นศ.(7.8ล้านคน)และคนทำงานคนละจังหวัดกับบ้าน   ก็แค่ลงทะเบียนแล้วไปซื้อของ1,000บาทโดยไม่เติมเงินเพิ่ม  อันนี้ เงินรัฐหมื่นล้าน  ไม่ได้ทวีคูณการใช้จ่ายอะไรเลย   ยังไม่รวม ร้านเหล้าจำนวนมากที่รับเงินนี้ไป

คลิก! อ่านกระทู้ต้นฉบับ

กระตุ้นคับ กระตุ้นทางอ้อม อย่างน้อยสินค้าที่เขาเอามาขาย ก็ต้องสั่งจากผู้ผลิต

คลิก! อ่านกระทู้ต้นฉบับ

ของฟรีไม่มีในโลก ต้องมีใครสักคน เสียค่าส่วนต่างนี้

คลิก! อ่านกระทู้ต้นฉบับ

ได้ประโยชน์ทั้งผู้เข้าร่วมลงทะเบียนและช่วยหนุนเศรษฐกิจให้หมุนเวียนตามช่วงระยะเวลานั้นๆ   รวมทั้งเป็นการดึงร้านค้าให้เข้าสู่ระบบอีเพย์ฯ   นับเป็นก้าวที่ดีครับ

คลิก! อ่านกระทู้ต้นฉบับ

ก็แล้วแต่มุมมอง เอาที่ประเด็นหลักเรื่องแจกเงินก่อน ส่วนตัวมองว่าเป็นนโยบายสิ้นคิด แต่ก่อนเราก็เคยพยายามให้ภาครัฐยื่นเบ็ดมากกว่ายื่นปลา ไม่ใช่หรือ แล้วนโยบายนี้คือ ?? ที่เนียนเฮตามๆ กัน ก็เพราะนิสัยที่อะไรก็ตามที่ “ตัวเองได้ หรือมีสิทธิ์ได้ ฟรีฟรี” มันดีไปหมด ไม่แปลกใจในหลักการของภาครัฐบ้างเลยหรือ เราเสียภาษีให้รัฐ เพื่อให้รัฐเอาไปพัฒนา ภาครัฐมีรายได้จากเงินเล็กๆ น้อยๆ ของแต่ละคน เพื่อรวบรวมให้เป็นก้อนใหญ่เอาไปลงทุนเพื่อประโยชน์ส่วนรวมอย่างพวกสาธารณูปโภคต่างๆ แต่นี่ ภาครัฐเอาเงินก้อนใหญ่ๆ มาแจกเล็กๆ น้อยๆ กับคนบางกลุ่มบางคน หลักการมันกลับกันตรงกันข้ามเลย

คลิก! อ่านกระทู้ต้นฉบับ

จำกัดเวลาแค่ 14 วันไม่เผื่อฉุกเฉินเลย  คนว่างแค่เสาร อาทิตย์  น่าจะขยายสัก 1 เดือน  จำกัดสิทธิเกินไป  ถ้าขยายให้ไปช้อปชิมใช้จังหวัดไหนก็ได้จะดีมาก คนเราต้นทุนไม่เท่ากัน  เดินออกจากบ้านก็เสียเงินแล้ว

คลิก! อ่านกระทู้ต้นฉบับ

กว่าจะไปใช้ 1,000 คนเป็นพันรอคิวจ่ายเงิน 4 ขม. ถอยดีกว่า ไปเดินเล่นช้อปเงินส่วนตัวหมดไปป็นพันก่อนแล้ว 5555 แผนกระตุ้นศก.ชัดๆ

คลิก! อ่านกระทู้ต้นฉบับ

นโยบายประชานิยมไงคะแจกเงินเพื่อบอกว่าจะกระตุ้นศก. แต่จริงๆแล้วมีนัยยะแอบแฝงคือหวังผลเพื่อให้ประชาชนชื่นชอบในผลงาน รัฐบาลนี้ดี แจกเงินๆๆ สมัยหน้าเลือกอีกๆ แต่ผลประโยชน์จากเม็ดเงินจริงๆก็ไปตกอยู่กับรายใหญ่ เจ้าเดิมๆนั่นแหละ

คลิก! อ่านกระทู้ต้นฉบับ

เข้าใจว่าช่วงนี้ของทุกๆปี เป็นช่วงที่กำลังซื้อน้อยอยู่แล้วแล้วยังมาเจอสภาพเศรษฐกิจที่ยังชะลอตัวทั่วโลก นักท่องเที่ยวต่างชาติก็พากันลดลงกว่าที่รัฐคาดไว้ ก็เลยต้องมากระตุ้นใช้จ่ายภายในประเทศแทน โดยเน้นไปที่ท่องเที่ยว(รัฐบาลลุงตู่นี่ชวนแต่คนออกไปเที่ยวมาตลอดเลย) แต่ชวนอย่างเดียวคนคงไม่สนใจเพราะไม่ใช่ฤดูจับจ่ายอยู่แล้ว เลยทำแพ็กเกจแจกเงินออกมา ไอ้เงินที่ได้มา1000ฟรีๆก็จริง แต่พอออกไปใช้จริงๆมันต้องเกินพันไปอยู่แล้ว รัฐบาลน่าจะหวังตรงนี้เยอะหน่อย แต่เอาจริงๆผมว่าคนส่วนใหญ่หาทางเอาเงินไปลงห้างซื้อพวกของใช้กันหมด ไม่ได้เอาออกไปเที่ยวตามที่รัฐหวังเท่าไหร่ สรุปก็ช่วยแค่การบริโภคภายในนิดหน่อย เพราะคนส่วนมากยังเก็บเงินรอเที่ยวสิ้นปีอยู่ดี

คลิก! อ่านกระทู้ต้นฉบับ