- 1. อยากทำน้ำยากะทิสูตรเด็ดแบบชาว Pantip มีวิธีทำอะไรน่าสนใจกันบ้าง!? บทความนี้มีคำตอบให้แน่นอน…
- 1.1. วิธีทําน้ํายากะทิน้ํายาปลาช่อน แบบชาว Pantip สูตรที่ 1
- 1.2. วิธีทําน้ำยากะทิ ขนมจีนน้ำยาปลาช่อน แบบชาว Pantip สูตรที่ 2
- 1.3. วิธีทําน้ำยากะทิ ตำรับเมืองสุพรรณ แบบชาว Pantip สูตรที่ 3
- 1.4. วิธีทําน้ำยากะทิ ตำรับ สูตรโบราณ แบบชาว Pantip สูตรที่ 4
- 1.5. วิธีทําน้ำยากะทิ!!!แบบบ้านๆ แบบชาว Pantip เรียกร้อง สูตรที่ 5
- 2. สรุปสุดท้าย : วิธีทําน้ำยากะทิ แบบชาว Pantip เรียกร้องอร่อยจริง!!
อยากทำน้ำยากะทิสูตรเด็ดแบบชาว Pantip มีวิธีทำอะไรน่าสนใจกันบ้าง!? บทความนี้มีคำตอบให้แน่นอน…
เมนูที่คนไทยมักจะทานกันก็คือขนมจีนน้ำยากะทิ วันนี้ชาว Pantip อยากจะมาแนะนำวิธีการทำสูตรขนมจีนน้ำยากะทิที่น่าอร่อย แต่ละพื้นที่ก็คงมีสูตรการทำที่แตกต่างกัน ลองทำตามดูจะได้รู้ว่าสุดไหนที่เหมาะกับเราที่เราชื่นชอบจะได้ทำทานเองที่บ้าน
6 เมนูอาหารเช้า วัตถุดิบน้อย ทำง่าย แถมอร่อยด้วย [แนะนำโดยชาว Pantip]
วิธีทําน้ํายากะทิน้ํายาปลาช่อน แบบชาว Pantip สูตรที่ 1
วันนี้ ครัวตุ๊กตา ชวนมาทำขนมจีนน้ำยา รสชาติเข้มข้น เป็นน้ำยาปลาช่อน ทานกันได้ทั้งบ้านเลย ใส่ลูกชิ้นปลา อร่อยลืม
ส่วนผสมละเครื่องปรุง
1. ปลาช่อน 1 ตัว ลูกชิ้นปลา 300 กรัม
2. พริกแป้ง เม็ดใหญ่ และเล็ก 1 ถ้วย
3. กระชาย 1 ถ้วย น้ำปลา 3-4 ชต.
4. น้ำตาลปี๊บ 1 ชต. กระทิ 1 กระป๋อง
5. ปลาอินทรีย์เค็ม 1 ชิ้น
6. ข่า 2 ชต.
7. ตะไคร้ 4 ต้น
8. หอมแดง 10 หัว
9. กระเทียม 1 หัวใหญ่
10.ขมิ้น 1 หัวแม่มือ
11.ผิวมะกรูด 1 ชช.
12. กะปิ 1 ชต.
13. น้ำเปล่า
วิธีทำ
1. ล้างทำความสะอาดปลาช่อน หั่นครึ่ง สะดวกในการต้ม ใส่เครื่องแกงทั้งหมดลงต้มด้วย ยกเว้นกะปิ จากนี้ ก็ต้มให้เดือด และรอจนปลาสุกดี ตักปลาขึ้น และต้มเครื่องแกงให้สุกนิ่ม
2. เมื่อปลาและเครื่องแกงสุกดี นำมากรอง แยกเนื้อปลา และเครื่องแกงออก ส่วนของปลานำมาแกะเอาแต่เนื้อปล หนังไม่เอา ส่วน เครื่องแกง เราจะนำไปตำ หรือ ปั่นก็แล้วแต่ ตามชอบ ปั่นให้ละเอียด
3. ระหว่างปั่น หรือตำ จะใส่ผิวมะกรูด และ กะปิลงตำ หรือปั่น พร้อมกัน จะเห็นว่าผิวมะกรูด ขจองตา จะแปลก ๆ ตานำมาจากเมืองไทยเลย สำหรับตำเครื่องแกงโดยเฉพาะเลย แม่ทำให้ ปลอกเปลือก แล้วปั่น ใส่ถุงพลาสติก แต่ช่องแข็ง นำมาอเมริกาด้วย เลยได้ทำพริกแกงกินเอง จะหอมมากกก
4. ระหว่างปั่น หรือ ตำ ให้นำเนื้อปลาช่อนที่แกะก้างออก แล้วนำมาตำรวมกับพริกแกง รวมกันในโถปั่น สำหรับใครที่ใช้เครื่องปั่น ปั่นให้ละเอียด ตามชอบ จากนั้น น้ำที่ต้มเครื่องสมุนไพรอย่าทิ้ง นำมาต้มใส่ปลาเค็ม ต้มซัก 3-5 นาทีจนส่งกลิ่นหอม กรองเอาปลาเค็มออกไป และ นำเครื่องแกงที่ ปั่น มาใส่หม้อ ตั้งไฟให้เดือด
5. เมื่อเครื่องแกงเดือด เติมกะทิ 1 กระป๋อง ลงไปเลย คนให้เข้ากันดี ปรุงรสด้วย น้ำปลา และ น้ำตาลปี๊บ ชิมรสตามที่เราต้องการ
6. สำหรับเส้น ขนมจีน หาไม่ยากในอเมริกา เป็นเส้นแห้งแบบที่เห็นในรูป หาซื้อได้ง่ายตามร้านเอเชีย สำหรับส่วนตัว ชอบเส้นที่มาจากเกาหลี แบบในภาพ เส้นเหนียวนุ่ม เหมือนเส้นขนมจีนบ้านเราเลย ต้มง่าย ต้มแค่ 3 นาทีก็สุก
7. น้ำยาปรุงรส เคี่ยวให้เดือด ใส่ลูกชิ้นปลาตามชอบ ฉีกใบมะกรูด ใส่ด้วยจะหอมมากเลย เรียบร้อยแล้ว พร้อมเสิร์ฟ แล้ว ทานกับขนมจีน อร่อยทานกันได้ทั้งวัน
วิธีทําน้ำยากะทิ ขนมจีนน้ำยาปลาช่อน แบบชาว Pantip สูตรที่ 2
ขนมจีนน้ำยาปลาช่อน น่าจะจัดได้ว่าเป็นขนมจีนน้ำยายอดนิยม เพราะปลาช่อนสดเนื้อหวาน นำไปทำขนมจีน เนื้อปลาช่อนจะฟู ทำให้น้ำยาขนมจีนข้น . ดังนั้น เราจะหาขนมจีนน้ำยาปลาช่อนที่มีคุณภาพทานได้ค่อนข้างจะลำบาก เพราะว่าคนขายขนมจีนน้ำยาปลาช่อนไม่สามารถขายที่ราคาพอเหมาะสมได้ คนทั่วไปยังให้ราคาขนมจีนค่อนข้างจะต่ำ ขนมจีนน้ำยาปลาช่อนเลยใส่ปลาช่อนมาน้อย น้ำยาค่อนข้างจะใส ดังนั้น อยากทานขนมจีนน้ำยาปลาช่อนอร่อยๆ ก็มีอยู่แนวทางเดียวคือ ต้องทำเอง น้ำยาปลาช่อนสูตรดั้งเดิมเก่าแก่ จะเอาปลาช่อนสดมาต้มกับน้ำปลาร้า พร้อมกับ หอม กระเทียม พริก และ กระชาย แต่ ที่บ้านมีสมาชิกส่วนใหญ่ไม่ทานปลาร้า เลยทำน้ำยาแบบง่ายๆ ใช้พริกแกงเผ็ด แล้วค่อยเพิ่มกระชายลงไป
1. ปลาช่อน 1.2 กก.
2. กะทิสด 1.5 กก.
3. กระชาย 300 – 500 กรัม
4. พริกแกงเผ็ด 200 กรัม
5. ตระใคร้ 2 ต้น
6. ข่า 2 ชิ้น
1. ปลาช่อนสด เนื้อหวาน จัดเป็นปลาน้ำจืดชั้นยอด ซื้อปลามา 1 ตัวหนัก 1.2 กก.
2. นำปลาไปต้ม ใส่ตระใคร้ กระชาย ข่า แกะเนื้อปลาช่อน และนำไปปั่นใน Food Processor ได้เป็นเนื้อปลาช่อนสับ
3. กระชายประมาณ 300 กรัม นำไปปั่นกับหางกะทิให้ละเอียด
4. เอาหัวกะทิ 1.5 ถ้วย ไปผัดกับพริกแกง 150 กรัม ให้เข้ากัน เติมเนื้อปลาช่อน ใส่หัวกะทิลงไปให้หมด ใส่ใบมะกรูด และ กระชายลงไปครึ่งหนึ่งก่อน แล้วชิม ค่อยๆ เพิ่มกระชายไปจนได้รสตามต้องการ (ไม่ต้องการใส่กระชายมาก เพราะจะไปกลบรสปลา)
5. พอแกงเดือด ปรุงรสเค็มด้วยเกลือ ตั้งไฟอ่อนไปอีก 30 นาที ถ้าน้ำยาข้นเกินไปให้เพิ่มหางกะทิ น้ำยาปลาช่อนออกมาข้นเพราะเนื้อปลาช่อนจะซับน้ำแกงไปทำให้เนื้อฟู ผักแนมได้แก่ มะระ ผักกาดดอง ถั่วงอก ถั่วฝักยาว และ ใบแมงลัก ไข่ต้ม ตักน้ำยาราดขนมจีนให้ชุ่ม
6. ประดับด้วยผักแนมและไข่ต้ม น้ำยาปลาช่อนเข้มข้น ได้รสหวานเนื้อปลาผสมกับหัวกะทิ พร้อมกับกลิ่นหอมจากกระชาย เลิศ คุ้มค่าที่ทำ
หันมาขับส่งอาหารกับ Foodpanda คุ้มค่าไหม รวมประสบการณ์น่าสนใจจากชาว Pantip [ข้อมูล 2020]
วิธีทําน้ำยากะทิ ตำรับเมืองสุพรรณ แบบชาว Pantip สูตรที่ 3
วันนี้เต่าน้อยคอยรักมีเมนู “น้ำยากะทิ” ตำรับเมืองสุพรรณมาฝากครับ น้ำยาในบ้านเรามีมากมายหลายสูตร ขึ้นอยู่กับพื้นที่และทรัพยากรที่มี ในส่วนจังหวัดสุพรรณ มีทุ่งนามากย่อมมีปลาช่อนมากเหมือนกัน ปลาช่อนนานั้นเนื้อแน่น หวาน ฟู ครับ ตำรับที่เต่าน้อยจะมาทำวันนี้ได้รับมาจากคุณย่า ที่สอนเต่าน้อยมาแต่เด็ก ๆ ไปดูกันเลยครับ ว่าจะน่าทานและอร่อยเพียงใด
ก่อนจะเริ่มทำ ต้องเดินตามท้องทุ่งนามาหาวัตถุดิบในการทำ อย่างแรกคือกระชาย ต่อด้วยข่า สำหรับปลาช่อนที่ใช้ทำ คุณปู่ได้มาจากการดักบ่อ เป็นบ่อดินถ้าปลาผ่านมาก็จะตกลงไปในบ่อครับ วิถีชนบท ก็ฟินดี
วัตถุดิบที่ใช้ในการทำน้ำยากะทิ
1.ปลาช่อนนา
2.กะทิ
3.กระชาย
4.ตะไคร้
5.ข่า
6.กระเทียม
7.หอมแดง
8.รากผักชี
9.พริกแห้งบางช้าง
10.น้ำปลา
11.กะปิอย่างดี เครื่องแกงทำน้ำยา ถือว่าไม่เยอะครับ แต่ต้องอาศัยเทคนิคในการทำ รสชาติ สี ถึงจะน่ารับประทาน
เริ่มต้น
1. ด้วยการต้มปลากันก่อน เติมน้ำใส่หม้อ รอให้เดือดใส่ ข่า ตะไคร้ กระชาย บุพอแตก และนำปลาช่อนลงไป ต้มพอปลาสุกจึงแกะเนื้อ
2. มาเริ่มทำพริกแกงกัน อยากแรกนำพริกกับเกลือ มาตำให้ละเอียดเนียนเลย การที่ใส่เกลือลงไปด้วยเป็นการป้องกันไม่ให้กระเด็น เพราะเกลือดูดซับน้ำไป และต่อด้วยรากผักชี ตะไคร้ ข่า
3. ใส่ครึ่งหนึ่งของตะไคร้ กระชาย กระชายถ้าทำน้ำยาจะใส่มากกว่าพริกแกงเผ็ด ต่อด้วยกระเทียม หอมแดง ใส่ครึ่งหนึ่งของกระเทียม สุดท้ายกะปิปิ้งเตาถ่านห่อใบตอง เสร็จแล้ว พริกแกงสำหรับทำน้ำยา
วิธีการทำน้ำยา
1. อย่างแรกตั้งกระทะใส่หัวกะทิลงไปครึ่งหนึ่ง เคี่ยวจนกะทิแตกมัน จึงใส่พริกแกงลงไปผัด
2. เมื่อผัดจนหอม ใส่นำกะทิที่เหลือลงไป นำปลาที่แกะเนื้อแล้วไปตำ แล้วใส่ไปในกระทะ
3. ผัดให้หอมฉุย เมื่อผัดพริกเสร็จแล้ว ให้ใส่ลงไปในหางกะทิ เคี่ยวไปเรื่อย ๆ
4. แล้วใส่น้ำกระชายคั้น เพิ่มความหอม เคี่ยวให้น้ำงวด เราก็จะได้น้ำยากะทิ หอมฉุย อร่อย ๆ แล้ว
5. น้ำยากะทิ เป็นอาหารที่ทำแล้วจะเจริญอาหารมาก ทานแล้วติดใจตลอดเลย แต่ก็ไม่กลัวอ้วนนะ สมุนไพรและผักต่าง ๆ เยอะมาก เต่าน้อยคอยรักขอฝากสูตรนี้ไว้ในอ้อมอกอ้อมใจด้วยนะ
วิธีทําน้ำยากะทิ ตำรับ สูตรโบราณ แบบชาว Pantip สูตรที่ 4
วันนี้ตอนแรกกะว่าจะทำ บะหมี่หมูแดง แต่หม่าม้าอยากทานขนมจีนน้ำยา เลยต้องเปลี่ยนเมนูกกระทันหัน อุตส่าห์ไปขุดเครื่องทำเส้นพาสต้า อายุอานาม กว่า 40 ปีออกมาจากกรุเจ้าคุณแม่ เป็นอันต้องพับ project ไปชั่วคราว งั้นเรามาเริ่มทำ ขนมจีนน้ำยาของเรากัน
ส่วนผสม
1.ส่วนผสมเครื่องแกง
2. เนื้อปลา 350 กรัม
3. นำ้เปล่า 3 ถ้วย
4. ปลาอินทรีเค็มปิ้งให้หอม. 1 ชิ้น
5. พริกแห้งแกะเม็ดออกแช่น้ำให้นิ่ม. 30 กรัม
6. เกลือป่น. 1 ชช
7. ข่าหั่นละเอียด. 2 ชช
8. ตะไคร้ซอยบางๆ. 2 ชตพูนๆ
9. หัวหอมแดงหั่นหยาบ. 5 ชตพูน
10. กระเทียมหั่นหยาบ. 3 ชตพูน
11. กระชายหั่นบางๆ. 200. กรัม
วิธีทำ
1. ปิ้งปลาอินทรีเค็ม ด้วยไฟอ่อนให้เหลืองหอมมมมไปทั่วบ้าน ( นี่ก็หนึ่งในวัตถุดิบที่ไปซื้อที่แม่กลอง)
2. ขอดเกล็ดควักไส้ปลา ล้างให้สะอาด วันนี้ต้อมใช้ปลานิล ซื้อมาไว้นานแล้วเลยเอามาทำซะเลย จริงๆแล้วที่อร่อยต้องใช้ปลาช่อน นานๆทีจะได้ทานเพราะต้องไปด้อมๆมองๆตัวที่ตายแล้ว บางทีถ้าไม่มีก็อด
3. นำไปต้มด้วยน้ำเปล่า 3 ถ้วย ให้ปลาสุก นำขึ้นมาแกะเอาแต่เนื้อ ( ไม่เอาหนังและก้าง) เก็บน้ำเอาไว้ ปูลู แต่ถ้าบางคนชอบเหม็นคาวปลา ก็ไม่ต้องใช้นำ้นี้ก็ได้
4. นำเครื่องแกงทั้งหมดลงไปต้มในน้ำต้มปลา ให้สุก
5. ใช้กระชอนตักขึ้นมา นำไปปั่นรวมกับปลาอินทรีเค็มปิ้งในเครื่องปั่นให้ละเอียด วันนี้ใช้เครื่องปั่นที่เป็นโถแก้วเลยไม่ต้องรอให้เย็นขึ้นจากหม้อก็ปั่นได้เลย
6. นำเนื้อปลาล้วนๆไปชั่งน้ำหนักให้ได้ 350 กรัม แล้วนำไปโขลก จบส่วนผสมของเครื่องแกง
ปล 1. ของอาจจะดูเยอะ ไม่ต้องตกใจ เพราะวันนี้ต้อมทำ 2 สูตร
ปล 2. พริกอาจจะดูน๊อยยยม๊ากกกกก เพราะหม่าม้าทานเผ็ดไม่ค่อยได้ เลยลดจาก 60 กรัมเป็น 20 กรัม อาจจะดูจืดๆไปบ้างเล็กน้อย
ต่อไปมาดูส่วนผสมของ น้ำยากัน
1. หัวกะทิ 3/4. ถ้วย
2. หางกะทิ 3. ถ้วย
3. เครื่องแกงที่โขลกไว้แล้ว
4. น้ำปลา 1/3. ถ้วย
5. ผักที่ใช้รับประทานคู่กับน้ำยา ถั่วงอก ถั่วฝักยาว ใบแมงลัก สะเดา แตงกวา ( หมู่นี้ติดใจแตงกวาญี่ปุ่น จริงๆใช้แตงกวาธรรมดาก็ได้)
6. ไข่ต้ม ( เมื่อเช้าจัดไข่ลวกไปแล้ว วันนี้เลยหมดโควต้า)
วิธีทำ
1. นำน้ำที่เหลือจากการต้มปลาและเครื่องแกงใส่ลงไปในหม้อพร้อมเครื่องแกงคนให้เข้ากัน
2. ใส่หางกะทิลงไป ( พอดีต้อมมีกะทิเหลือใส่ช่องฟรีสไว้ เลยไม่ต้องนั่งคั้นใหม่ เลยเห็นกะทิลอยเป็นก้อนเบ่อเร่อ )
3. นำขึ้นตั้งไฟให้เดือด หมั่นคน เคี่ยวต่อไปด้วยไฟอ่อนๆจนข้นเล็กน้อย ละลายหมดแล้ว เคี่ยวจนน้ำงวดลงเล็กน้อย
4. ใส่หัวกะทิ ( ก็เป็นก้อนอีก แต่ตอนถ่ายละลายไปหมดแล้วเลยไม่เห็น ) คนให้ละลาย พอเดือดยกลง แถ่นแท้นนน เสร็จแล้ว
วิธีทําน้ำยากะทิ!!!แบบบ้านๆ แบบชาว Pantip เรียกร้อง สูตรที่ 5
วันนี้ว่าง ๆ เลยนึกอยากกิน ‘ขนมจีนน้ำยา’ แต่อยากกินแบบบ้าน ๆ ที่แม่เคยทำให้กินตอนเด็ก ๆ คงหาซื้อไม่ได้ เลยจัดการครัวเอาเองซะเลย เอามาฝาก เพื่อนลองทำชิมดู หัวเราะ วัตถุดิบ ตามนี้เลย
เตรียมวัตถุดิบ
1. ขิง ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด กระชาย หอมแดงทุบ กระชาย รากผักชี
2. ปลาร้า
3. ปลาช่อน
วิธีทำ
1. เริ่มต้นด้วยการต้มปลา กับทำน้ำซุปปลาร้า ใส่ขิง ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด กระชาย หอมแดงทุบ กระชาย รากผักชี พอเดือดก็ใส่ปลาร้า
2. รอเดือดอีกรอบ ค่อยเอาปลาลงต้ม ต้มสักพักจนปลาสุก เราก็เอาทุกสิ่งอย่างมาแยกร่างกัน จะได้น้ำซุปปลาร้า กับนำปลาที่ต้มแล้วมาเลือกก้าง
3. จนเหลือแต่เนื้อ นำไปโขลกพอละเอียด เคี่ยวกะทิจนแตกมัน นำพริงแกงลงผัด ตามด้วยเนื้อปลาที่โขลกไว้แล้ว ปรุงรสตามชอบได้เลย ปูปลาร้าครบรส หลงรัก
4. ต้มน้ำซุปปลาร้าให้เดือด เอาปลาที่ผัดไว้ลงหม้อ ตามด้วยผักชีลาว ต้นหอม ผักชี เท่านี้ก็เป็นอันเสร็จ พร้อมเสิร์ฟ
แจก[5สูตร]ต้มซุปเปอร์ขาไก่สูตรเด็ด!! จนชาว Pantip ร้องขอชีวิต!!
สรุปสุดท้าย : วิธีทําน้ำยากะทิ แบบชาว Pantip เรียกร้องอร่อยจริง!!
เป็นอย่างไรบ้างสบายการแนะนำสูตรวิธีทำขนมจีนน้ำยากระทิ ที่ชาว Pantip ใครที่จะทำเองกินที่บ้านก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี นอกจาก จะได้วัตถุดิบที่สะอาดและปลอดภัยจากตัวเราหามาแล้ว ยังสามารถปรับแต่งรสชาติตามที่เราต้องการได้อีกด้วย เมื่อเราทำที่หนึ่งก็สามารถกินได้หลายคนอีกต่างหาก ได้ทีเด็ดก็คืออยู่ที่เนื้อปลาว่าเราจะเลือกปลาอะไรมาทำ ถ้าทำตามสูตรที่ชาวพันทิพย์แนะนำรับรองว่าเด็ดแน่นอน