- 1. ชาว Pantip มาเล่า ทำไมรีไฟแนนซ์บ้าน ถึงเป็นตัวเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ?
- 1.1. ชาว Pantip แนะนำ รีไฟแนนซ์บ้าน คืออะไร?
- 1.2. ชาว Pantip แนะนำ ทำไมต้องรีไฟแนนซ์
- 1.3. ชาว Pantip บอกเมื่อไรควรคิดรีไฟแนนซ์
- 1.4. ชาว Pantip แนะนำ รีไฟแนนซ์บ้านรู้จักกับดอกเบี้ย 2 ชนิด
- 1.5. ชาว Pantip แนะนำ รีไฟแนนซ์อย่างไร? ให้ได้ประโยชน์
- 1.6. ชาว Pantip ขอสรุป จุดเด่น-จุดด้อย ของรีไฟแนนซ์บ้าน ในช่วงโควิด
- 2. สรุปสุดท้าย : ชาว Pantip บอก รีไฟแนนซ์บ้านปี 2022 ยังน่าสนใจอยู่
ชาว Pantip มาเล่า ทำไมรีไฟแนนซ์บ้าน ถึงเป็นตัวเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ?
ในช่วงเศรษฐกิจ ที่ยุ่งยากและมีโรคระบาดโควิด19 บางคนต้องผ่อนชำระค่าบ้านกับทางธนาคาร ก็คงจะได้รับมาตรการที่ช่วยลดภาระในการผ่อนจ่าย แต่ถึงอย่างนั้น งานที่ทำหรือผลกระทบในเรื่องของรายรับก็เกิดขึ้นกับเราด้วย การจัดทำรีไฟแนนซ์ เพื่อผ่อนชำระค่าบ้านก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจในช่วงนี้ เพื่อจะทำให้เราผ่อนชำระได้ในส่วนต่างที่น้อยลง แต่ก็ยากด้วย เพราะโรคระบาด เศรษฐกิจแบบนี้จะมีธนาคารไหนให้รีไฟแนนซ์บ้านได้ง่ายๆ ชาว Pantip จึงอยากจะมาแนะนำว่าการรีไฟแนนซ์บ้านในช่วงนี้ยังเป็นที่น่าสนใจอยู่ไหม ตามมาดูกันเลย
ชาว Pantip แนะนำ รีไฟแนนซ์บ้าน คืออะไร?
รีไฟแนนซ์บ้านคือการกู้เงินจากสถาบันการเงินหนึ่ง แล้วนำมาปิดหนี้ที่สถาบันการเงินหนึ่ง โดยใช้หลักทรัพย์เดิม หลักประกันเดิม เช่นบ้าน, คอนโดเดิม หรือพูดง่ายๆ ก็คือย้ายสินเชื่อบ้าน หนีธนาคารดอกเบี้ยแพงๆ ไปอยู่ธนาคารดอกเบี้ยถูกๆ นั่นเอง
ชาว Pantip แนะนำ ทำไมต้องรีไฟแนนซ์
เจ้าของบ้านควรพิจารณารีไฟแนนซ์บ้านเมื่อดอกเบี้ยเงินกู้ปรับสูงขึ้นจนทำให้เรามีภาระดอกเบี้ยจ่ายที่สูง ประกอบกับถ้าหากสินเชื่อของธนาคารปัจจุบันอยู่ในช่วงที่สามารถย้ายหนีดอกเบี้ยแพงๆ ได้โดยไม่มีค่าปรับแล้ว หากมีโอกาสก็ควรที่จะมองหาดอกเบี้ยที่ถูกลง “เพราะเงินทุกบาทที่ประหยัดจากภาระดอกเบี้ย ก็คือเงินทุกบาทที่ไปหักที่เงินต้น และจะทำให้ระยะเวลาที่เป็นหนี้สั้นลง” ดังนั้นการรีไฟแนนซ์บ้านจะเป็นการรักษาระดับดอกเบี้ยที่ถือว่าเป็นค่าใช้จ่ายให้อยู่ในระดับที่ไม่สูง ผลที่จะได้รับจากการบริหารดอกเบี้ยก็คือบ้านได้หลุดจากการจำนอง และกลายมาเป็นทรัพย์สินในครอบครองของเราในเร็ววันนั่นเอง
ชาว Pantip บอกเมื่อไรควรคิดรีไฟแนนซ์
ปกติเราควรคิดจะรีไฟแนนซ์บ้าน เมื่อผ่อนบ้านไปหมด 3 ปีแรก เพราะช่วง 3 ปีเป็นช่วงที่ดอกเบี้ยบ้านไม่สูง โดยเฉลี่ยแล้วดอกเบี้ยจะอยู่ประมาณ 2% ปลายๆ ถึง 4 % แต่ในช่วงปีที่ 4 เป็นต้นไปแล้วดอกเบี้ยจะค่อนข้างสูงโดยประมาณ 5% ถึง 7% เลยทีเดียว
นอกจากนี้ ธนาคารจะมีข้อกำหนดให้กู้บ้านกับธนาคารเป็นระยะเวลา 3 ปี ห้ามย้าย รีไฟแนนซ์บ้าน ถ้าหากทำการรีไฟแนนซ์บ้านก่อน 3 ปีจะมีค่าปรับประมาณ 3% ของยอดเงินกู้ แต่หลังจาก 3 ปีไปแล้วสามารถ รีไฟแนนซ์บ้านย้ายไปกู้กับธนาคารอื่นได้ไม่มีค่าปรับอะไร
ถ้าจะคิดรีไฟแนนซ์ เพื่อนๆ ก็ควรมองหามองหาโปรโมชั่นปลายปีที่ 3 และ รีไฟแนนซ์บ้านในปีที่ 4 เป็นต้นไป
ชาว Pantip เล่าประสบการณ์ [3 สิ่งที่ควรรู้ก่อนทำ] แบบบ้านปูนขัดมัน
ชาว Pantip แนะนำ รีไฟแนนซ์บ้านรู้จักกับดอกเบี้ย 2 ชนิด
เวลาไปติดต่อธนาคารเรื่องรีไฟแนนซ์บ้านใหม่ เพื่อนๆ จะเจอกับ 2 คำนี้ ดอกเบี้ยคงที่ กับดอกเบี้ยลอยตัว บางคนก็งง ไม่รู้จะเลือกอะไรดี มาเลยจ้ะ เรามีคำอธิบาย
ดอกเบี้ยคงที่ ดอกเบี้ยเงินกู้บ้านจะถูกกำหนดไว้เลยว่าจะต้องจ่ายดอกเบี้ยคงที่ในแต่ละปี จึงค่อนข้างสบายใจและแน่ใจได้ว่าจะต้องจ่ายดอกเบี้ยเท่าไร แต่ข้อเสียคือในภาวะที่ดอกเบี้ยปรับลดลง ก็ยังต้องจ่ายดอกเบี้ยคงที่ในเรทสูงๆ ทำให้ผู้กู้ค่อนข้างเสียเปรียบ
ดอกเบี้ยลอยตัว ถ้าเห็นธนาคารเขียนว่า MLR-1, MRR-2 เขาเรียกว่าดอกเบี้ยลอยตัว (MLR คือ Minimum Loan Rate – อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ขั้นต่ำที่ธนาคารเรียกเก็บจากลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี และ MRR คือ Minimum Retail Rate – อัตราดอกเบี้ยที่ธนาคารพาณิชย์เรียกเก็บจากลูกค้ารายย่อยชั้นดี) แต่ละธนาคารก็จะใช้ MLR หรือ MRR ก็แล้วแต่ธนาคารว่าจะใช้อะไร ซึ่งอัตรา MLR, MRR จะปรับขึ้นลงตามภาวะดอกเบี้ย ซึ่งจะต้องไปสำรวจอีกต่อว่าตอนนี้ดอกเบี้ย MLR, MRR เป็นเท่าไรเช่น สินเชื่อบ้านบอกว่า MLR-1 โดยปัจจุบัน MLR = 6.5% ดังนั้นดอกเบี้ยบ้านเราจะต้องจ่ายดอกเบี้ยอยู่ที่ 6.5-1 = 5.5% สมมติว่าหนึ่งเดือนผ่านไปธนาคารประกาศปรับเพิ่ม MLR = 7% เราก็จะต้องจ่ายดอกเบี้ยบ้านอยู่ที่ 7-1 = 6% นั่นเอง
การเลือกดอกเบี้ยคงที่หรือดอกเบี้ยลอยตัวขึ้นก็อยู่กับความสามารถในการยอมรับความเสี่ยงด้านอัตราดอกเบี้ยและมุมมองในอนาคตของแต่ละคนด้วย การเลือกดอกเบี้ยแบบลอยตัวจะได้ประโยชน์จากการที่ดอกเบี้ยที่ลง ในทางกลับกันถ้าหากผู้กู้พอใจกับเรทดอกเบี้ยปัจจุบันแล้ว และไม่ได้ต้องการเสี่ยงกับภาวะดอกเบี้ย การเลือกดอกเบี้ยแบบคงที่ก็ถือว่าตอบโจทย์
ชาว Pantip แนะนำ รีไฟแนนซ์อย่างไร? ให้ได้ประโยชน์
ลองขอลดดอกเบี้ยดูสิคะ
ถ้าได้ไม่โอเคเท่าที่ใหม่ก็ค่อย refinance ค่ะ
ขอปรับลดอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านกสิกรไทยนะคะ โดยเงื่อนไขจะต้องผ่อนชำระมาแล้วอย่างน้อย 3 ปี, มีประวัติชำระดี และมียอดหนี้คงเหลือมากกว่า 500,000 บาทค่ะ ระยะเวลาในการพิจารณา 10 วันทำการนะคะ
ถ้าคิดว่าเยอะแล้วไม่ไหว ผมว่ารีไฟแนนซ์ดีกว่าครับ ผมมองดูที่ tmb ถือว่าเงื่อนไขน่าสนใจเลยนะ เพราะดอกเบี้ยก็ไม่สูง แล้วก็ถ้าทำตามเงื่อนไขธนาคาร พวกประกันก็ไม่ต้องเสียเพิ่มด้วยครับ
ชาว Pantip ขอสรุป จุดเด่น-จุดด้อย ของรีไฟแนนซ์บ้าน ในช่วงโควิด
จุดเด่น
1. ทำให้ช่วยลดภาระในการผ่อนชำระหนี้อัตราดอกเบี้ยในการผ่อนชำระลดลง
2. ช่วยให้เราสามารถได้รับส่วนต่างของราคาบ้านกับยอดเงินกู้ มีเงินก้อนในการเอาไปทำอย่างอื่นที่เราต้องการ
3. เป็นประโยชน์ในการลดความเสี่ยงในการเกิดอัตราดอกเบี้ยที่ควบคุมไม่ได้
จุดด้อย
1. ต้องคำนวณค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นในระหว่าง การรีไฟแนนซ์ เพราะอาจจะได้ไม่คุ้มเสีย
2. ถ้าเปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ยไม่ดีจะทำให้กลายเป็น เสียดอกเบี้ยเเพงขึ้น
[ก่อนทำแบบบ้านตัวแอล] ต้องรู้อะไรบ้าง!? ชาว Pantip บอก 3 สิ่ง!
สรุปสุดท้าย : ชาว Pantip บอก รีไฟแนนซ์บ้านปี 2022 ยังน่าสนใจอยู่
ต้องบอกก่อนเลยว่าการรีไฟแนนซ์ในระยะเกินการผ่อนชำระสามปีขึ้นไป ก็ยังเป็นที่น่าสนใจและ จำเป็นต่อความต้องการของผู้ที่ผ่อนชำระบ้านอยู่ เพื่อจะช่วยให้ลดภาระในการ ผ่อนบ้าน มีอัตราดอกเบี้ยที่น้อยลง แต่ต้องดูด้วยว่าในช่วงเศรษฐกิจโควิดแบบนี้ จะสามารถหารีไฟแนนซ์จากธนาคารที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำได้หรือไม่ ชาว Pantip จึงอยากจะมาแนะนำว่า ใครที่กำลังมองหากันรีไฟแนนซ์ก็เป็นตัวเลือกที่ยังน่าสนใจอยู่ แต่ก็อย่าลืมที่จะคิดถึงความคุ้มค่าที่จะได้รับจากการรีไฟแนนซ์ด้วย