- 1. วิธีทำแป้งวาฟเฟิลโดยไม่ต้องซื้อ!! ทําเองก็อร่อยได้ กับชาวPantip
- 1.1. วาฟเฟิลเบลเยี่ยม!! สูตรทําแป้งวาฟเฟิล เบลเยี่ยม Pantip สูตรที่ 1
- 1.2. สูตรทำแป้งวาฟเฟิลจากเล่ม สวีท คาเฟ่!! จากชาว Pantip สูตรที่ 2
- 1.3. แป้งวาฟเฟิลสูตรคีโต ไม่มีแป้ง ไม่มีน้ำตาล!! จากชาว Pantip สูตรที่ 3
- 1.4. แป้งวาฟเฟิลสูตรเก็บได้นาน!!หอม นุ่ม จากชาว Pantip สูตรที่ 4
- 1.5. แป้งวาฟเฟิลสูตรกรอบนอกนุ่มใน!! จากชาว Pantip สูตรที่ 5
- 2. บทสรุปส่งท้าย : สูตรแป้งวาฟเฟิลมีหลายสูตรให้เลือก!! ลองเลือกจากชาว Pantip แนะนำ
วิธีทำแป้งวาฟเฟิลโดยไม่ต้องซื้อ!! ทําเองก็อร่อยได้ กับชาวPantip
เรียกว่าเป็นขนมหรืออาหารเช้าได้เลยสำหรับเมนูวาฟเฟิล ทำง่ายรวดเร็วและทำรับรองแขกได้ด้วย แต่ใครจะรู้ว่าวิธีการเตรียมแป้งวาฟเฟิลทำอย่างไร ถ้าซื้อสำเร็จรูปก็ได้บทความนี้อยากจะแนะนำ สูตรแป้งวาฟเฟิลที่ชาว Pantip แนะนำ สามารถทำแป้งวาฟเฟิลที่บ้านเองได้เหมือนกัน จะทำยังไงได้บ้างนั้น ไปลองทำตามกันเลย
แบ่งปัน [5 สูตร] ทำขนมบราวนี่ทำเอง แสนง่ายชนิดที่ชาว Pantip ยังปลื้ม!
วาฟเฟิลเบลเยี่ยม!! สูตรทําแป้งวาฟเฟิล เบลเยี่ยม Pantip สูตรที่ 1
เตรียมวัตถุดิบ
1. นมสด 3/4 ถ้วย
2. ไข่ไก่ 2 ฟอง
3. แป้งสาลีบัวแดง 320 กรัม
4. แป้งขนมปัง 120 กรัม
5. เนยสด 200 กรัม
6. น้ําตาล 1/4 ถ้วย(ชอบหวานแนะนําให้เพิ่มคะ)
7. เกลือ 1/4 ช้อนชา
8. วานิ วาลา 1 ช้อนชา
9. ยีสต์ 4 1/2 ช้อนชาชา
วิธีทำ
1. นำส่วนของเหลวของแห้ง ใส่เครื่องนวดแป้งลงไป พอเครื่องนวดไปประมาณ 5 นาทีใส่เนยตามลงไป ปล่อยให้เครื่องนวด และพักแป้งตามเวลาต่อไป
2. แล้วแบ่งก้อนโดว์ ก้อนละ 30 กรัม ได้มาทั้งหมด 15 ก้อน ทำครึ่งสูตร แล้วแบ่งก้อนโดว์ ก้อนละ 30 กรัม ได้มาทั้งหมด 15 ก้อน อุ่นเตาให้พร้อมสำหรับการอบ ใช้เวลาประมาณ 5 นาทีเตาก็ร้อนแล้ว
3. แล้วก็จัดการเอาแป้งวางเลย อย่างง่ายดาย แล้วปรับระดับความกรอบกันเลยที่ตัวเครื่อง วันนี้ใช้ระดับ 3 ชอบกินกรอบๆ เกรียมๆ ใช้เวลาไม่นานเลย ล้างอุปกรณ์ยังไม่ทันเสร็จ ก็ติ๊ง แล้ว รอบแรก ทดลองอบสองแผ่นก่อน ใช้ไม้จิ้มฟันแงะๆก็ออก
4. ทิ้งให้เย็นสักพัก กรอบนอกนุ่มใน อร่อยมาก แม้ไม่ได้ใส่ใส้แต่ตัวแป้งเค็มนิดๆ หวานหน่อยๆ อร่อย ถ้าได้กาแฟขมๆสักแก้วนะ
สูตรทำแป้งวาฟเฟิลจากเล่ม สวีท คาเฟ่!! จากชาว Pantip สูตรที่ 2
อุปกรณ์ เครื่องทำวาฟเฟิล
1. “วาฟเฟิลอาลาโมด”จำนวน 8 แผ่น
2. แป้งวาฟเฟิล
3. แป้งสาลีอเนกประสงค์ร่อน 200 กรัม
4. ผงฟู 1½ ช้อนโต๊ะ
5. เกลือป่น ½ ช้อนชา
6. นํ้าตาลทรายขาว 15 กรัม
7. ไข่แดงไข่ไก่ (3 ฟอง) 60 กรัม
8. นมสดชนิดจืด 160 กรัม
9. เนยสดชนิดจืดละลาย 30 กรัม
10. กลิ่นวานิลลา ½ ช้อนชา
11. ไข่ขาวไข่ไก่ (3 ฟอง) 100 กรัม
12. ท็อปปิ้ง
13. วิปปิ้งครีม
14. สตรอว์เบอร์รี
15. แบล็กเบอร์รี
16. ใบสะระแหน่
17. ไอศกรีมรสวานิลลา
18. พิสตาชิโอบดหยาบ
สิ่งที่ต้องเตรียม
1. อุ่นเครื่องทำวาฟเฟิลให้ร้อน ทาเนยเล็กน้อย ก่อนทำวาฟเฟิล
2. ตักไอศกรีมเป็นก้อนกลมไว้ แช่ในตู้เย็นช่องแช่แข็งให้เย็นจัด ก่อนเสิร์ฟ
วิธีทำ
1. ทำแป้งวาฟเฟิลโดยร่อนแป้งสาลี ผงฟู และเกลือเข้าด้วยกันในอ่างผสมขนาดกลาง พักไว้
2. เตรียมภาชนะอีกใบ ผสมนํ้าตาลกับไข่แดง ตีให้เข้ากันด้วยตะกร้อ พักไว้
3. ผสมนมสด เนยละลาย และกลิ่นวานิลลา ในอ่างผสม พักไว้ นำส่วนผสมของไข่แดงเทลงผสมกับส่วนผสมของนม คนให้เข้ากัน จากนั้นเทลงในอ่างผสมของแป้งที่ร่อนไว้ คนให้เข้ากันด้วยตะกร้อ ปิดหน้าอ่างผสมด้วยพลาสติกแร็ป พักไว้ในตู้เย็นช่องธรรมดาอย่างน้อย 3 ชั่วโมง ถึง 1 คืน
4. นำอ่างผสมออกจากตู้เย็น พักไว้ที่อุณหภูมิห้องประมาณ10 นาที คนด้วยตะกร้อให้ส่วนผสมไม่จับตัวเป็นก้อน
ตีไข่ขาวให้ขึ้นฟูในอ่างผสม จนกระทั่งไข่ขาวตั้งยอดอ่อน เทไข่ขาวลงในส่วนผสมแป้งและนม ตะล่อมเบาๆให้เข้ากันด้วยไม้พาย เทส่วนผสมใส่พิมพ์เครื่องทำวาฟเฟิลอบให้สุก
5. เสิร์ฟวาฟเฟิลโดยท็อปปิ้งด้วยวิปปิ้งครีมที่ตีจนตั้งยอดสตรอว์เบอร์รี แบล็กเบอร์รี ใบสะระแหน่ ไอศกรีม วานิลลา โรยหน้าด้วยพิสตาชิโอบดหยาบ
แป้งวาฟเฟิลสูตรคีโต ไม่มีแป้ง ไม่มีน้ำตาล!! จากชาว Pantip สูตรที่ 3
ส่วนผสม
1. ไข่ 1 ฟอง
2. อิริททิทอล 20 กรัม
3. น้ำมันมะพร้าว 15 มล
4. แป้งอัลมอน 20 กรัม
5. เฟลกซีดป่น 20 กรัม
6. วิปปิ้งครีม 15 มล
7. น้ำ 15 มล
8. กลิ่นวนิลลา
อุปกรณ์ที่ต้องมี
คือเครื่องทำวาฟเฟิล และเครื่องตีไข่เพื่อชีวิตที่ง่ายขึ้น หรือตะกร้อมือก็สามารถใช้ได้แต่ต้องฝึกกำลังแขนกันหน่อย
วิธีทำ
1. ตอกไข่ลงอ่างผสม ใส่กลิ่นวนิลลา ตีให้เข้ากันจนเป็นฟองหยาบ เติมสารให้ความหวาน อิริททิทอลและตีต่อจนเป็นเนื้อครีม เติมน้ำมันมะพร้าว และแป้งอัลมอล ตามด้วยแฟลกซีดป่น ตีให้เข้ากันจนเกิดความเหนียว สังเกตที่รอยตะกร้อ
2. เติมวิปปิ้งครีมและน้ำเปล่า ตีต่อไปให้พอเข้ากัน หากส่วนผสมเหนียวเกินไปสามารถเติมน้ำเพิ่มได้ ส่วนผสมที่ได้ต้องมีลักษณะหนืดๆแบบนี้
3. วอร์มเครื่องทำวาฟเฟิล ใช้ไฟค่อนข้างแรง หยอดลงครั้งละ 1-2 ช้อนโต๊ะ สูตรนี้เราหยอด 1.5 ช้อนโต๊ะ จะได้ทั้งหมด 4 โคน รอจนมีกลิ่นหอม เปิดเครื่องเช็คความสุก เอาให้มีสีสวย ใช้กรวยม้วนจากปลายด้านนึงมาถึงอีกด้านนึง แล้วกดไว้สักพัก
4. วางผึ่งลมสักครู่ขนมจะเซตตัว แล้วค่อยดึงกรวยออก ได้มาแล้ว โคนไอติมแบบไร้แป้ง ไร้น้ำตาล 1 โคนให้พลังงาน 89 แคลอรี่ อร่อยแบบไม่รู้สึกผิดแล้ววว
แป้งวาฟเฟิลสูตรเก็บได้นาน!!หอม นุ่ม จากชาว Pantip สูตรที่ 4
ส่วนผสม
1. แป้งเอนกประสงค์ 4 ถ้วย ยีสต์ 1 ซอง ( 2 1/4 ช้อนชา)
2. น้ำตาลทราย 1 ถ้วย เกลือ 1 ช้อนชา
3. นมสด 2 ถ้วย ไข่ไก่ 4 ฟอง
4. วนิลา 2 ช้อนชา เนยสดละลาย 1 ถ้วย
วิธีทำ
1. ผสมแป้ง ยีสต์ น้ำตาล และ เกลือ ให้เข้ากันในอ่างผสม
2. ผสมนม ไข่และ วนิลา ตีพอเข้ากัน
3. เทส่วนผสมในข้อ 2 ลงใน ส่วนผสมข้อ 1 คนให้เข้ากัน ตีด้วยความเร็วปานกลาง 3 นาที
4. คลุมอ่างด้วยแผ่นพลาสติก พักไว้อย่างน้อย 1 ชั่วโมง หรือ ใส่ตู้เย็นไว้ค้างคืน
5. นำเนยละลายผสมกับส่วนที่พักไว้ คนให้เข้ากัน ตักใส่พิมพ์วาฟเฟิลที่อุ่นไว้ล่วงหน้า ประมาณ 1 ทัพพี หรือปริมาณครึ่งหนึ่งของพิมพ์ (ขนมจะฟูขึ้นอีกจนเต็มพิมพ์เมื่อสุก)
หมายเหตุ 1. ควรใช้พิมพ์ชนิดลายลึก
2. ใช้น้ำมันพืชแทนเนยละลายได้
แป้งวาฟเฟิลสูตรกรอบนอกนุ่มใน!! จากชาว Pantip สูตรที่ 5
อุปกรณ์
1. เครื่องทำวาฟเฟิล
2. ตะกร้อมือ หรือเครื่องตีใข่
3. อ่างผสม หรือ ชามใบใหญ่
4. ไม้พาย
ส่วนผสมหลัก
1. แป้งเอนกประสงค์ 230 กรัม
2. น้ำตาลทราย 30 กรัม
3. ผงฟู 8 กรัม
4. เกลือป่น 1/2 ช้อนชา
5. นม 396 กรัม
6. น้ำมัน หรือ เนยละลาย 70 กรัม
7. ไข่ไก่ 2 ฟอง (แยกไข่แดงกับไข่ขาวไว้)
8. กลิ่นวนิลา
ท๊อปปิ้ง
1. ผลไม้ (กล้วยหอม ส้มแมนดาริน เลม่อน กีวี สตอเบอรี่ เชอรี่ เบอรี่ ฯลฯ)
2. ไอติมมม
3. น้ำตาลไอซิ่ง ผงชินนาม่อน
4. น้ำผึ้ง เมเปิ้ลไซรัป ช็อคโกแลต
5. จิปะถะ (บลา บลา บลา ใครชอบอะไร ใส่ลงไปเลย)
ลงมือทำกัน
1. ผสมของแห้งทั้งหมดลงใส่อ่างผสม (แป้ง+น้ำตาล+ผงฟู+เกลือ) คนให้เข้ากัน
2. นำไข่แดงผสมเข้ากับนม ตีให้เข้ากัน แล้วใส่น้ำมันหรือเนยละลายลงไป
3. นำส่วนผสมเหลว เทลงไปในส่วนผสมแห้ง คนให้เข้ากันช้าๆ อย่าให้เป็นตะกอน
4. เมื่อผสมเส็ดแล้วแป้งจะค่อนข้างเหลว ใส่กลิ่นวนิลาลงไป
5. เครื่องทำวาฟเฟิลเรา ไฟมันคงไม่เสถียร สีวาฟเฟิลไล่ระดับเชียว ทีนี่ เราก้เริ่มมาตกแต่งวาฟเฟิลของเรากัน
แนะนำ[19ร้านอาหาร]เมื่อผ่านนครปฐม!!! ต้องแวะชิม โดยชาว Pantip ขอบอกต่อ
บทสรุปส่งท้าย : สูตรแป้งวาฟเฟิลมีหลายสูตรให้เลือก!! ลองเลือกจากชาว Pantip แนะนำ
เป็นอย่างไรกันบ้าง อยู่ที่บ้านมีเวลาว่างก็ลองทำตามสูตรที่ชาว Pantip แนะนำได้หวังว่าสูตรแป้งวาฟเฟิลที่ได้เลือกมาจะเป็นประโยชน์ ช่วยให้การทำวาฟเฟิลของเรา มีตัวเลือกหลากหลายมากขึ้น นอกจากที่เราจะซื้อแป้งสำเร็จรูปแล้ว เราก็สามารถทำทานเองที่บ้านได้ด้วย หรือจะปรับเป็นสูตรเฉพาะตัวของเราเองก็ได้