ภาษาจีนที่ ต้าเหลียน ประเทศจีน ชาว Pantip เล่าทําไมไปไกลจัง
![ต้าเหลียน Pantip](https://meunlan.com/wp-content/uploads/2021/12/1-1-1024x576.jpg)
ภาษาจีนเป็นอีกภาษาหนึ่งที่มีการใช้กันมาก ที่สุดในโลก ในประเทศไทยมีนักท่องเที่ยวชาวจีนมาเที่ยวเยอะ ดังนั้นจึงเป็นประโยชน์มากสำหรับใครที่อยากเรียนภาษาจีน แต่สังเกตว่ามีเอเจนซี่พาเราไปเรียนถึงต้าเหลียน ประเทศจีนเลย ชาว Pantip อยากแนะนำว่าเป็นอย่างไรไปฟังกัน
14 สถานที่ท่องเที่ยวสุดชิค ที่ชาว Pantip แนะนำไม่ควรพลาดในภูเก็ต (Phuket)
เรียนภาษาจีนที่ต้าเหลียน เป็นอย่างไรบ้าง ชาว Pantip เล่าขาน
![ต้าเหลียน Pantip](https://meunlan.com/wp-content/uploads/2021/12/8-1024x576.jpg)
เปิดประสบการณ์จริงจากการไปเรียนภาษาจีนที่ต้าเหลียน ประเทศจีน โดยเอเจนซี “เวลาดีๆ เรียนที่ต้าเหลียน”
เขียนรีวิวขึ้นมาเพราะอยากให้คนอ่านคิดและตัดสินใจดีๆก่อนจะเลือกเอเจนซีพาไปศึกษาต่อ เราไปเรียนภาษาที่ต้าเหลียนมาหนึ่งเทอม (ขอสงวนชื่อมหาวิทยาลัยที่ไปเรียนนะ) แต่ในพาร์ทของมหาวิทยาลัยนั้น การเรียนการสอนดีมาก เนื้อหาและวิชาการเน้นดี อาจารย์ดี เพื่อนในห้องก็ดีมากๆ สำหรับขั้นตอนการหาข้อมูลของเราอาจจะไม่เหมือนเพื่อนๆคนอื่นขออธิบายเป็นข้อๆเพื่อง่ายต่อการทำความเข้าใจ
1. เรามีพื้นฐานภาษาจีนอยู่แล้ว (การไปเรียนต่อภาษามีหรือไม่มีพื้นฐานก็ได้)
2. เราเริ่มจากการหาสายการบินที่มีบินตรง (Direct Flight) ก่อน เนื่องจากเวลาเปลี่ยนเครื่องแล้วรอนานๆเรารู้สึกเหนื่อยและเสียเวลานิดนึง แต่ตอนหลังตัว Direct Flight ของสายการบินนกเหลืองปิดไปดัน แต่เราชอบและหลงรักเมืองนี้ไปซะแล้วจึงตัดสินใจตามเดิมไปต้าเหลียน (เราปรึกษาพี่ชายพี่ชายซึ่งเราเคยเคยได้ไปทุนเรียนป.เอกที่อู่ฮั่น)
3. Scope จากสายการบินมาสู่เมือง และเลือกจากสภาพอากาศ (เรื่องนี้หลังไมค์มาคุยกันได้นะ)
4. เราไปเรียนเทอมเดือนมีนาคม และชอบอากาศเย็น (ม.ที่โน่นเปิดเทอมทุกเดือนมีนาคม และกันยายน)
5. สุดท้ายเราตัดสินใจเลือกต้าเหลียนและศึกษาเกี่ยวกับเมืองอยู่ประมาณครึ่งปี และก็ชอบตามที่บอกข้างบนเลย (ระหว่างนี้ก็หาข้อมูลเกี่ยวกับเอเจนซีด้วย)
6. เราเลือกใช้เอเจนซีเนื่องจากทำงานประจำและค่อนข้างไม่มีเวลา คิดว่าเราเสียค่าดำเนินการให้ทางเอเจนซีได้เพื่อความสะดวกสบายมากกว่า และให้เค้าช่วยติดต่อประสานงานเบื้องต้นให้เรา พร้อมกับเมื่อไปถึงช่วงแรกที่ต้องปรับตัว เค้าน่าจะแนะนำการใช้ชีวิตให้เราได้ในระดับนึง
7. เราหาข้อมูลจนเจอเอเจนซีนึงในเฟซบุ้ค ซึ่งเค้าการันตีว่า “มีประสบการณ์ตรงจากการเรียนที่ประเทศจีน” โดยโปรไฟล์ที่เค้าขายเราคือ เค้าพาเด็กไปฮาร์บินทุกเทอม เทอมละหลายร้อยคน (อันนี้ทางเอเจนซี่พูดเอง) แล้วเหมือนอยากขยายตลาดมาต้าเหลียน ซึ่งวันที่คุยกันทางเอเจนซี่บอกเองว่า “ไม่ต้องห่วงน้อง พวกพี่พาไปโดยพี่ที่เคยเรียนที่ต้าเหลียนนะ” (ข้อนี้จะอธิบายเพิ่มในรายละเอียดถัดไป)
8. เอเจนซีนี้ชื่อ “เวลาดีๆ เรียนที่ต้าเหลียน”” (ขอสงวนชื่อภาษาอังกฤษ) และโปรโมทผ่านเฟสบุ้คเป็นหลัก พร้อมจุดขายไม่มีค่าธรรมเนียมใดๆ คอนเทนท์เค้าจะเน้นเรื่องราคาตัวใหญ่ๆที่มองดูแล้วไม่แพง แต่มีหมายเหตุเล็กๆเรื่องค่าตั๋วเครื่องบินและอื่นๆที่ไม่ได้รวม คือโปรโมทเฉพาะค่าเทอมกับค่าหอ
9. เราตัดสินใจสมัครและส่งเอกสารไปช่วงเดือนธันวาคม โดยส่งรายละเอียดให้เค้าพร้อมโอนเงินค่าสมัครเป็นเงิน 3,000 บาท มีการออกใบเสร็จว่าเป็นค่าธรรมเนียม 2,500 บาท และค่าส่งเอกสาร 500 บาท) พอเช็คเลยรู้ว่าม.ไม่ได้เรียกเก็บค่าสมัคร
10. จากนั้นจะมีรายละเอียดเรื่องการทำวีซ่า การจองตั๋วเครื่องบิน ฯลฯ (ซึ่งหัวข้อนี้จะอธิบายอีกครั้งในรายละเอียดถัดไป)
เรียนภาษาจีนที่ต้าเหลียน ประสบการณ์วันเดินทางเป็นอย่างไรบ้าง ชาว Pantip บอกว่า
![ต้าเหลียน Pantip](https://meunlan.com/wp-content/uploads/2022/01/1500535365ab.jpg)
1. เอเจนซีนัดเราที่สนามบิน 23.30 ซึ่งเหมือนเผื่อเวลาน้อยเกินไป แล้วต้องรอจนครบ 14 ชีวิต (ที่ไปด้วยกัน) เพื่อเช็คอินพร้อมกัน ตอนแรกก็พอเข้าใจว่าอาจจะมีการถัวน้ำหนักหรืออะไร แต่สรุปคือต่างคนต่างเช็คน้ำหนักกระเป๋าเกินก็เปิดตรงนั้น ไม่มีการถัวน้ำหนักใดๆ ตอนเราไปต่อแถวเช็คอินคือแถวยาวมากกกก เหมือนวันนั้นคนเดินทางเยอะ แต่แถวเช็คอินจริงๆแล้วเปิดตอน 22.50 น. แต่เวลาที่เอเจนซีนัดก็สายเกินไป แล้วคนเดินทางเยอะมาก ทัวร์จีน คนจีน คนเกาหลี และแขก คือวันนั้นทุกคนต้องวิ่งไปที่เกทและหวุดหวิดตกเครื่อง เพราะไปถึงเกทคืออีก 15 นาทีเครื่องออก (เราออกตัวเลยว่าเราแยกซื้อตั๋วเครื่องบิน เรื่องนี้จะอธิบายในพาร์ทถัดๆไปอีกที)
2. ก็เรียกว่าเริ่มต้นก็ตื่นเต้นละ พวกเราออกเดินทางจากกรุงเทพฯ ไฟลท์บิน 01.50 น. เปลี่ยนเครื่องกวางโจวตอน 6 โมงเช้า แและไปถึงต้าเหลียนวันเดียวกันประมาณบ่ายโมง ณ ตอนนั้นทั้งหมด 14 ชีวิตที่ไม่ได้รู้จักหรือสนิทสนมกันมาก่อน โดยที่ทุกคนเข้าใจว่าน้อง A (นามสมมติ) เป็นเจ้าหน้าที่ของเอเจนซี เพราะในรายละเอียดผู้ติดต่อตอนเรานัดกันที่สนามบิน มีชื่อและเบอร์ของน้องคนนี้ (ตอนหลังถึงรู้ว่าน้องเค้าก็มาเรียนภาษาเหมือนกัน)
3. สรุปคือพวกเราเดินทางโดยที่ไม่มีเจ้าหน้าที่หรือพี่ๆจากเอเจนซี่บินไปด้วยแม้แต่คนเดียว สุดท้ายแล้วเราไปถึงประมาณบ่ายโมงของวันที่ 28 และมีพี่จากเอเจนซี 1 คนมารับ (หลังจากนี้ขอเรียกว่าพี่ ต. ) พร้อมคนไทยอีก 4 คน (ซึ่งมารู้ทีหลังว่าไม่ใช่คนของเอเจนซีแต่เป็นคนไทยที่เรียนอยู่ที่ม.ที่เราไปเรียน)
4. พวกเราเก็บกระเป๋าเข้าหอ ด้วยสภาพที่เปิดเข้าห้องไปแล้วค้นพบว่า (บาง) ห้องไม่มีฟูก ไม่มีหมอน และไม่มีผ้าห่ม (ต้องบอกว่าก่อนเดินทางมีคนถามเอเจนซีในกรุ๊ปว่ามีอุปกรณ์เครื่องนอนอะไรให้บ้าง ซึ่งได้รับการแจ้งว่ามีฟูก มีหมอนให้)
รวม 18 สถานที่ท่องเที่ยวที่จะทำให้ต้องหลงรักเซนได (Sendai) เหมือนกับชาว Pantip!
5. ณ อากาศที่เราไปถึงคือประมาณ 10 องศาต้นๆ หลายคนอยากไปซื้อเครื่องนอนและของใช้เข้าหอ แต่เอเจนซีแจ้งว่าเราต้องไปสอบวัดระดับเพื่อจะได้แยกคลาสการเรียนภาษาของพวกเรา ซึ่งเราเริ่มกระบวนการตั้งแต่บ่ายสองจนสองทุ่ม
6. ตั้งแต่ไปกดเงิน (บางคนก็ไม่ได้พกเงินมา) เดินไปจ่ายเงิน(เอง)ในทุกขั้นตอน สอบวัดระดับ (ท่ามกลางสภาพร่างกายที่เหนื่อยล้าจากการเดินทางมาเป็นระยะเวลาประมาณ 12 ชั่วโมง) ทางเอเจนซีแจ้งว่าเราต้องสอบวัดระดับวันนี้เท่านั้น (เนื่องจากเป็นวันสุดท้ายที่ทางม.กำหนดไว้
7. เรื่องการสอบวัดระดับก็เป็นเรื่องที่มารู้ทีหลังว่า มหาวิทยาลัยมีตารางของภาคเรียนที่เราจะไปออกมาล่วงหน้าแล้ว และมีกำหนดรายละเอียดอย่างละเอียดกว่ อาทิตย์สอบวัดระดับ อาทิตย์ชำระเงิน ฯลฯ คือช่วงไหนบ้าง นอกจากนี้ตอนหลังเรารู้เพิ่มจากน้องคนไทยในห้องที่เรียนด้วยกัน แต่เค้ามาจากอีกเอเจนซีว่าน้องเค้าได้สอบทั้งข้อเขียน ทั้งสอบฟังและสอบพูด แต่เราได้สอบแค่ข้อเขียนเพราะเรามาถึงช้ามากๆ
8. น้องคนนี้ที่มากับอีกเอเจนซีมาถึงตั้งแต่วันที่ 20 ก.พ.) บอกตรงๆ เราเดินทางบ่อยเรายังล้า ทำข้อสอบไปหลับไป แถมสภาพสมองก็ไม่เอื้อในการทำข้อสอบเท่าไหร่ก็มีผลนะสำหรับเรา เพราะเราก็อยากสอบได้ระดับที่ดีหน่อย เพราะวางแผนมาเรียนแค่เทอมเดียว เมื่อทุกคนสอบวัดระดับเสร็จประมาณสองทุ่ม เราก็ไม่สามารถไปซื้ออุปกรณ์ของใช้อะไรได้ หลายคนนอนแบบในห้องไม่มีฟูก (แต่มีโครงเตียง) บางคนเอาผ้าเช็ดตัวมาปูนอน ไม่มีหมอน ยังดีที่ทุกคนพกเสื้อกันหนาวที่หนาพอจะทำให้ร่างกายอุ่นมาด้วย แต่บางคนเรามารู้ทีหลังว่านอนไม่หลับทั้งคืน ก็เรียกว่าเป็นคืนแรกที่เหนื่อยแต่นอนไม่หลับ พร้อมประสบการณ์แย่ๆจากเอเจนซีเลย
9. พอผ่านคืนแรกไป เรามีเวลาอยู่กับเอเจนซีอีก 2 วัน (ไม่ใช่อะไรนะ คือเอเจนซีจะรีบกลับไปฮาร์บิน รีบกลับไม่ใช่ประเด็น แต่ไปแล้วคือไม่บอกเลยนะว่าพี่ไปแล้ว ทั้งๆที่มีอีกหลายเรื่องมากที่เรายังจัดการกันไม่เข้าที่เข้าทาง) จะให้เข้าที่เข้าทางได้ยังไง เมื่อเราไปถึงช้ามากๆ และไปถึง 2 วันคือเปิดเทอมแล้ว
![](https://meunlan.com/wp-content/uploads/2020/03/p3k2z0w5eDbyA2F02dP-o-6.png)
ราไปเรียนจีนกับเอเจนเวลาดีๆในจีนเหมือนกันค่ะ ไปเรียนที่ต้าเหลียน พี่เจ้าหน้าที่ดูแลดีมากๆๆ เลยนะค่ะ จำได้ว่าเป็นเอเจนเดียวที่พาไปเที่ยวรอบเมืองก่อนเริ่มเรียน และเทอมที่เราไปมีน้องจากเอเจนอื่นที่โดนเทมา พี่ เวลาดีๆในจีนก็ยังพาเที่ยวด้วยโดยไม่อิดออด แต่ก็เข้าใจเจ้าของกระทู้ว่าตั้งความหวังไว้เยอะ บางเอเจนเทตั้งแต่ขึ้นเครื่องแล้วค่ะ สำหรับเราเจ้านี้ดีมากค่ะ ไม่มีที่ไหนพาไปเที่ยวไปซื้อของเข้าหอแบบที่นี้ค่ะ
ปล สมัครเรียนกับที่นี่ไม่มีค่าดำเนินการจริงๆค่ะ เรายืนยันเพราะเราแลกหยวนไปจ่ายที่จีนเองเลยเสียดายไอดีของเราโพสรูปไม่ได้ไม่งั้นจะโพสรูปให้ดู
![](https://meunlan.com/wp-content/uploads/2020/03/p3k2z0w5eDbyA2F02dP-o-6.png)
ขอปกป้องพี่ๆอีกเสียงค่ะ เราเป็นคนที่ไปเรียนจีนกับเอเจนนี้เหมือนกันค่ะ พี่ๆดูแลดีมากค่ะ ดิฉันคิดว่า จขกท คง ไม่ทราบว่าการทำซิมโทรศัพท์สำหรับคนจีนที่ใช้บัตร ปชช เปิดกับ ใช้พาสพอตมาเปิดโปรโมชั่นที่ได้จะไม่เหมือนกัน เราไปเรียนมาสองรอบค่ะ คือไปฮาร์บินมารอบนึงและไปต้าเหลียนรอบนึง ขอบอกว่าพี่เจ้าหน้าที่เทคแคร์ดีมาก เราไม่เห็นของบริษัทไหนพาไปเที่ยวเหมือนของที่นี่ค่ะ ดิฉันคิดว่าถ้า จขกท ไปเอง คง งง ตาแตกกว่านี้นะค่ะ ไปแบบไม่รู้อะไรเลยไม่มีใครให้ถามเลย
ชาว Pantip สรุป เรื่องที่อาจเกิดขึ้นกับนักเรียนต้าเหลียน ประเทศจีน
![ต้าเหลียน Pantip](https://meunlan.com/wp-content/uploads/2021/12/13-1024x576.jpg)
สรุปสุดท้าย : ไปเรียนต้าเหลียน ประเทศจีน ชาว Pantip แนะนำว่า
![ต้าเหลียน Pantip](https://meunlan.com/wp-content/uploads/2021/12/41-1024x576.jpg)
ก็ถือว่าเป็นประสบการณ์ให้คิดสำหรับใครอยากไปเรียนภาษาจีนต่อที่ ต้าเหลียน ประเทศจีน ชาว Pantip แนะนำว่า ก็ไปได้แต่สิ่งที่สำคัญที่เราต้องคำนึงถึงและเรื่องที่เราต้องเจอ ก็มีอะไรบ้าง อย่างน้อยก็เป็นการเตรียมตัวเราเองก่อนที่จะเจอเหตุการณ์เหล่านั้นว่าเราจะทำยังไง ซึ่งประสบการณ์แบบนี้คิดว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับคนที่มีเป้าหมายจะไปเรียนต่อที่นั่นอย่างแน่นอน
1.ชาว Pantip แนะนำว่าการไปเรียนที่ต้าเหลียน เรื่องของซิมโทรศัพท์ ซิมโทรศัพท์ ราคาในแต่ละเทอมจะไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับโปรโมชั่นในแต่ละช่วงนั้น ทำให้บอกไม่ได้ราคาที่แน่นอน ตรงส่วนนี้ไม่ได้บังคับ จะเอาหรือไม่เอาก็ได้
2.ชาว Pantip แนะนำว่าการไปเรียนที่ต้าเหลียน ข้าวของเครื่องใช้ที่จะซื้อเขาไปใช้ที่หอพัก ต้องจัดหาและไปซื้อเอง
3.ชาว Pantip แนะนำว่าการไปเรียนที่ต้าเหลียน จะมีรุ่นพี่หรือพี่เลี้ยงอยู่ที่มหาวิทยาลัยอยู่แล้ว เพียงแค่ไปทำความรู้จักกับเขา ก็สามารถขอการช่วยเหลือได้ด้วย
4.ชาว Pantip แนะนำว่าการไปเรียนที่ต้าเหลียน อย่าคาดหมายการดูแลจากทางบริษัทมาก พยายามคิดที่จะช่วยเหลือตัวเองเมื่อไปอยู่ที่ ประเทศจีนแล้ว
คลิก! อ่านกระทู้ต้นฉบับ