- 1. ชาว Pantip บอกวิธีแก้เชื้อราที่เล็บเบื้องต้น ใช้ยาดีไหม?
- 1.1. ชาว Pantip แนะนำวิธีแก้เชื้อราที่เล็บเบื้องต้น ที่ไม่ใช้ยา
- 1.2. ชาว Pantip แนะนำวิธีแก้เชื้อราที่เล็บเบื้องต้น ใช้ยา
- 1.3. ชาว Pantip แนะนำวิธีแก้เชื้อราที่เล็บเบื้องต้น ที่ไม่ต้องใช้ยา ป้องกันเบื้องต้น
- 1.4. ชาว Pantip รวมความเห็น วิธีแก้เชื้อราที่เล็บเบื้องต้น
- 1.5. ชาว Pantip ขอสรุปวิธีแก้เชื้อราที่เล็บเบื้องต้น
- 2. สรุปสุดท้าย : ชาว Pantip ขอบอกวิธีแก้เชื้อราที่เล็บเบื้องต้น ใช้ยารักษานานหน่อย
ชาว Pantip บอกวิธีแก้เชื้อราที่เล็บเบื้องต้น ใช้ยาดีไหม?
ใครที่เคยมีอาการ เล็บเท้าดำแล้วก็ค่อยๆเหลืองกลายเป็นสีขาวซีด แล้วกลายเป็นโพลงข้างในบ้าง เพราะนานๆไปเข้าเล็บหลุด และเมื่อเดินรู้สึกเจ็บทีนิ้วเท้า เมื่อโดนน้ำหรือโดนความเย็นก็รู้สึกปวด อาการแบบนี้เรียกว่า เชื้อราที่เล็บเท้า บางคนสงสัยว่ามีวิธีอะไรที่จะช่วยรักษา ทำให้เล็บกลับมาเป็นปกติ มีวิธีการรักษาแบบธรรมชาติ มีวิธีการรักษาแบบใช้ยา หรือวิธีอะไรที่จะช่วยให้หายได้เร็วๆไหม ชาว Pantip จึงอยากจะรวบรวมคนที่มีประสบการณ์ ที่เคยเป็นเชื้อราที่เล็บเท้ามาแล้ว มาเล่าให้ฟัง ว่าเขาแก้ปัญหาเบื้องต้นอย่างไร ตามมาอ่านกันเลย
ชาว Pantip แนะนำยาคุมยี่ห้อไหนดีปี 2022 ที่ผลข้างเคียงน้อยที่สุด
ชาว Pantip แนะนำวิธีแก้เชื้อราที่เล็บเบื้องต้น ที่ไม่ใช้ยา
1. ตอนเด็กๆแม่ครัวที่บ้านเป็น เห็นเค้าเอากระเทียมทำกับข้าวถูๆๆไปเรื่อย เป็นปีๆเลย หายแล้วก็ยังถู เค้าบอกว่าหาหมอรพ.หายแล้วกลับมาเป็นใหม่ คนแก่ๆที่รู้จักกันแนะนำมาว่าอย่างต่ำ 6 เดือน แล้วก็หายนะ
2. มีคนบอกว่าเอาน้ำอุ่นแช่เท้า แล้วเช็ดด้วยพวกน้ำยาทำความสะอาดในร่องเล็บก่อน เรียกอะไรน๊า พวกน้ำใส ๆ เย็นๆ นะ แล้วก็เอาครีมที่เค้าว่าทาเชื้อราในเล็บ ถ้าจำไม่ผิดพี่เคยได้ยินโฆษณาอยู่ตอนนี้ เป็นหลอดๆ เอาคัตต้อนบัด หยอดยาลงไปในเล็บ แต่สำหรับเล็บเท้าเค้าว่าให้ใจเย็นมันจะหายช้าหน่อย
3. ของเราไม่ได้ทายา ไม่ได้ทานยา แค่งดการทำเล็บตามร้าน และทาเล็บ หมั่นทำความสะอาดบ่อยๆ อาบน้ำเสร็จ เช็ดเท้า นิ้วเท้า และเล็บให้แห้งทุกครั้ง เราใช้ไฮโดรเจเพอร์ออกไซด์หยด ให้ไอ้พวกเยื่อฟูๆในซอกเล็กมันเป็นฟอง แล้วก็ใช้เครื่องมือทำเล็บ แคะออก ทำบ่อยๆ เล็บจะดูสะอาดขึ้น(นิดนึง)
4. มะกรูดช่วยได้ แม่เราเคยเป็นที่เล็บกินเล็บไปเกือบครึ่ง ลามเร็วมาก ไปหาหมอได้ยาคล้ายๆนํ้ามันมาหยดที่เล็บก็ไม่หาย ใช้มะกรูดรักษาจนหาย แม่เราก็เลยทําตาม ตอนนี้หายแล้ว ลืมบอก ใช้ผิวมะกรูดนะ(บีบแล้วจะเป็นนํ้าฉุนๆ)ทาบริเวณที่เป็น
ชาว Pantip แนะนำวิธีแก้เชื้อราที่เล็บเบื้องต้น ใช้ยา
1. หมอให้ยา Griseofulvin กับวิตามินบี แล้วก็ยามาทา 1 ตลับ ยาทาไม่ค่อยได้ใช้เพราะไม่รู้จะทาเข้าไปใต้เล็บยังไง แต่ยากินกับวิตามินบีก็กินจนหมดประมาณ 10 วัน หลังจากนั้นก็ไปซื้อยา Griseofulvin เพิ่มจากร้านขายยา กินต่อเนื่องประมาณ 1 เดือน สังเกตเห็นว่าเล็บที่เป็นเชื้อราหายแล้ว ก็เลยหยุดกินยา หลังจากนั้นไม่นานเชื้อรากลับมาอีกแล้วที่เดิมเลย ปรึกษาเภสัชเค้าบอกว่าถ้าเป็นเชื้อราที่เล็บเท้า ต้องกินยาต่อเนื่อง 6 เดือน
2. ใช้ Fresh Fingers เหมือนกันค่ะ แล้วก็สั่งเพิ่มไปแล้วค่ะจะเอามาทามือบ้าง เราว่าไม่มีตัวไหนรักษาเชื้อราดีเหมือน Fresh Fingers อีกแล้ว ตอนนี้ทั้งมือทั้งเท้าดูนุ่มเนียนมาก
3. ใช้ยาหยอด Loprox ทุกวัน 2-3 เวลา รักษาเชื่อราที่เล็บโดยตรง เป็นยานํ้าซึมเข้าซอกเล็บทําให้การรักษาได้ผล เชื้อราที่เล็บเท้าใช้เวลารักษานาน น่าจะอย่างน้อย3 เดือน ถ้าเป็นมากควรกินยาช่วย
ยา Sporal เป็ยารักษาเชื้อราที่ดีมาก เสียอีก เสียดายที่ จขกท.รักษาจนเกือบหายแล้ว แล้วหยุดรักษาโดยซื้อยาเอง (ซึ่งยาอาจจะเป็นยาที่เสื่อมคุณภาพ หรือยาปลอม) เมื่อไม่ได้ผลก็หยุดยาไปเลย อาการจึงยิ่งแย่ลง
เชื้อราใช้เวลารักษานานครับ ต้องทนๆหน่อย อย่ารีบหยุดยา
ชาว Pantip แนะนำวิธีแก้เชื้อราที่เล็บเบื้องต้น ที่ไม่ต้องใช้ยา ป้องกันเบื้องต้น
ถ้าเป็นไม่มากให้แก้ที่ต้นเหตุคือความอับชื้น ระวังถุงเท้ารองเท้าให้แห้งสนิทเวลาใส่ หลังอาบน้ำหรือเท้าโดนน้ำรีบเป่าให้แห้ง ตัดเล็บให้สั้น ส่วนมากเล็บจะแยกออกจากเนื้อให้ตัดส่วนทีแยกออก แล้วหยด Loplox หาซื้อได้ตามร้านขายยา ถ้าไม่ระวังเรื่องความชื้นหยด Loplox อย่างเดียวจะไม่หายขาดแถมใช้นานทำให้ดื้อยาด้วย ทำแบบนี้ไปซักพักเล็บที่ขึ้นใหม่จะ
ติดเนื้อเหมือนเดิม หลังจากนี้ก็ระวังเล็บเท้าและพวกถุงเท้าไม่ให้อับชื้นใส่รองเท้าเปิดนิ้วให้เล็บเจอแดดบ้างเพื่อไม่ให้เป็นซ้ำ แต่ถ้าเป็นมากๆหลายๆนิ้วแนะนำหาหมอ
ชาว Pantip รวมความเห็น วิธีแก้เชื้อราที่เล็บเบื้องต้น
เชื้อราที่เล็บ กินยาต่อเนื่องอย่างน้อย 6 เดือนครับ จึงจะหายขาด
แนะนําเพิ่มคะ ไม่ควรใช้ไฮโดรเจนซึ่งไม่เหมาะกับแผลเปิด ใช้นํ้าเกลือล้างแผลดีที่สุด หาซื้อตามร้านยาคะ
แนะนำนะคะ
1. ใช้สำลีชุบนํ้าส้มสายชู หรือ นํ้ายาบ้วนปาก (ลิสเตอรีนหรืออะไรก็ได้ค่ะ เป็นสูตรเย็นๆ จะดี) แปะเล็บไว้ แล้วใช้เทปปิดไว้นะคะ
2. ก่อนนอนทาเจล หรือครีมบำรุงเล็บ
เคยเป็นแบบไม่รู้ตัวค่ะ ช่วงหน้าฝนเดินลุยน้ำทุกวัน แล้วคันรอบๆนิ้วเท้า แต่ไม่ได้สนใจ มารู้อีกทีคือเล็บนิ้วโป้งฝั่งขวาเปิดออกทั้งแถบ เลยตัดทิ้ง จากนั้นมาเล็บเริ่มขาวแข็งขรุขระ หยอดยา ทายา ทั้งtea tree oilก็ยังเห็นผลช้า เลยเปลี่ยนวิธี หยอดยาLoprox ทาvicksหรือทาปิโตรเลียม เจลลี่ เคลือบไว้ เช้าเย็น เห็นผลไวดีค่ะ จะหายละ เราถ่ายรูปเก็บไว้ด้วย
แนะนำขั้นแรก คือ ล้างเท้าในน้ำอุ่นที่มี”น้ำส้มสายชู”ผสมแบบเข้มข้นทุกเช้า+เย็น(ก่อนนอน) แล้วทาครีมที่เกี่ยวกับเชื้อราหรือฮ่องกงฟุตโดยเฉพาะ,
คงพอทุเลาไปขั้นหนึ่งค่ะ+ที่สำคัญต้องหมั่นทำความสะอาดรองเท้า+พื้นรองเท้า ออกผึ่งแดด และสลับใส่กับคู่อื่นบ้างและใส่ถุงเท้าหลังทาครีมแล้ว ก่อนนอนด้วย มีพี่แนะนำให้ใช้สเปรย์ตัวนึงแต่ราคาก็แพงใช้ได้เลย
ชาว Pantip ขอสรุปวิธีแก้เชื้อราที่เล็บเบื้องต้น
มีวิธีเเก้เชื้อราที่เล็บเท้าได้ตั้งแต่การเริ่มต้นป้องกันตัวเอง ในเรื่องของความสะอาด ไปจนถึงการใช้สมุนไพรเพื่อช่วยในการแก้เชื้อรา สำหรับใครที่อยากให้ได้ผลดีและแน่นอนก็แนะนำว่า ให้ใช้ยาดีกว่า แต่อย่าลืมว่าการรักษาจำเป็นต้องใช้ระยะเวลานานเหมือนกัน และในการรักษาอย่าลืมว่า เชื้อรากลับมาเป็นได้อีก ชาว Pantip เลยอยากแนะนำเกี่ยวกับวิธีการรักษาเชื้อราที่เล็บเท้าไว้ว่า
1. รักษาความสะอาดทำให้นิ้วเท้าแห้งอยู่เสมอ ป้องกันความอับชื้น และความสกปรกที่จะมาอยู่ในซอก เล็บนิ้วเท้า
2. เมื่อเกิดอาการเชื้อรา ในระยะเริ่มต้น ให้ลองทำการ รักษาโดยการใช้ยา ก็ได้ แต่จำเป็นต้องรักษาอย่างต่อเนื่อง
3. ในการรักษา เชื้อราที่เล็บเท้า ไม่ว่าจะไปหาหมอหรือซื้อยามาทาน หรือจะเป็นการหยอดยา เมื่ออาการดังกล่าวหายแล้วก็ต้องทำจนกว่ายาจะหมด หรือต้องใช้เวลาในการรักษาต่อเพื่อให้เชื่อราหายจริงๆ
ชาว Pantip วิเคราะห์ไข้ออกผื่นผู้ใหญ่ปี 2021 อาจเป็นโรคอะไรได้บ้าง?
สรุปสุดท้าย : ชาว Pantip ขอบอกวิธีแก้เชื้อราที่เล็บเบื้องต้น ใช้ยารักษานานหน่อย
ถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญและส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตสำหรับ เชื้อราที่เล็บเท้า จากบทความนี้ทำให้เราเห็นว่ามีวิธีการรักษาให้หายได้ และถ้าเรายังไม่ได้ดูแลตัวเองก็มีโอกาสจะกลับมาเป็นได้อีก ไม่ว่าจะเป็นการรักษาแบบธรรมชาติ การรักษาแบบใช้ยา ตัวอย่างของชาว Pantip ก็แสดงให้เห็นแล้วว่า ทุกคนมีโอกาสที่จะเป็นเชื้อราที่เล็บเท้าได้ และก็สามารถที่จะรักษาให้หายได้ด้วย ดังนั้นไม่ต้องกังวลมากเกินไปเกี่ยวกับโรคนี้ เป็นโรคที่ไม่ร้ายแรงมากและรักษาได้ด้วยการใช้ยา