[8] สิ่งที่ควรระมัดระวังก่อนตัดสินใจต่อเติมข้างบ้าน จากประสบการณ์ชาว Pantip!

กฎหมายอาคาร เพื่อนบ้านต่อเติมมาชิดรั้ว กฎหมายบ้าน 1 | สร้างบ้านชิดรั้วบ้านได้แต่ผนังบ้านรั้วต้องปิดทึบ กรณีแรกที่เหมือนจะเป็นปัญหากับเพื่อนบ้านอยู่เสมอคือการที่มีบ้านอีกหลังใดหลังนึงต่อเติมหรือสร้างบ้านจนมาชิดรั้วบ้านเรา ซึ่งเมื่อใดก็ตามที่จะสร้างบ้านแบบนี้ เจ้าของบ้านต้องได้รับการยินยอมจากเพื่อนบ้านเป็นลายลักษณ์อักษร โดยที่ผนังบ้านจะต้องไม่มีหน้าต่าง ช่องลม ช่องแสงใดๆ เป็นเด็ดขาด แน่นอนว่ากรณีนี้ย่อมเกิดปัญหาวุ่นวายทีหลังเพราะเป็นธรรมดาว่าเพื่อนบ้านย่อมไม่ปรารถนาเช่นนั้น ซึ่งหากไม่อยากให้เรื่องยืดยาว ให้เว้นระยะห่างตัวบ้านจากรั้วบ้านหรือแนวดิน ไม่น้อยกว่า 50 เซนติเมตรแต่ยังคงต้องเป็นผนังทึบเช่นเดิม และอย่าลืมติดตั้งรางน้ำฝนให้เรียบร้อยเพื่อป้องกันน้ำไหลลงฝั่งเพื่อนบ้านที่จะเป็นเหตุให้วิวาทกันภายหลังหลังด้วย

คลิก! อ่านกระทู้ต้นฉบับ

ถ้าคุณไม่ได้เคยเซ็นต์ยินยอม    ผิด   ต้องเว้นห่าง 50 ซม. แต่ถ้าเซ้นต์ให้ยอมชิดเขตไม่ผิดครับ

คลิก! อ่านกระทู้ต้นฉบับ

ข้อควรระวัง อันนี้ต้องออกแบบให้ดี และกำหนดตำแหน่งซิงค์ ตำแหน่งเตาที่จะวางให้ชัดเจน ตกลงกับผู้รับเหมาให้ดีว่าจะใช้สีทา หรือให้เขาฉาบปูนทำลายลอฟ รวมถึงแนะนำให้ปูประเบื้องภายในชั้นของเคาร์เตอร์ด้วยครับ Top ด้านบนผมเลือกใช้กระเบื้องแกรนิตโต้สีดำ แทน TOP หิน ก็สวยงามและราคาย่ำเยากว่า (อันนี้สั่งทำแต่แรกในสัญญาจ้างครับ) ไม่งั้นเห็นชิ้นเล็กๆแบบนี้ งบก็บานได้ครับ สีลอฟสำเร็จรูปราคาไม่ถูกนะครับ ตกพันกว่าบาท

คลิก! อ่านกระทู้ต้นฉบับ

ข้อแนะนำเพิ่มเติม

1. หลังคาครับ….ต้องดูดีๆ บางท่านต่อเติมเสร็จไวตามสัญญาทำให้อาจไม่เห็นปัญหาหลังคา เพราะยังไม่เจอฝน ของผมโชคดีบนความโชคร้ายที่เขาก่อสร้างนาน (มากกกกกก) ทำให้ผ่านหน้าฝน และรู้ว่า หลังคาบางแบบก็ไม่เหมาะกับการต่อเติม (slop ไม่ถึง) ซึ่งบางที บ. เขาก็ไม่รู้ บ้านผม บ.ซ่อมหลังคาไป 4 ครั้ง ครั้งที่ 4 นี่ทาสีกันซึมทั้งหลังคา ทากลบหลังคาเหมือนทาสีบ้านเลย ผ่านไป 1 เดือนรั่ว เลย เราก็จิตตกเลย แต่อย่างที่บอก เราจ้างบริษัท ดังนั้นเรามีสัญญา และบริษัทก็มีความรับผิดชอบ ผมแจ้งเขาไปและบอกว่าหากหลังค่า SCG รุ่นนี้ไม่ไหวก็เปลี่ยนชนิดหลังคาได้นะ ผมให้ใช้เมทัลชีทแซนวิช ซึ่งครั้งที่ 5 บริษัท เขามาเปลี่ยนหลังคาให้ใหม่เลยครับ โอเครยังถือว่าดี และก็มีประกันโครงสร้าง 5 ปี ส่วนอื่นๆ 1 ปี ซึ่งพอก่อสร้างนาน (มาเสียเวลาตรงฐานราก เพราะวิศกร บ.เขาไม่ยอมให้ผ่านต้องตรงเป๊ะๆ อันนี้ดี สุดท้ายคนนี้ก็ต้องออกไป น่าสงสารคนตรงๆ) และก็มาเสียเวลาเรื่องหลังคา ทำให้ล่าช้า อ่อ และพอไม่มีวิศวกรมาคุมงาน ทำให้ผู้รับเหมาทำหลังคาแม่บ้านผมผิด เดิมทีในแบบเป็นหลังคา แต่พอทำจริงเขาเทปูนทำเหมือนดาดฟ้า ซึ่งแพงกว่า และผมก็บอกบริษัทว่าอันนี้ผมยอมรับได้ไม่ต้องทุบ แต่ให้ปูพื้นด้วยกระเบื้องและทำให้ slop เพื่อน้ำไม่ขัง กลายเป็นว่าผมได้พื้นที่ระเบียงไว้วาง Compressor แอร์ แบบเหลือๆ 1.5*4 ตร.ม. กันเลยทีเดียว 555
2. งานฐานรากตั้งแต่ตอกเข็ม ผ่าหัวเข็ม ทำฟุตติ้ง หล่อคาน เทพื้น อันนี้แนะนำให้คุมอย่างใกล้ชิด ดูฉาก ดูแนว ดูเบอร์เหล็กตามแบบ ผมไล่เช็กอันไหนไม่ตรงเปลี่ยนทันทีก่อนเทปูน นับจำนวนข้อเหล็ก(ไม่รู้เรียกว่าอะไร) ที่เอามาสานเป็นคานเป็นเสา ต้องไม่น้อยกว่ามาตรฐาน
3. ควรมีแบบติดไว้ที่หน้างานตลอด รวมถึงสัญญาจ้างเพราะพอเกิดข้อถกเถียงให้เอาแบบมากางดู เอาสัญญามาชี้ให้เขาดูเขาก็จะได้ทำตามครับ
4. เมื่อได้แบบแล้วควรเอาแบบมาลองจินตนาการดู นึกถึงฟังก์ชั่นที่เราจะใช้งานในอนาคตให้ดี แล้วลองเทียบกับแบบดูก่อนจะตกลงแบบ เพราะการจะเปลี่ยนจะย้าย หรือเพิ่มงานใดๆ เป็นค่าใช้จ่ายที่แพงมากกว่าตอนทำสัญญา (แนะนำหากเป็นงานเพิ่มที่ไม่กระทบโครงสร้าง และงานหลักให้ลองดูช่างที่เขามีฝีมือแล้วติดต่อจ้างเพิ่มทีหลัง เช่น ช่างกระเบื้อง หลังคา เพราะจะไม่ผ่านบริษัทราคาจะถูฏลงมาก ย้ำว่าเลือกคุยกับช่างที่เก่งนะไม่เก่งไม่ดี ทำแล้วรู้สึกเฉยๆไม่ต้องไปคุย 555)
5. การจ่ายเงินหากงานยังไม่เสร็จตามงวดงาน เห็นในวันตรวจว่ายังไม่เรียบร้อย แม้วิศกรจะบอกว่าพี่รับไปก่อนเดี๋ยวแจ้งให้ช่างแก้ไขให้ อันนี้อย่านะครับ หากจะลงนามก็เขียนไปเลยว่า คงเหลืองานอะไร และจะแก้ไขเมื่อไหร่ เพราะสัยยาส่วนใหญ่จะระบุว่าจ่ายเงินภายใน 7วันนับจากเราตรวจรับงาน หากเราเขียนไว้เราก็มีข้ออ้างที่ยังไม่จ่ายเงินจนกว่าจะแก้ให้ได้

คลิก! อ่านกระทู้ต้นฉบับ