รวม 14 จุด และช่วงเวลาเที่ยวชมใบไม้เปลี่ยนสีสุดสวยในประเทศญี่ปุ่น โดยชาว Pantip!

ในโตเกียวขอแนะนำสวนโคอิชิคาวะ โคราคุเอ็นเลยค่ะ สวนโคอิชิคาวะ โคราคุเอ็น (Koishikawa Korakuen) สวนที่สร้างโดยเอาสถานที่สวยงามมีชื่อเสียงจากทั่วประเทศมาเป็นแรงบันดาลใจเช่น ทะเลสาบบิวะ และเขาอาราชิยามะ ภายในสวนมีต้นเมเปิลกว่า 480 ต้น มีงานเทศกาลใบไม้เปลี่ยนสีในเดือนพฤศจิกายน สามารถไปชมใบไม้เปลี่ยนสีพร้อมชมศิลปะการแสดงแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่นได้

ที่อยู่ : 1-6-6 Koraku, Bunkyo, Tokyo https://goo.gl/maps/PkVTWuMvSeKXregF9 การเดินทาง : เดินจากสถานี Iidabashi 3 นาที หรือเดินจากสถานี Korakuen 8 นาที

(คาดการณ์ : กลาง – ปลายตุลาคม) ฮอกไกโดอยู่เหนือสุดของญี่ปุ่น จึงเปลี่ยนสีก่อนใครเพื่อน ใครอยากไปชมใบไม้เปลี่ยนสีที่นี่ เราขอแนะนำ “มหาวิทยาลัยฮอกไกโด (ซัปโปโร)” ที่เดินทางแสนง่าย ในพื้นที่ขนาดกว้างใหญ่ของมหาวิทยาลัยฮอกไกโด (Hokkaido University) อันร่มรื่น มีทั้งสวนเกษตรและฟาร์มเลี้ยงสัตว์ ในฤดูใบไม้ร่วง ต้นแปะก๊วยกว่า 70 ต้นเลียบถนนยาว 380 เมตร จะเปลี่ยนถนนทั้งเส้นให้เป็นสีเหลืองทองสวยงาม และช่วงปลายเดือนตุลาคมจะมีงานประจำมหาวิทยาลัย เทศกาล Hokudai Konyosai มีการไลท์อัพประดับไฟในตอนกลางคืนด้วย

ที่อยู่ : Kita 8, Nishi 5, Kita, Sapporo, Hokkaido https://goo.gl/maps/2SoaKfT9RVM2 การเดินทาง : เดินจากสถานีซัปโปโร (Sapporo) ของ JR ประมาณ 7 นาที

(คาดการณ์ : กลางพฤศจิกายน) โทโฮคุคือภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่น อยู่ลงมาจากฮอกไกโด ใบไม้จึงเปลี่ยนสีเร็วเป็นอันดับสองค่ะ ขอแนะนำออนเซ็นที่ชมใบไม้แดงได้สวยมากกกกก อย่าง นิวโตออนเซ็นเคียว (อาคิตะ) เมืองออนเซ็นนิวโต (Nyuto Onsenkyo) ตั้งอยู่บริเวณเชิงเขานิวโตะหว่างจังหวัดอาคิตะและจังหวัดอิวาเตะ มีที่พักพร้อมออนเซ็น 7 แห่งอยู่ท่ามกลางป่าต้นบีช ทุกห้องพักจะมีบ่ออาบน้ำกลางแจ้งส่วนตัว แช่น้ำร้อนๆ ให้สบายตัว แล้วชมใบไม้แดงให้สบายใจไปเลยค่ะ

ที่อยู่ : Nyuto Onsenkyo, Lake Tazawa, Semboku, Akita https://goo.gl/maps/roRpEfTSLcF2 การเดินทาง : จากสถานี Tazawako นั่งรถบัสไปลงที่ป้าย Nyuto Onsen (45 นาที 820 เยน)

วัดเมเก็ตสึอิน (Meigetsu-in Temple) วัดนิกายเซ็นที่สร้างขึ้นในปี 1394 จุดชมใบไม้เปลี่ยนสีของวัดเมเก็ตสึอินคือ ภาพของใบไม้เปลี่ยนสีจากหน้าต่างรูปวงกลมในฮนโด อุโบสถหลัก ดูสวยงามราวกับเป็นรูปภาพศิลปะเลยค่ะ ยังมีวัดและศาลเจ้าอื่นๆ ที่สามารถไปเที่ยวพร้อมกันในวันเดียวได้ ยิ่งฤดูใบไม้ร่วงที่อากาศเย็นกำลังดีก็ไปเดินเล่นกันได้แบบสบายๆ ค่ะ

ที่อยู่ : 189 Yamanouchi, Kamakura, Kanagawa https://goo.gl/maps/9ZmfV5dPfxz การเดินทาง : เดินจากสถานี Kita-Kamakura ประมาณ 10 นาที

(คาดการณ์ : ต้นธันวาคม) ภูมิภาคคันไซเองก็เป็นเป้าหมายยอดนิยม เพราะมีทั้งจังหวัดโอซาก้า เกียวโต และอื่นๆ โซนนี้ก็มีจุดชมใบไม้แดงสวยๆ มากมายเลยล่ะค่ะ ในโอซาก้าที่ไปง่ายและโดดเด่นเห็นจะเป็นปราสาทโอซาก้านั่นเอง! จุดชมวิวบนหอคอยเทนชุคาคุของปราสาทโอซาก้าสามารถมองเห็นเมืองโอซาก้าได้ทั้งเมือง มีร้านน้ำชา ศาลเจ้า และสวนปราสาทโอซาก้าอยู่รอบๆ ให้ชมใบต้นแปะก๊วยสีเหลืองสวยในฤดูใบไม้ร่วง ภายในสวนยังมีร้านค้าและคาเฟ่ มาทานอาหารท้องถิ่นของโอซาก้าแล้วเดินเล่นชมใบไม้เปลี่ยนสีที่มีฉากหลังเป็นปราสาทสวยๆ ได้ค่ะ

ที่อยู่ : Osakajo, Chuo, Osaka https://goo.gl/maps/ppag48Cxd3hTfuL38 การเดินทาง : ลงรถจากสถานี Osakajo-koen สถานี Morinomiya หรือสถานี Tanimachi Yonchome จะถึงทันที

ใบไม้เปลี่ยนสีที่เขาอาราชิยามะ (Arashiyama) ก็สวยงามและดังไม่แพ้ป่าไผ่และสะพานโทเก็ตสึเคียวเลย จะไปชมวิวใบไม้เปลี่ยนสีโดยการนั่งรถไฟสายโรแมนติก Sagano Romantic หรือจะไปชมทิวทัศน์ที่สะท้อนบนสระน้ำของสวนโซเก็นจิในวัดมรดกโลกเท็นริวจิ มีนักท่องเที่ยวทั้งจากในและต่างประเทศหลั่งไหลมาชมใบไม้เปลี่ยนสีที่เกียวโตกันคับคั่งเสมอ จึงขอแนะนำให้ไปตั้งแต่เช้าๆ ช่วงที่วัดเริ่มเปิด

ที่อยู่ : Saga Tenryuji Shado, Ukyo, Kyoto https://goo.gl/maps/sYeqW4wz2DJ2

การเดินทาง : จากสถานี Kyoto ของ JR นั่งรถไฟสาย Sagano ไปสถานี Saga-Arashiyama (15 นาที 240 เยน)

(คาดการณ์ : ปลายพฤศจิกายน) ภูมิภาคนี้อยู่ระหว่างคันโตและคันไซ จังหวัดที่เรารู้จักกันเยอะๆ ก็เช่น ไอจิ (นาโงย่า) ชิซุโอกะที่มีภูเขาไฟฟูจิ นีงาตะ และอื่นๆ ใครได้แวะมาโซนนี้อยากจะขอแนะนำให้ไปคฤหาสน์เก่าตระกูลไซโต้ (นีงาตะ) กันเลย คฤหาสน์เก่าตระกูลไซโต้ (The Niigata Saitou Villa) เป็นเรือนพักร้อนของพ่อค้าตระกูลไซโต้ สร้างขึ้นในยุคไทโช โดยมีพื้นฐานจากแนวคิดความกลมกลืนเป็นหนึ่งของของบ้านกับสวน สามารถชมสวนสวยๆ ได้จากภายในห้อง โดยเฉพาะทิวทัศน์ใบไม้เปลี่ยนสีที่มองจากห้องโถงใหญ่นี่เอาคะแนนร้อยเต็มไปเลยค่ะ วงกบหน้าต่างและระเบียงของชั้น 2 จะถูกสร้างเป็นรูปทรงพิเศษ ยิ่งทำให้เพิ่มความงามขึ้นไปอีก

ที่อยู่ : 576 Nishiohata-cho, Chuo, Niigata, Niigata https://goo.gl/maps/oUDmSdz5UxAGLBAm6

การเดินทาง : จากสถานี Niigata Station ทางออก Bandai ขึ้นรถบัสสาย Niigata City Loop Bus มุ่งหน้าฝั่ง Toki Messe หรือขึ้นรถมุ่งหน้าฝั่ง Hakusan Park ลงรถที่ “Hoppo Bunga Hakubutsukan Niigata Bunkan mae ” แล้วเดินเท้าไป 2 นาที

(คาดการณ์ : กลางพฤศจิกายน) เกือบจะใต้สุดของญี่ปุ่นแล้ว! สถานที่เที่ยวดังๆ ของย่านนี้ก็ได้แก่จังหวัดฮิโรชิม่า ทตโตริ และที่เที่ยวยอดนิยมของฮิโรชิม่าเองก็เป็นจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีชั้นดีด้วยล่ะ ขอแนะนำให้ไปสวนโมมิจิดานิ (เกาะมิยาจิมะ ฮิโรชิม่า) กันเลย Picture courtesy of Hiroshima prefecture เสาประตูโทริอิสีแดงของศาลเจ้าอิตสึคุชิมะ (Itsukushima Shrine) ที่ดูเหมือนลอยอยู่กลางน้ำเมื่อน้ำทะเลขึ้น เป็นสัญลักษณ์ของเกาะมิยาจิมะ เมื่อเดินจากศาลเจ้าไปเพียง 6 นาทีก็จะถึงสวนโมมิจิดานิ (Momijidani Park) โดยเฉพาะบริเวณสะพานไม้สีแดงชาดที่แทรกตัวอยู่ท่ามกลางใบไม้เปลี่ยนสีดูสวยงามราวกับภาพวาดเลยค่ะ

ที่อยู่ : Momijidani, Miyamotocho, Hatsukaichi, Hiroshima https://goo.gl/maps/2TLgn3V8rgP2

การเดินทาง : จากท่าเรือ Miyajimaguchi ไปลงที่ท่าเรือ Miyajima Ferry Terminal (10 นาที 180 เยน) แล้วเดินต่อประมาณ 20 นาที

(คาดการณ์ : ปลายพฤศจิกายน) คิวชูเป็นเกาะใต้สุดของญี่ปุ่นถ้าไม่นับโอกินาว่าที่เป็นเกาะเล็กน้อย ที่นี่มีเที่ยวบินจากไทยไปลงฟุกุโอกะ เมืองหลักของเกาะเลยล่ะ ที่เที่ยวที่พลาดไม่ได้และเป็นจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีด้วยก็คือศาลเจ้าคามาโดะ (ฟุกุโอกะ) Picture courtesy of Kamado Shrine ศาลเจ้าคามาโดะ (Kamado Shrine) ตั้งอยู่บริเวณเชิงเขาโฮมันซัน (Mt. Homanzan) ภูเขาศักดิ์สิทธิ์ที่สถิตของเทพเจ้า โด่งดังเรื่องการผูกสัมพันธ์ มีต้นเมเปิลและต้นแปะก๊วยกว่า 300 ต้นที่จะมาแต่งแต้มสีสันในช่วงใบไม้เปลี่ยนสี ถนนที่ทอดยาวไปสู่ศาลเจ้าจะกลายเป็นอุโมงค์ใบไม้เปลี่ยนสีให้ได้เดินชมความงามของใบไม้ที่ไล่สีสันไปมาสุดสายตา มีการไลท์อัพตอนกลางคืนด้วย

ที่อยู่ : 883 Uchiyama, Dazaifu, Fukuoka https://goo.gl/maps/gBCoV7zhbFZRxNVG7

การเดินทาง : นั่งรถไฟ Nishitetsu ไปลงที่สถานี Dazaifu จากนั้นนั่งรถบัส Community Bus สาย Mahoroba ไปลงที่ป้าย Uchiyama (10 นาที 100 เยน) ลงที่ป้าย Uchiyama