- 1. ชาว Pantip บอกมนุษย์เงินเดือน เป็นสิ่งที่หลุดพ้นไม่ได้
- 1.1. ชาว Pantip บอกทำไมถึงถูกเรียกว่า มนุษย์เงินเดือน
- 1.2. ชาว Pantip ข้อคิดเพื่อหลุดพ้นจากมนุษย์เงินเดือน ข้อ 1 รู้จักว่าอิสรภาพทางการเงินคืออะไร?
- 1.3. ชาว Pantip ข้อคิดเพื่อหลุดพ้นจากมนุษย์เงินเดือน ข้อ 2 รู้ว่าสิ่งที่เราทำแล้วไม่เบื่อ แถมยังได้เงินคืออะไร?
- 1.4. ชาว Pantip ข้อคิดเพื่อหลุดพ้นจากมนุษย์เงินเดือน ข้อ 3 รู้จักกันเงินส่วนนึงเพื่อตัวเองก่อนนำไปใช้
- 1.5. ชาว Pantip ข้อคิดเพื่อหลุดพ้นจากมนุษย์เงินเดือน ข้อ 4 รู้จักวางแผนภาษี
- 1.6. ชาว Pantip ทำไมต้องหลุดพ้นจากมนุษย์เงินเดือน
- 1.7. ชาว Pantip สรุป 4 ข้อคิดเพื่อหลุดพ้นจากมนุษย์เงินเดือนไว้ว่า
- 2. สรุปสุดท้าย : ชาว Pantip แนะหลุดพ้นจากมนุษย์เงินเดือนลองทำตามดู
ชาว Pantip บอกมนุษย์เงินเดือน เป็นสิ่งที่หลุดพ้นไม่ได้
ก็จริงที่ว่าเราจำเป็นต้องมีเงินเพื่อที่จะเลี้ยงครอบครัวหรือเลี้ยงตัวเองได้ จนบางคนเรียนนักเรียนสูงเพื่อที่จะ ทำงานดีๆ มีรายได้สูงๆทำงานเพื่อเก็บเงินหลายปี ได้รับเงินเดือนเป็นลูกจ้าง จนบางคนรู้สึกว่าชีวิตวนเวียนอยู่กับที่ไม่ไปไหน ทำไมต้องทำงานหนักขนาดนี้ ทำไมต้องใช้ชีวิตวนไปวนมาแบบนี้ จริงแล้วก็มีทั้งข้อดีและข้อด้อยสำหรับการเป็นมนุษย์เงินเดือน ชาว Pantip จึงอยากจะมาแนะนำวิธีการที่ช่วยให้หลุดพ้นจากการเป็นมนุษย์เงินเดือนเท่าคุณทำได้หรือต้องการ ตามมาอ่านเลย
ชาว Pantip อยากบอก [10 วิธี] ตอบคําถามสัมภาษณ์งาน ที่มักเจอบ่อย
ชาว Pantip บอกทำไมถึงถูกเรียกว่า มนุษย์เงินเดือน
1. คือคนที่ทำงาน ทั่วๆไป
2. คือคนที่ฝากชีวิตไว้กับเงินเดือน ทุกสิ่งทุกอย่างขึ้นอยู่กับเงินเดือน
3. คือ คนที่เป็นลูกน้องเค้า ทำงานแลกเงิน เดือนต่อเดือน งานหนักเงินน้อย ใช้สอยอย่าง ประหยัด
4. คือคนที่ทำงานบริษัท ข้าราชการ หรือไปเป็นลูกจ้างรายเดือนของเอกชน ที่เดือนๆ หนึ่ง รับเงินเดือน หรือค่าตอบแทนในการทำงานครั้งนึง เงินเดือนครั้งต่อไป ก็ได้รับในเดือนต่อๆ ไป ชีวิตการเงินขึ้นอยู่กับเงินเดือนของเขา อยู่ที่การใช้จ่าย และอดออม
5. มนุษยืเงินเดือนมีวันหยุดเสาร์อาทิตย์ เจ็บป่วยแค่มีใบลาก้ได้เงินชดเชย ส่วนมนุษย์รายวันต้องทำงานทุกวันไม่มีวันหยุด ถ้าวันไหนเราหยุดก็ไม่ได้เงิน
6. ทุกคนแหละ ที่ทำงานแล้วจะได้รับเงิน เดือนละ 1 ครั้ง ทุกๆเดือน พอครบ 1 ปี จะมีการขึ้นเงินเดือนให้ ดังนั้นรายได้ของ มนุษย์คนนั้น ก็คือเงินเดือน
7. มนุษย์เงินเดือนคือ คนที่ทำงานแล้วมีรายได้ต่อเดือน หรืออยู่ด้วยเงินเดือนในแต่ละเดือน
รายได้คงที่ เท่าเดิม ทุกเดือนๆ
8. มนุษย์เงินเดือน คือ คนที่รายได้หลักของบ้านมาจากเงินเดือน มาจากภาษาญี่ปุ่น คำว่า サラリーマン Sararii man ซึ่งเป็นการนำคำจากภาษาอังกฤษ 2 คำ ได้แก่ Salary(เงินเดือน) + man (คน) = มนุษย์เงินเดือน โดย Salaryman(มนุษย์เงินเดือน) นี้เป็นคำที่ญี่ปุ่นคิดขึ้นเอง
แต่เดิมไม่มีในภาษาอังกฤษ ส่วนไทยเราก็รับมาอีกทีแล้วมาแปลเป็นภาษาไทยตรงตามความหมาย
9. มนุษย์เงินเดือนมักจะมีรายจ่ายในแต่ละเดือนมากกว่าหรือเท่ากับรายรับ ส่งผลให้เงินออมน้อย
วิถีชีวิตของมนุษย์เงินเดือนจึงถูกผูกติดกับชีวิตในสำนักงาน โดยมักจะทำงานล่วงเวลาเพื่อรับเงินค่าล่วงเวลา (ทำ OT) และต้องเชื่อฟังทำตามคำสั่งของเจ้านายหรือผู้มีตำแหน่งสูงกว่าอยู่เสมอ
มนุษย์เงินเดือนจะทำงานเพื่อรับเงินเดือนมาต่อลมหายใจของตนเองไปในแต่ละเดือนเท่านั้น
หากเดือนไหนไม่มีเงินเดือนแล้ว เดือนนั้นก็คงจะลำบาก เศรษฐกิจทางบ้านอาจถึงขั้นติดลบเลยทีเดียว
ชาว Pantip ข้อคิดเพื่อหลุดพ้นจากมนุษย์เงินเดือน ข้อ 1 รู้จักว่าอิสรภาพทางการเงินคืออะไร?
รู้จักว่าอิสรภาพทางการเงินคืออะไร? หลุดจากมนุษย์เงินเดือนแล้วไปไหน? อย่างกับคำถามยอดฮิต “ตายแล้วไปไหน?” เลยนะ เสียแค่ว่าเรายังไม่ตายซะหน่อย ที่ว่าหลุดนี่คือการที่เราได้รับฟรีด้อม หรืออิสระภาพทางการเงิน ไม่จำเป็นต้องทำงานเพื่อเงินอีกต่อไป อยู่เฉยๆ นั่งเล่นนอนเล่นก็มีเงินเข้าบัญชีมา โอว ฟินนาเล่ นี่มันฝันไปหรือจริง แต่อยากจะบอกว่าที่เล่าไปนั่น มันเป็นจริงได้ เพียงการที่จะทำเช่นนั้นได้ เราไม่สามารถที่จะนั่งๆ นอนๆ แล้วรอให้เงินบินเข้ามาก็เท่านั้น และถึงจะทำสำเร็จแล้ว ก็ใช่ว่าเราจะอยู่ในสถานะนั้นได้เสมอไป เรายังคงต้อง “ทำงาน” เพื่อให้เงินสามารถเหาะมาหาเราได้เสมอ เพียงแต่จะต่างกับการที่เราอยู่บนวงจรมนุษย์เงินเดือน
หรือที่ Robert Kiyosaki ให้คำนิยามว่า “สนามแข่งหนู” (Rat Race) ที่วกวนไร้ที่สิ้นสุด เพราะเราจะต้องออกมาทำงานนอกสนามแห่งนี้อยู่ดีนั่นเอง
ดังนั้นต้องเปลี่ยนแนวคิดของ ฟรีด้อม เสียใหม่ก่อน เข้าใจให้ถูกทาง แล้วคุณก็จะเดินไปถูกทางนั่นเอง
ชาว Pantip ข้อคิดเพื่อหลุดพ้นจากมนุษย์เงินเดือน ข้อ 2 รู้ว่าสิ่งที่เราทำแล้วไม่เบื่อ แถมยังได้เงินคืออะไร?
รู้ว่าสิ่งที่เราทำแล้วไม่เบื่อ แถมยังได้เงินคืออะไร? ใช่ การที่เราจะไปถึงจุดที่มีอิสรภาพได้นั้น
เราต้องใช้แรงกายและแรงความคิดของเรา ทำในสิ่งที่สร้างประโยชน์ให้คนอื่น จนเราได้ค่าตอบแทนกลับมาคืออะไร? และที่สำคัญก็คือ “เราชอบมันหรือเปล่า?” ถ้าเราชอบ ก็มั่นใจได้ว่าสิ่งที่เราทำนั้นจะสามารถไปได้ดีแน่นอน ก็เราชอบหนิ? เราคงไม่ทำสิ่งที่เราชอบออกมาให้ห่วยๆ จนเจ็บใจเล่นใช่ไหมล่ะ และในเมื่อมันเป็นสิ่งที่เจ๋ง ไม่ห่วย ที่เหลือก็เราก็แค่นำเสนอสิ่งที่เราทำแล้วเจ๋ง ให้คนอื่นได้รู้
และจ่ายเงินซื้อความเจ๋งนั้นของเรานั่นเอง ถ้าเป็นมนุษย์เงินเดือนก็คือการ “ขายตัว” ฟังดูแย่ไปเหรอเปล่า งั้นเปลี่ยนเป็น “ขายความสามารถ” ก็แล้วกัน คุณอาจจะถามย้อนมาว่า อ้าว งั้นเราก็ยังไม่หลุดไปจากมนุษย์เงินเดือน เป็นลูกจ้างรับใช้คนอื่นเขาอยู่ดีน่ะสิ ใช่! โลกนี้จะให้ผลตอบแทนเราได้มากน้อยแค่ไหน อยู่ที่ว่าเราสามารถ “รับใช้” คนอื่นได้มากแค่ไหน
เป็นมนุษย์เงินเดือนก็รับใช้นายจ้าง เป็นเจ้าของร้าน หรือเจ้าของกิจการก็รับใช้ลูกค้า หรือคนที่ให้ทุนเรามาทำ
ดังนั้นใครที่สามารถทำประโยชน์ให้กับคนอื่นได้มาก แก้ปัญหาให้ผู้อื่นได้ลื่นไหล คนผู้นั้นแหละคที่จะสามารถสร้างรายได้ ที่จำเป็นต่อการมีอิสรภาพทางการเงิน ได้รวดเร็วยิ่งขึ้น ซึ่งนั่นก็จะนำไปสู่ข้อ 3 มีเงินเยอะแล้วทำอย่างไร?
ชาว Pantip แนะนำ [5 อาชีพเสริมหลังเลิกงาน] ที่จะช่วยเติมเต็มกระเป๋าสตางค์ให้เต็ม!!!
ชาว Pantip ข้อคิดเพื่อหลุดพ้นจากมนุษย์เงินเดือน ข้อ 3 รู้จักกันเงินส่วนนึงเพื่อตัวเองก่อนนำไปใช้
ฟังดูง่ายไหมล่ะ? เราเรียนรู้วิธีการเก็บออมเงินหยอดกระปุกหมูกันมา ตั้งแต่สมัยเรียนอนุบาลกันแล้ว แต่ก็ทำกันยากเหลือเกิน อย่างสมัยผมได้เงินกินหนมวันละ 40.- เก็บไปซื้อการ์ตูนเล่มละ 30-35.- ก็หมดแล้ว แหม พูดแล้วก็นึกถึงอดีตที่บางครั้งผมก็ยอมอดข้าวเพื่อการ์ตูนกันเลยทีเดียว
เอาเป็นว่ามนุษย์เงินเดือนอย่างเราๆ หามาได้เท่าไหร่ ตามหลักของการเก็บออมทั่วไป ควรหักเงินที่หามาได้ก่อนที่จะนำไปใช้จ่ายในเรื่องอื่น 20% เก็บไว้ทันทีเลยแบบห้ามยุ่งเด็ดขาดเป็นประจำทุกเดือน หรือจะใช้วิธีแบบผม ที่หักเงินที่ได้มาประมาณ 40% ให้ตัวเองเก็บออมไว้ก่อน
จากนั้นอีก 60% ที่นำไปใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ผมมีเหลือก็จะเอาสมทบเข้าไปในส่วนเงินออมอีก
ที่ทำอย่างนี้ได้ก็เพราะผมรู้และประเมินได้ว่า แต่ละวันผมใช้เงินขั้นต่ำเท่าไหร่ MIN-MAX เท่าไหร่ จากนั้นก็ จดบันทึกค่าใช้จ่าย เพื่อควบคุมตามที่วางแผนไว้ เท่านี้ก็พอจะมีเงินออม เพื่อนำไปต่อยอดสู่ฟรีด้อม ที่เราแสวงหาแล้ว!!
ชาว Pantip ข้อคิดเพื่อหลุดพ้นจากมนุษย์เงินเดือน ข้อ 4 รู้จักวางแผนภาษี
รู้จักวางแผนภาษี รวมทั้งวิธีเลี่ยงไม่ต้องจ่ายภาษี มนุษย์เงินเดือน คืออาชีพที่เสียเปรียบที่สุดในโลก เพราะ Rat Race แห่งนี้มันโหด ต้องเก็บเงินค่าวิ่งวนๆ ในสนามมนุษย์เงินเดือนปีละครั้ง แถมแพงอีกต่างหาก ลำพังเอาเงินไปกินฟูจิหรือซื้อแมนซั่มในเซเว่นกินก็โดนหักภาษี ณ ที่จ่ายไปแล้ว ยังต้องจ่ายภาษีอากรรายปีอีกต่างหาก โหดร้ายจริงๆ
แต่โลกนี้มันก็ยังไม่โหดร้ายเสียทีเดียว ทางรอด ทางเลี่ยงมันยังมีอยู่ เพราะการเก็บภาษีนั้น ถือเป็นหน้าที่ของประชาชนทุกคนที่จะต้องควักเนื้อให้รัฐไปเข้าคลัง และเบิกจากคลังไปพัฒนาประเทศ อ่านมาถึงตรงนี้หลายคนคงจะร้อง อ้าว! แล้วที่บอกให้เลี่ยงภาษีนี่มันก็ผิดอ่ะดิ!?
คำตอบคือผิดครับ เพราะการเลี่ยงภาษีที่ผมพูดถึง ก็คือวิธีการเล่นแร่แปรเงินของภาครัฐนั่นแหละ
เพียงแต่เราจะไม่ได้ควักเนื้อจ่ายภาษีให้ประเทศโดยตรง แต่เราจะควักให้แบบอ้อมๆ ผ่านรูปแบบของ กองทุน LTF, RMF ยอดฮิตที่เราเคยได้ยินกัน ซึ่งรายละเอียดตรงนี้มีเพิ่มเติมอีกมากมาย ทั้งเงื่อนไข และข้อควรระวัง
มนุษย์เงินเดือนเราคือ เมื่อไหร่จะ หยุดยาวๆๆๆ เหมือน เทศกาล ปีใหม่ สงกรานต์
จะได้ไปเที่ยวๆๆๆๆไกลๆๆ กลับบ้านๆๆๆๆพักผ่อนๆๆๆนานๆๆๆ ซะที อ๋อ อีกอย่าง
เงินซ๊อตๆๆๆทุกเดือนๆๆๆ
มองนาฬิกา ณ ตอนนี้เป็นเวลา 19.36 แล้ว แต่ก็ยังต้องนั่งจับเจ่าอยู่ที่ออฟฟิศ
เฮ้อ เซ็ง อาทิตย์หน้าก็มีสอบที่มหาลัยอีก รู้สึกเหมือนกำลังโดนขโมย “เวลา” ในชีวิตไปเลย
ชาว Pantip ทำไมต้องหลุดพ้นจากมนุษย์เงินเดือน
เนื่องจากเงินเดือนที่มีอยู่ไม่พอกินพอใช้ คิดว่าเงินเดือน 9000 คนโสดจะอยู่ได้มั้ย
1.ค่าห้อง 2500 (รวมน้ำไฟ ห้องน้ำรวม)
2.ค่าทำฟัน เดือนละ 1000
3.เก็บเงินไว้เป็นค่าเทอมเรียนมหาลัยประมาณเดือนละ 2000
4.ค่าอินเตอร์เน็ต เดือนละ 500
5.แล้วก็มีเก็บเดือนละ 500 ไว้ตอนฉุกเฉินค่ะ
6.ค่าของใช้ส่วนตัวเดือนละ 700
(ที่เหลือจะเป็นค่าอาหาร)
เราเข้าใจว่าบางคนเดือนละ 9000 อยู่ได้สบาย แต่เรารู้สึกว่าเราเครียดทุกครั้งเลยเวลาที่จะจัดสรรค่าใช้จ่าย เราพยายามหางานเสริมแล้วแต่ด้วยเศรษฐกิจแบบนี้งานก็หายาก
แต่เราว่าค่าอินเตอร์เน็ตค่อนข้างเเพงไปนะคะ ของเราใช้เดือนละ375บาทเองค่ะรวมภาษีแล้ว ไม่ลดสปีทด้วยค่ะ ถ้าลดตรงนี้ไปได้เดือนละ100-200 ในปีนึงก็ได้เป็นเงินเก็บเพิ่มเเทนนะคะ
ถ้าต้องทำงานหาเลี้ยงตัวเอง แล้วหวังจะไปเรียนในมหาวิทยาลัยตามปกติด้วยนี่ ไม่น่าจะรอดนะครับ เพราะถ้ารายได้ลดลงมาเมื่อไหร่นี่ เงินไม่พอใช้แน่ ที่ จขกท. ได้อยู่นี่ ก็ใช้แบบเดือนชนเดือนอยู่แล้วนะ ไพรออริตี้หลักของ จขกท. ณ ตอนนี้ คือเอาตัวเองให้รอดพอมีกินมีใช้ ไม่ใช่การไปเรียน ป.ตรี ถ้าคิดจะเรียน ป.ตรี ไปด้วยในระหว่างที่ทำงาน ควรจะเรียน มสธ. หรือไม่ก็ ม.รามคำแหง ในคณะที่ไม่จำเป็นต้องไปมหาวิทยาลัยเลย อาศัยการอ่านหนังสือเองหลังเลิกงาน แล้วไปสอบอย่างเดียวเท่านั้น ถึงจะมีโอกาสเรียนจบ
– หาซิมเดือนละร้อยนิดๆใช้
– หางาน part-time ที่มีค่าทิปและอาหารให้กินฟรี
– กู้เรียน
– หาทุนเรียน
ชาว Pantip สรุป 4 ข้อคิดเพื่อหลุดพ้นจากมนุษย์เงินเดือนไว้ว่า
จริงๆบางคนก็ชื่นชอบกันเป็นมนุษย์เงินเดือนอยู่แล้วก็มีเงินใช้อย่างแน่นอนตอนสิ้นเดือน และไม่ต้องมาคอยกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนของการหาเงิน แต่ถึงอย่างนั้นก็มีบางคนที่ไม่ค่อยชอบกับงานที่ทำเพราะความจำเจ และต้องทำงานหนักจนเกินไปจนร่างกายจะรับไม่ไหว ชาว Pantip จึงอยากจะมาแนะนำตัวช่วยที่ช่วยให้หลุดพ้นจากการเป็นมนุษย์เงินเดือนไว้ว่า
1. รู้จักอิสระทางการเงิน เผื่อจะทำให้เรารู้ว่า เงินที่เราได้มาไม่ใช่แค่การทำงานเป็นหลักอย่างเดียว ยังมีช่องทางอื่นๆอีกที่ทำเงินได้
2. รู้จักสิ่งที่เราทำแล้วจะไม่เบื่อที่เราชื่นชอบเอามาทำเป็นงานอาชีพ เป็นกิจการของตัวเองเพราะสิ่งที่เราชอบจะทำให้เราทำได้ไปเรื่อยๆ และได้เงินด้วย
3. รู้จักกันเงินเป็นส่วนๆ เพื่อที่จะทำให้เราสามารถบริหารจัดการเงิน โดยที่เราจะมีกองทุนสำรองเสมอ
4. หรือจากจัดการกับภาษี ธุรกิจที่เราทำจะมีเรื่องของภาษีมาเกี่ยวข้อง แทนที่จะหลีกเลี่ยงให้เราทำถูกต้องตามกฎหมาย ก็จะทำให้เราประหยัดเงินได้
สรุปสุดท้าย : ชาว Pantip แนะหลุดพ้นจากมนุษย์เงินเดือนลองทำตามดู
การที่เราจะหลุดพ้นจากการเป็นมนุษย์เงินเดือนได้ ต้องเริ่มจากความคิดของเราก่อน ถ้าเราคิดได้ หลังจากนั้นก็เริ่มลงมือทำตามและทำตามตัวอย่างที่บทความนี้ได้พูดถึง เมื่อชาว Pantip ได้รวบรวมและแนะนำให้คุณฟังแล้ว จะช่วยทำให้คุณคิดหาหนทาง ในแบบของตัวเองเพื่อเลี้ยงชีพได้ ไม่จำเป็นว่าต้องมีการผูกติดกับการเป็นมนุษย์เงินเดือนไปตลอดชีวิต เนื่องจากชีวิตที่คุณ เรียนมาก็เป็นของคุณเอง เวลาไม่เคยย้อนกลับและเวลาจะผ่านไปเรื่อยๆเสมอ อยู่ที่ว่าคุณจะใช้ช่วงเวลาที่คุณมีกำลังใจหรือแข็งแรง ไปกับเรื่องอะไรงานที่เป็นงานของคนอื่น หรือว่าลงทุนไปกับงานที่เป็นธุรกิจของคุณเอง