แชร์ [16] วิธีรักษาอาการผิวหนังอักเสบจากชาว Pantip ฉบับมือใหม่ก็ทำได้ไม่เห็นยาก!

เป็นเหมือนกันเลย เคยหาย  แต่ สักพักใหญ่ๆเป็นอีก แต่คนละที่ ใช้ยา สองชนิด    ยาคลีบฆ่าเชื้อรา กับ ยาแป้งรักษาผิวหนัง กระป๋องเล็กฝาสีน้ำเงิน กระป่องละ 150 บาท แต่เล็กเท่ากระป่องอัน 10 กว่าบาท แล้ว งดอาหารที่เป็นพิษ  พวกปุ กุ้งทะเล  ของดอง  ผักดอง  ถั่ว หายนะ แต่ไม่ดุแลตัวเองก้อเป็นอีก

คลิก! อ่านกระทู้ต้นฉบับ

เราเป็นภูมิแพ้ผิวหนังตั้งแต่เด็ก และเคยเป็นที่ข้อเท้าค่ะ อาการที่เราเคยเป็นคือแห้งลอกและเกาเป็นแผล สาเหตุสำหรับเรา คือแพ้สารทำความสะอาดในแชมพูหรือสบู่ เวลาล้างสารทำความสะอาดลงมาโดนที่ข้อเท้ามันจะมีอาการของโรคค่ะ การหลีกเลี่ยงการล้างโดนข้อเท้าทำได้ยาก ต้องเปลี่ยนแชมพูหรือสบู่เป็นแบบที่อ่อนโยนมากๆที่ไม่ระคายเคืองผิว จึงจะหายขาดค่ะ แต่ถ้ามีอาการแล้วต้องใช้ยาทาของโรคภูมิแพ้ผิวหนังทา เพราะมันเป็นการแพ้น่ะค่ะ

คลิก! อ่านกระทู้ต้นฉบับ

เป็นเหมือนกันค่ะ แต่ประมาณ 15% ของเจ้าของโพสต์ เป็นมาตั้งแต่มหาลัยแล้ว ประมาณ 20 ปีแระ เป็นๆ หายๆ ยิ่งอากาศเย็น ผิวแห้ง ผื่นขึ้นเต็มเลยค่ะ ที่ ขา กับแขน ไม่เคยหาหมอ คิดว่าเป็นกรรมพันธ์ุ ไม่ค่อยดูแลตัวเองด้วย เคยใช้ยาตามพ่อ คือ diprosalic เป็นขี้ผึ้ง แต่อ่านเจอว่าเป็นยาแรง เลยหันมาใช้ elomet แทนค่ะ พอมีลูก ลูกก็เป็นเหมือนกัน แต่ของลูกจะแพ้แป้งสาลี ก็เอะใจ หรือว่าเราจะแพ้แป้งสาลีเหมือนลูกชาย

คลิก! อ่านกระทู้ต้นฉบับ

เราก็เป็นค่ะ เป็นที่เท้าสองข้างเลย ตอนแรกเป็นแค่นิดเดียว ไปๆมา เป็นทั้งเท้าเลย อยากถามว่าใช้ครีมอะไรให้ความชุ่มชื้นค่ะ เราเคยใช้ vasline กับ ครีมทาส้นเท้าแตก แต่กำลังจะหมดแล้ว เลยอยากลองอันใหม่ ที่ราคาไม่แพงมาก ส่วนเวลาคันใช้ Zyno 0.1% cream คือมันทรมานมากเลย เดินเยอะไม่ได้ เพราะมันแห้งมาก แผลปริเลย เจ็บแสบมาก เหมือนมีเวรกรรมอ่ะ TT

คลิก! อ่านกระทู้ต้นฉบับ

วาสลีนครับ แม่เคยเปนหาหมอเทาไรก้ไม่หายทาวาสลีนเวลาคันหายเลย

คลิก! อ่านกระทู้ต้นฉบับ

หลังจากทำการรักษากินยาครบและติดตามอาการหมอมีข้อแนะนำกับเราคือ

1.อาหารการกินมีส่วนกระตุ้นให้เกิดอาการมาเป็นลำดับที่ 1 ซึ่งเราลองงดเว้นและหลีกเลี่ยง ของหมักดอง แอลกอฮอล์ ชากาแฟ อาหารทะเล ผลคือดีขึ้น

2.การนอนและความเครียด ก็เป็นตัวกระตุ้นชั้นยอดช่วงระยะนั้นเรานอนไม่หลับส่งผลให้โรคแสดงอาการออกมาแบบรุนแรง หลังจากปรับการนอนทั้งกินยาช่วยและฝึกให้เป็นนิสัย ผลคือดีขึ้นแบบเห็นได้ชัดเจน

3.เปลี่ยนมาใช้แชมพู สบู่เหลวแบบอ่อนโยน โลชั่นทาน้ำมันมะพร้าวหลังอาบน้ำแทน พยายามเว้นพวกโลชั่นที่มีกลิ่นหอมหรือน้ำหอม เลี่ยงได้เลี่ยงการใช้ให้น้อยที่สุด ผลคือดีขึ้น

**หมอบอกว่าแพ้ออกมาจากข้างในเหมือนประมาณว่าเลือดเป็นพิษเลยแสดงผลออกมาทางร่างกายแทน **

คลิก! อ่านกระทู้ต้นฉบับ

#การรักษาและการป้องกัน

1. #พยายามสังเกตสาเหตุที่ทำให้ผื่นแย่ลง และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่ทำให้ผื่นแย่ลง เช่น ไม่ถู/ขูด/ขัด/เกาผิวหนัง ไม่การล้างมือหรืออาบน้ำบ่อยเกินไป, ไม่อาบน้ำอุ่นหรือน้ำร้อน, ให้ใช้ สบู่เหลวอาบน้ำแทนสบู่ก้อน
2. #ถ้ามีน้ำเหลืองเยิ้มและแฉะให้ประคบผื่น โดยใช้ผ้าก๊อซชุบน้ำเกลือแปะทิ้งไว้ 10 นาที และเอาออก ทำวันละ 2-4 ครั้ง ขึ้นกับปริมาณน้ำเหลืองหรือความแฉะของผื่น และทำก่อนเริ่มทายา เพราะถ้ามีน้ำเหลืองเคลือบบนผื่นหรือแผล ยาทาจะไม่สามารถซึมเข้าถึงผื่นได้ค่ะ (ทายาไม่ติด)
3. การใช้ยาคอร์ติโคสเตียรอยด์ (สเตียรอยด์) จะช่วยลดอาการอักเสบของผื่น ซึ่งเป็นวิธีหลักที่ได้ผลการรักษาดี แต่ตรงนี้หมอขอแนะนำว่าให้คุณหมอที่รักษาจ่ายยาให้จะดีและชัวร์ที่สุด เพราะสเตียรอยด์มีหลายรูปแบบ (เช่น ทา กิน ฉีดเข้าที่ผื่น) และความแรงก็ต่างกัน ตั้งแต่แบบอ่อนที่สุดเหมาะสำหรับทาผื่นที่เปลือกตา จนแรงสุดที่ใช้ทาฝ่ามือฝ่าเท้า สำหรับยาทาให้ทาเฉพาะที่ผื่นเท่านั้นนะคะ ไม่ควรทาตรงผิวที่ปกติอยู่แล้วเพราะจะทำให้เปลืองและผิวปกติยังได้รับยาโดยไม่จำเป็น ซึ่งจะมีผลเสียมากกว่า
4. รับประทานยาแก้แพ้ (ยาต้านฮีสตามีน) เพื่อลดอาการคัน เช่น zyrtec (cetirizine), telfast (fexofenadine), xyzal (levocetirizine), aerius (desloratadine), loratadine เป็นต้น เลือกเพียงตัวใดตัวหนึ่งนะคะ ยี่ห้อไหนก็ได้ **ระวังอย่ากินยาในกลุ่มเดียวกันซ้ำกัน** ยิ้มกตัวอย่างยา เพื่อให้เข้าใจง่าย ไม่ได้ค่าโฆษณาแต่อย่างใดนะคะ 5. ถ้ามีการติดเชื้อแทรกซ้อน (มักมาจากการแกะเกา หรือเป่าน้ำมนต์หรือพอกยา) แพทย์จะพิจารณาให้ยาปฏิชีวนะแบบกินหรือแบบทายา
5. #ทาครีมบำรุงผิวสม่ำเสมอเพื่อไม่ให้ผิวแห้ง และที่สำคัญการทาครีมบำรุงจะ #ช่วยป้องกันไม่ให้เป็นผื่นผิวหนังอักเสบซ้ำอีกด้วยค่ะ แต่ข้อนี้คนทั่วไปอาจจะไม่ค่อยรู้ว่าต้องทาครีม สม่ำเสมอด้วย บางคนจะทายาเพียงอย่างเดียว พอหาย แล้วไม่บำรุงผิวต่อ ก็เป็นผื่นซ้ำอีก

คลิก! อ่านกระทู้ต้นฉบับ

อาบน้ำร้อนน้ำอุ่นเป็นประจำ

ล้างมือบ่อยๆ

ใช้สบู่ที่มีความเป็นด่างสูง (alkaline soap) ใช้แล้วจะรู้สึกผิวแห้งตึง

ไม่ชอบหรือไม่เคยทาครีมบำรุงผิวเลย

#ผลเสียของพฤติกรรมพวกนี้ คือ

– ทำให้ผิวไม่แข็งแรง

– น้ำมันที่เคลือบปกป้องผิวชั้นนอกสุดจะถูกทำลาย

– ผิวสูญเสียน้ำง่ายน้ำ เกิดความแห้ง ระคายเคือง

– ทำให้สารก่อภูมิแพ้ต่างๆเข้าสู่ผิวได้ง่าย

คลิก! อ่านกระทู้ต้นฉบับ