[6] เรื่องควรรู้ก่อนจดทะเบียนพาณิชย์ แนะนำโดยชาว Pantip!

ถ้าเป็นทะเบียนพาณิชย์ หน้าร้านจริงควรตรงกับที่อยู่ที่ใช้จดค่ะ ถ้าเป็นทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ยังไงก็ได้ให้สรรพากรตามตัวเจอก็พอ ถ้าไม่สะดวกจะไม่จดทะเบียนเลยก็ได้

คลิก! อ่านกระทู้ต้นฉบับ

ทะเบียนการค้า ยกเลิกมา 21 ปี แล้ว ทะเบียนพาณิชย์ ธุรกิจให้บริการยกเว้นไม่ต้องจด

คลิก! อ่านกระทู้ต้นฉบับ

เท่าที่ผมทำงานรับทำบัญชี ให้คำปรึกษาด้านบัญชีมานะครับ คุณสามารถจดทะเบียนการค้าหรือทะเบียนพาณิชย์ได้ โดยจดทะเบียน เป็นร้านค้า  หจก. บจก. ถ้าคุณจะจดร้านค้า ค่าจดทะเบียนไม่แพงและเอกสารไม่ยุ่งยาก เปรียบเสมือนเป็นบุคคลธรรมดา ถ้าคุณจะจดเป็น หจก. บจก.  เอกสารเยอะ หลายขั้นตอน และการจดทะเบียนนั้น จะจดภาษีมูลค่าเพิ่มหรือไม่จดก็ได้ (แต่ถ้ารายได้ถึง 1 ล้าน 8 แสนบาท ต้องจดโดยอัตโนมัติ) การจะจด ร้านค้า หรือ หจก บจก. กลางปี  หรือ สิ้นปี  ต้องมีการปิดงบการเงินทุกๆปี

ผมขอเสนอว่า –ถ้าไม่ได้มีเหตุจำเป็นในการใช้ชื่อเพื่อทำธุรกิจ เช่น ลูกค้าต้องการภาษีมูลค่าเพิ่มเลยต้องจดทะเบียน ถ้าอย่างนั้นคุณเปิดเป็นร้านค้าตามทั่วไปก็ได้ครับ  เป็นการขายของที่มีหน้าร้านทั่วไปหรือเหมือนพวกขายของตามตลาดนั้นอ่ะครับ  ไม่เป็นไรครับ

คลิก! อ่านกระทู้ต้นฉบับ

กรณี ที่มีสินค้าจำหน่ายด้วย ก็จดทะเบียนพาณิชย์ปกติ ครับ ใช้แค่ สำเนาบัตร ปชช. + สำเนาทะเบียน + สำเนาทะเบียนบ้านหลังที่ใช้เป็นที่ประกอบการ  ค่าธรรมเนียม 50 บาท  ติดต่อ สนง.เขต ในเขตพื้นที่ครับ

คลิก! อ่านกระทู้ต้นฉบับ

1. จดทะเบียนก่อนเปิด หรือเปิดก่อนจดก็ได้ ไม่มีปัญหาครับ หมายถึงทะเบียนพาณิชย์นะครับ
2. ชื่อร้านคิดอยากได้ชื่ออะไรก็คิดเอาตามใจชอบ ไม่มีข้อห้ามครับ ตัวอย่าง ผมขายของเบ็ดเตล็ด ผมตั้งชื่อร้าน “สมใจนึก” ก็ได้ หรือ “แล้วแต่จะคิด”
3. จดหรือไม่จดทะเบียนพาณิชย์ ไม่เกี่ยวกับเรื่องภาษีสรรพากร ภาษีสรรพากรเก็บจากรายได้ ถ้าไม่มีรายได้ ถึงจะจดทะเบียนก็ไม่มีเงินได้ที่ต้องเสีย ในขณะเดียวกัน มีเงินได้จากกิจการ ถึงไม่ได้จดทะเบียนก็ต้องเสียภาษี อยู่ที่ว่ามีรายได้มากน้อย คิดหรือคำนวณแล้วก็เสียไปตามกฎหมาย ครับ ที่ผมตอบให้เป็นเรื่องจริงนะครับ ไม่ได้พูดเอามันๆ ยืนยันว่าเป็นไปตามกฎหมาย และถือปฏิบัติได้จริง

คลิก! อ่านกระทู้ต้นฉบับ

จดทะเบียนไว้ได้ครับ รายได้ไม่เกิดภาษีไม่เสียครับ  จดได้แน่นอน แต่ตอนที่จดนั้น ต้องระบุว่าจะทำอะไร ขายอะไร และที่สำคัญ ทำหรือขายอะไรที่ไหน และตอนจดนั้น จะบังคับให้ขึ้นชื่อร้านหรือสถานประกอบการ ณ สถานที่ๆคุณได้ระบุว่าประกอบกิจการ โดยขนาดของป้ายนั้นมีกำหนดขนาดขั้นต่ำเอาไว้ ซึ้งการขึ้นป้ายนี่แหละที่ต้องเสียภาษี ไม่ว่าคุณจะค้าขาย หรือประกอบกิจการหรือไม่ก็ตาม ก็ต้องเสียครับ และเมื่อคุณดำเนินการขอจดทะเบียน ทางหน่วยงานจะขอเข้าตรวจสอบสถานที่ประกอบกิจการของคุณด้วยนะครับ ไม่ใช่ว่าคุณขอจด และยื่นเอกสารเท่านั้นนะครับ ผมแนะนำว่าถ้าจดทิ้งไว้เฉยๆแล้วไม่ได้ทำอะไรไม่ต้องจดครับ ที่บอกจดไว้ดีนั้นคือ ดีในลักษณะของการขอสินเชื่อธนาคาร แต่อย่าลืมนะครับ ธนาคารนั้นดูทะเบียนการค้า และดูสตทเม้นด้วยครับ บัญชีเงินไม่เดิน หรือเดินแต่ไม่ถึงเกณฑ์ ก็อดครับ

คลิก! อ่านกระทู้ต้นฉบับ

เดี๋ยวนี้ตามตัวเร็วจัง เขาเรียกชื่อใครเข้าไปพบ คนนั้นก็ต้องไปค่ะ จริงๆ แค่เข้าไปคุยนิดหน่อยไม่มีอะไรมาก ร้านตัดผมก็เตรียมค่าน้ำค่าไฟย้อนหลังครึ่งปีถึงหนึ่งปี ถ้ามีธุรกิจประเภทอื่นเขาอาจเรียกดูรายการเดินบัญชี ไม่ต้องไปกางให้เขาดูก่อนเขาขอดูนะคะ แต่ถ้ายังไม่ได้ขายก็บอกจดเผื่อไว้อนาคต ตอนนี้ยังไม่ได้ขายจริง ถ้ามีแบบ ภงด ที่เคยยื่นของปีก่อนๆ ก็เอาไปให้เขาดู ถ้าไม่เคยต้องจ่ายภาษีเพราะรายได้ไม่ถึงเกณฑ์ก็อาจต่อรองไม่ต้องจ่ายหรือจ่ายน้อยที่สุดได้ แต่ถ้ามีหน้าร้านแล้วไม่เคยยื่นแบบ ภงด มาก่อนเลย อาจจะโดนเรียกให้จ่ายภาษีแบบเหมาโดยการประเมินจากบิลค่าน้ำค่าไฟค่ะ

คลิก! อ่านกระทู้ต้นฉบับ

สำหรับ  การจดทะเบียนจัดตั้งพาณิชยกิจ เอกสารหลักฐานที่ต้องเตรียม ประกอบด้วย

1. สำเนาบัตรประจำตัวของผู้ประกอบกิจการ หรือหุ้นส่วนผู้จัดการ หรือผู้รับผิดชอบดำเนินกิจการในประเทศไทย (กรณีเป็นนิติบุคคลต่างประเทศ)ซึ่งรับรองความถูกต้องโดยเจ้าของบัตรประจำตัว
2. สำเนาทะเบียนบ้านของผู้ประกอบพาณิชยกิจ
3. กรณีเช่าสถานที่ประกอบกิจการต้องมีหนังสือยินยอมให้ใช้สถานที่ประกอบพาณิชยกิจพร้อมสำเนาบัตรประชาชน และสำเนาทะเบียนบ้านของเจ้าของอาคารสถานที่ หรือสำเนาสัญญาเช่า
4. หนังสือมอบอำนาจ (ในกรณีผู้ขออนุญาตไม่สะดวก) โดยต้องดำเนินการจดทะเบียน ณ สำนักงานเขต , องค์การบริหารส่วนตำบลหรือเทศบาล ในเขตที่ประกอบกิจการ สำหรับการจดทะเบียนจัดตั้งพาณิชยกิจมีอัตราค่าธรรมเนียม 50 บาท ในส่วนของ เครื่องหมายการค้า(โลโก้ร้าน) จะมีหรือไม่ก็ได้ ขึ้นอยู่กับความประสงค์ของท่านสมาชิกคะ

คลิก! อ่านกระทู้ต้นฉบับ