ชาว Pantip มาตอบ ไวรัสตับอักเสบบีอาการเริ่มแรก เป็นอย่างไร?
ในโลกนี้มีโรคมากมายที่อันตรายต่อมนุษย์และโรคก็มีหลายประเภททั้งโรคที่เกิดจาก แบคทีเรีย เชื้อรา และไวรัส และยังมีทั้งโรคที่มีผลต่อระบบภายในและระบบภายนอกของร่างกายมนุษย์อีกด้วย โดยทั่วไปแล้วโรคที่อันตรายกว่ามักจะซ่อนอยู่ภายในร่างกายเพราะบางครั้งไม่สามารถมองเห็นอีกทั้งยังไม่สามารถได้จากอาการ แต่ต่างกันโรคที่เกิดภายนอกสามารถสังเกตได้ทันที ส่วนสาเหตุของโรคที่อันตรายมากๆก็คงหนีไม่พ้น สาเหตุจาก ไวรัส โรคที่เกิดจากไวรัสมักเป็นโรคที่ไม่มียารักษาเพียงแต่ต้องพึ่งภูมิคุ้มกันของร่างกาย และโรคหนึ่งที่น่ากลัวเช่นกันคือ ไวรัสตับอักเสบ B เพื่อจะสามารถสังเกตและป้องกันได้ทันเราต้องรู้อาการเริ่มแรกก่อน ในบทความนี้ชาว Pantip จะมาบอกว่า ไวรัสตับอักเสบบีมีอาการเริ่มแรกอย่างไรบ้าง
ชาว Pantip เล่าประสบการณ์และการรักษา [โรคปลายประสาทอักเสบ] ปี 2022
ชาว Pantip บอก ไวรัสตับอักเสบบีอาการเริ่มแรก อย่างไร?
• ผู้ป่วยจะเริ่มมีอาการภายใน 1-4 เดือนหลังติดเชื้อ ดังนี้
• อาการไข้ ตัวเหลืองตาเหลือง ปวดท้องใต้ชายโครงขวา
• อาการอื่นๆ ได้แก่ คลื่นไส้ อาเจียน เบื่ออาหาร อ่อนเพลีย ผื่น ปวดข้อ
• ผู้ป่วยบางรายอาจมีอาการรุนแรง เกิดจากการที่เซลล์ตับถูกทำลายเป็นจำนวนมาก ในกรณีนี้อาจทำให้เกิดภาวะตับวายได้
• อาการตับอักเสบระยะเฉียบพลันจะดีขึ้นใน 1-4 สัปดาห์ และจะหายเป็นปกติเมื่อร่างกายสามารถกำจัดและควบคุมเชื้อไวรัสตับอักเสบได้ ซึ่งมักใช้เวลาไม่เกิน 3 เดือน แต่ผู้ป่วยส่วนน้อย (5-10%) ไม่สามารถกำจัดเชื้อออกจากร่างกายได้หมด ทำให้ผู้ป่วยมีการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบีเรื้อรัง
ชาว Pantip บอก หลังจากรู้อาการเริ่มแรกไวรัสตับอักเสบบี ควรดูแลตับอย่างไร?
การปฏิบัติตัวเมื่อติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบี
หากมีการตรวจพบเชื้อไวรัสตับอักเสบบีแบบเฉียบพลัน ควรขอรับคำแนะนำจากแพทย์เกี่ยวกับการดูแลตัวเอง และระมัดระวังการแพร่เชื้อไปสู่คนใกล้ชิด โดยวิธีการปฏิบัติตัวหากมีเชื้ออยู่ในร่างกายทำได้ดังนี้
• ไม่ต้องกังวล หากเป็นตับอักเสบเฉียบพลันชนิดบี เพราะส่วนใหญ่จะหายได้เองและมีภูมิคุ้มกันตามมา
• รับประทานยาและปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์
• ไม่ใช้ยาโดยไม่ปรึกษาแพทย์
• รับการตรวจเลือดอย่างสม่ำเสมอ เพราะการตรวจเลือดจะทำให้ทราบว่าตับมีการอักเสบมากหรือน้อย
• บอกให้คนใกล้ชิดทราบ เพื่อฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบบี หากคนใกล้ชิดนั้นไม่มีภูมิและเชื้อ
• มีเพศสัมพันธ์อย่างปลอดภัยโดยการสวมถุงยางอนามัย
• งดบริจาคเลือด
• ไม่ดื่มสุราหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด
• พักผ่อนให้เพียงพอทั้งร่างกายและจิตใจ
• ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
• รับประทานทั้งข้าว เนื้อสัตว์ ผักและผลไม้ ในปริมาณที่พอเหมาะทุกวัน
• รับประทานอาหารสุกและสะอาด ลดการรับประทานอาหารไขมันสูง เนื้อสัตว์รมควัน และเนื้อสัตว์ที่ไหม้จนเกรียม หรืออาหารที่เก็บถนอมไว้นานๆ ไม่รับประทานอาหารหรือส่วนประกอบของอาหารที่มีเชื้อราขึ้น เช่น ถั่วลิสงป่นที่เก็บไว้นานๆ อาหารที่ใส่ดินประสิว อาหารหมักดอง เช่น ปลาเค็ม เนื้อเค็ม แหนม ปลาร้า ผักดอง ไส้กรอก เบคอน แฮม ฯลฯ และเครื่องกระป๋องต่างๆ ทั้งนี้อาหารประเภทแหนม ปลาร้า เมื่อจะรับประทานต้องทำให้สุกเสียก่อน เนื่องจากอาหารเหล่านี้อาจส่งเสริมทำให้ตับทำหน้าที่บกพร่องมากขึ้น
• ควรตรวจร่างกายและตรวจเลือดหาระดับสารบ่งบอกมะเร็งตับ AFP (alpha-fetoprotein) และทำอัลตราซาวนด์ช่องท้องสม่ำเสมอทุกปีในกลุ่มเสี่ยง เช่น มีภาวะตับแข็ง เพศชายอายุมากกว่า 45 ปี เพศหญิงอายุมากกว่า 50 ปี และมีประวัติมะเร็งตับในครอบครัว เพื่อหามะเร็งตับในระยะเริ่มแรก อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง
• เมื่อต้องรับการผ่าตัดหรือทำฟันควรแจ้งให้แพทย์หรือทันตแพทย์ทราบ
• หญิงตั้งครรภ์และคลอดบุตร ควรฉีดวัคซีนให้บุตรภายใน 24 ชั่วโมงหลังคลอด
• ลดความเครียดและความกังวลให้น้อยลง
[เหงือกบวม] เกิดจากอะไร? มีวิธีดูแลอย่างไร? ตามมาดูความเห็นของชาว Pantip กัน! ปี 2022
ชาว Pantip เล่าประสบการณ์อาการเริ่มแรกหลังจากติดไวรัสตับอักเสบบี
ผมเคยติดไวรัสตับอักเสบBจากการสัมผัสใกล้ชิดพ่อที่ป่วยเป็นโรคนี้เมื่อ25ปีก่อน ปัจจุบันท่านอายุ93ปี ไม่ได้รับการตรวจว่าเป็นพาหะหรือไม่ แต่ในบ้านใช้ช้อนกลาง ตัวผมเองถูกตรวจพบเป็นพาหะของโรคนี้ตอนที่ต้องไปให้เลือดกับพ่อที่ต้องเเข้ารับการผ่าตัดนิ่วในถุงน้ำดี ทำให้เลือดที่บริจาคให้พ่อต้องถูกทิ้งเสียเปล่า หลังจากนั้นผมก็พยายามดูแลสุขภาพตัวเองให้ดีที่สุด ด้วยการไปวิ่งออกกำลังกาย นอนครบ8ชม.กินอาหารครบ5หมู่ จนครบ1ปีต่อมา จากคนที่ไม่เคยออกกำลังกายเลย มาเป็นคนที่วิ่ง10กม.เป็นประจำ
ในวันที่ครบรอบ1ปีที่ตรวจพบว่าผมเป็นพาหะ ผมกลับไปตรวจเลือดใหม่อีกครั้ง และตรวจไม่พบเชื้อไวรัสตับเสบแล้ว จนถึงปัจจุบัน ผมอายุ55ปี ได้บริจาคเลือดไปกว่า50ครั้งแล้ว ไม่มีปัญหาใดๆ ผมอยากให้กำลังใจ จขกท.ว่า โรคนี้แม้จะไม่มียารักษา แต่ถ้าเราอยากจะหายขาดจากโรคนี้ ยังมีหนทางทำได้แน่นอน นั่นคือสร้างสุขภาพร่างกายของเราให้แข็งแรงมากๆจนระบบภูมิคุ้มกันของเราทำงานแข็งแรงมาก จนสามารถกำจัดไวรัสตัวนี้ออกไปได้ด้วยตัวเราเองครับ หวังว่าประสพการณ์ของผมจะเป็นอีก1หนทางที่ทำให้ทุกท่านที่ได้อ่าน มีกำลังใจที่จะต่อสู้ให้หายขาดโรคนี้ได้ครับ
เป็นมาเกินกว่าสามสิบปีแล้ว ไม่เคยเป็นอีกเลย
ที่สำคัญไม่เคยคุมอาหาร ไม่เคยทานยา ไม่เคยมีอาการอีกเลย
เสียดายอย่างเดียว บริจาคเลือดไม่ได้
สรุปสิ่งที่ชาวเล่าเกี่ยวกับอาการเริ่มแรกของไวรัสตับอักเสบบี
ชาว Pantip เล่าเรื่องที่ควรู้เกี่ยวกับอาการเริ่มแรกของไวรัสตับอักเสบบี
– ชาว Pantip บอกว่าไวรัสตับอักเสบบีอาการเริ่มแรกจะมีไข้ ตาเหลือง ปวดท้องใต้ชายโครงขวา โดยสามารถสังเกตได้ภายใน 1-4 เดือน
– ชาว Pantip ยังเล่าประสบการณ์ของคนใกล้ตัวที่มีอาการไวรัสตับอักเสบบีอีกด้วย
[โรคลำไส้แปรปรวน]มีอาการอย่างไร? ควรดูแลรักษาอย่างไร? ชาว Pantip มีคำตอบ ปี2022
บทสรุปส่งท้าย : อาการเริ่มแรกของไวรัสตับอักเสบบีที่ชาว Pantip เล่า!
เห็นไหมว่ามีผู้คนจำนวนไม่น้อยเลยที่เป็นโรคไวรัสตับอักเสบบีเนื่องจากประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่มีการระบาดของไวรัสตับอักเสบบีมาก จึงเป็นเรื่องสำคัญที่จะไม่มองข้ามโรคนี้เพราะหากมีโรคไวรัสตับอักเสบบีเรื้อรังก็อาจทำให้เกิดอันตรายแก่ชีวิตได้!
อาการแรกเริ่มของไวรัสตับอักเสบบีนั้นมีหลายอาการเช่น ไข้ ปวดชายโครงขวา ตาเหลือง และอาจมีอาการอื่นๆได้อีกแล้วแต่สภาพร่างกายของแต่ละคน การตรวจสอบร่างกายและสภาวะของตนเองเป็นเรื่องสำคัญเพราะจะสามารถป้องกันและรักษาได้ทัน อย่างที่ชาว Pantip ได้เล่าการป้องกันตัวและรักษาตัวเองก็ย่อมดีกว่ารักษาตัวหลังจากติดโรคแล้ว