ชาว Pantip เล่า 3 สิ่งที่ควรรู้! เกี่ยวกับอาการ [เยื่อบุตาอักเสบ] ปี2022

เยื่อบุตาอักเสบกับเรื่องควรรู้ที่ชาว Pantip มาเล่า

เนื่องจากการแพร่หลายที่มากขึ้นของสมาร์ทโฟนและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆทำให้คนเราต้องใช้สายตามากขึ้นและสำหรับบางคนที่ต้องทำงานโดยใช้สายตาก็ไม่ได้ใช้เพียงวันละไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้นแต่ใช้วันละหลายๆชั่วโมงเลยทีเดียว! เมื่อมีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปก็มาพร้อมกับสิ่งหนึ่งที่มักไม่ค่อยเกิดขึ้นก็คืออาการเยื่อบุตาอักเสบแต่ก็ต้องบอกว่านี่ไม่ใช่สาเหตุหลักของการเกิดเยื่อบุตาอักเสบเท่านั้น ซึ่งในปัจจุบันคนที่มีอาการเยื่อบุตาอักเสบนี้ก็มีเพิ่มมากขึ้นเนื่องจากเหตุผลที่กล่าวไปแล้ว คนที่มีอาการเหล่านี้จะรักษาโดยใช้วิธีใด? และจะรักษาหายได้ไหม? ชาว Pantip จะให้ข้อมูลเกี่ยวกับสิ่งที่ควรรู้และจะมีอะไรที่น่าสนใจบ้างนั้น ไปดูกันเลย

[ครีมลดรอยสิว 11 ยี่ห้อ] ชาว Pantip อยากมารีวิว…ใช้จริงได้ผลจริง!!

ชาว Pantip เล่าเรื่องที่ควรรู้เกี่ยวกับเยื่อบุตาอักเสบ เรื่องที่ 1 : เยื่อบุตาอักเสบเกิดจากอะไร?

เยื่อบุตาอักเสบ เป็นภาวะที่เยื่อบุตาเกิดการอักเสบหรือติดเชื้อ มักเกิดจากการติดเชื้อไวรัส เชื้อแบคทีเรีย หรือสารก่อภูมิแพ้ได้ค่ะ
ซึ่งมักทำให้เกิดอาการต่างๆ เช่น ตาแดง แสบตา คันตา หรือระคายเคืองตา เยื้อบุตาบวม ตาแฉะ น้ำตาไหล มีขี้ตามากได้ เป็นต้นค่ะ

 งดการใช้สายตาจ้องมองโทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์  หรือที่ที่มีแสงจ้ามากไป

คลิก! เพื่ออ่านกระทู้ต้นฉบับ

โรคตา
แบบเบสิก ตาแดง เจ็บตา คันตา เยื่อบุตาอักเสบ  แบบนี้ไม่ค่อยเท่าไหร่ มันเป็นด้านนอกของลูกตา ไม่ค่อยมีผลกับการมองเห็น
ระดับกลาง ม่านตาอักเสบ เป็นความผิดปกติภายในลูกตา มันอาจกลายพันธ์เป็นต้อได้ หรือ มีผลกระทบกับส่วนด้านในสุดของลูกตาได้ ระดับนี้มันจะมีผลกับการมองเห็นเช่น มองไม่ชัด มัวเหมือนมีม่านขุ่นๆมาบัง (ลองเอาถุงพลาสติกใสมาบังตาดู แล้วจะรู้)
ขั้นเทพ ส่วนมากก็จะเป็นที่ส่วนลึกๆของลูกตา เช่น เส้นประสาท หรือจอรับภาพ อันนี้เรื่องใหญ่แน่ อาจถึงบอด
ผนน่ะเป็นม่านตาอักเสบชนิดเฉียบพลัน คันตา ตาแดงแค่2วัน วันที่3 ตาซ้ายมองลายนิ้วมือตัวเองไม่เห็น ตอนนี้ก็รักษามาเดือนครึ่งแล้ว การมองเห็นแบบขุ่นๆหายไปแล้ว แต่โฟกัสยังไม่ได้ ถือว่าผลการรักษาเป็นที่น่าพอใจ และมาถูกทาง ส่วนที่รักษา ได้ตามโจทย์ของคุณ  อยู่แถวนนท์และถูกแน่ๆ  แถมหมอที่ทำการรักษา ก็ ระดับอาจารย์หมอเขียวนะครับ

คลิก! เพื่ออ่านกระทู้ต้นฉบับ

ชาว Pantip เล่าเรื่องที่ควรรู้เกี่ยวกับเยื่อบุตาอักเสบ เรื่องที่ 2 : มีวิธีรักษาอย่างไร?

การดูแลตัวเองที่บ้าน
อาจจะเริ่มต้นด้วยการล้างตาด้วยน้ำเปล่า เมื่อมีสิ่งแปลกปลอมเข้าตา หรือมีสารเคมีเข้าตาควรล้างตาด้วยน้ำสะอาด ถ้าคิดว่ามีสิ่งแปลกปลอมในตา อย่าขยี้ตา เพราะอาจจะทำให้มีการบาดเจ็บมากขึ้นจากการที่สิ่งแปลกปลอมนั้นไปบาตกระจกตามากขึ้นการล้างตาเป็นสิ่งที่สามารถทำได้ แต่ถ้าสงสัยว่าติดอยู่ที่กระจกตาควรให้แพทย์เป็นผู้ดูแล หากอาการปวดไม่รุนแรง สามารถซื้อยาแก้ปวดทานได้เอง และหลีกเลี่ยงแสงจ้า

การรักษาด้วยยา
1 ตาแดง (เยื่อบุตาอักเสบ) Conjunctivitis ถ้าเป็นการติดเชื้อจะให้ยาแก้อักเสบหยอดตา หรือแบบขี้ผึ้งป้ายตา และให้ยาแก้ปวดส่วนถ้าเกิดจากการแพ้ จะให้หยอดยาแก้แพ้ พวก antihistamine
2 การถลอกหรือแผลที่กระจกตา หลักการสำคัญคือ ป้องกันการติดเชื้อ จึงจำเป็นต้องให้ยาแก้อักเสบหยอดตา หรือชนิดขี้ผึ้งายตาด้วย
3 สิ่งแปลกปลอมเข้าตา จะมีหลายเทคนิคในการเอาออก ตั้งแต่การล้างตา การใช้ไม้พันสำลีค่อยๆ เขี่ยออก หรือการใช้ปลายเข็มเขี่ยออก กระทั่งการใช้เครื่องมือแพทย์เข้าช่วย หลังจากจัดการเอาสิ่งแปลกปลอมออกแล้ว ก็ต้องดูว่ามีแผลหรือไม่และต้องให้ยาป้องกันการติดเชื้อเช่นกัน
4 การบาดเจ็บจากสารเคมี หรือความร้อน เริ่มแรกต้องล้างตาด้วยน้ำในปริมาณมาก เพื่อล้างสารเคมีออกให้หมด อาจจะให้ยาชาหยอดเพื่อบรรเทาอาการเจ็บ จากนั้นจะตรวจดูความเป็นกรดด่างจนกระทั่งไม่มีความเป็นกรดต่างเหลืออยู่ แพทย์ก็จะตรวจดูว่ามี การบาดเจ็บรุนแรงแค่ไหนและให้การรักษาต่อไป ส่วนที่เกิดจาก ความร้อน จะพบว่าอาจมีการถลอกของกระจกตา ดังนั้นจะให้ยาแก้อักเสบหยอดเพื่อป้องกันการติดเชื้อ
5 ตากุ้งยิง เริ่มต้นอาจจะเริ่มด้วยการใช้ผ้าอุ่น ๆ ประคบประมาณ 15-20 นาที ร่วมกับการให้ยาแก้อักเสบ แต่ถ้าสองสัปดาห์ แล้วยังไม่ดีขึ้น อาจจะต้องทำการผ่าเอาหนองออก
6 ต้อหิน มีวิธีรักษาหลายวิธีขึ้นอยู่กับชนิดและความรุนแรงชนิดที่รุนแรงอาจจะทำให้ตาบอดได้ในเวลาไม่กี่ชั่วโมง ซึ่งต้อง รักษาแบบฉุกเฉิน โดยทั่วไปจะให้ยาหยอดตาที่เป็นกลุ่ม beta-blocker ในบางรายอาจจะต้องทำการผ่าตัด

คลิก! เพื่ออ่านกระทู้ต้นฉบับ

สมุนไพรรักษาน้ำในหูไม่เท่ากัน..ชาว Pantip แนะนำ [3 ขั้นตอนง่ายๆได้ผลดี!!]

ชาว Pantip เล่าเรื่องที่ควรรู้เกี่ยวกับเยื่อบุตาอักเสบ เรื่องที่ 3 : ประสบการณ์และคำแนะนำ

– แรกเริ่มเลยคือมีอาการตาบวมแดง ตามัวบ้าง ประกอบกับมีขี้ตาสีเหลืองมาก และยิ่งในตอนเช้าคือลืมตาไม่ขึ้นเลย ขี้ตาเยอะมาก แต่เป็นแค่ข้างเดียวนะครับ จึงไปปรึกษาเภสัชกรและได้ยาทานกับยาหยอดมาครับ ซึ่งหลังจากใช้สองสามวันอาการก็ดีขึ้นเหมือนปรกติ

– ถัดมาอีกหนึ่งสัปดาห์อาการเดิมก็กลับมาอีกครับ ต้นเหตุก็คงมาจากที่ผมคันตามากประกอบกับไม่ทันคิดด้วยว่าตาเราหายดีหรือยัง จึงเผลอขยี้ตาไปหลายทีเลย ผมจึงไปคลินิคจักษุแพทย์ครับ โดยคุณหมอบบอกว่าตาอักเสบธรรมดา เลยให้ยาป้ายตากับยาหยอดมาใช้ ก็ใช้ยาตัวนั้นมาสองสัปดาห์ครับ แต่อาการก็ไม่ดีขึ้นเลย

คลิก! เพื่ออ่านกระทู้ต้นฉบับ

– จึงตัดสินใจไปหาหมอที่คลินิคอีกที่หนึ่ง ผมบอกว่าตาบวมแดงมานานแล้วพร้อมกับเล่าอาการทั้งหมด คุณหมอส่องตาดูก็บอกอีกว่าตาอักเสบมาก จะให้ยาไป ซึ่งครั้งนี้ก็จะได้ยาทาน กับยาหยอดตา(ตัวเดียวก็คุณหมอคนที่แล้ว) ซึ่งอาการก็ดีขึ้นครับ ตัวผมเองก็พยายามไม่ขยี้ตาเวลาคัน การบวมแดงหายไป ตามัวยังมีบ้าง แต่ที่ยังไม่ยอมหายคือ “ขี้ตาครับ” ยังคงมีขี้ตามากอยู่ ทั้งในเวลาปรกติและเวลาตื่นนอน และยังคงมีอาการปวดเบาๆและยังคันอยู่ในบางเวลา

นับตั้งแต่ที่เป็นๆหายๆมาก็เดือนครึ่งเกือบสองเดือนแล้วครับ เข้าใจว่าโรคพวกนี้เป็นแล้วจะหายได้เองในเร็ววัน จึงกังวลครับ ไปหาหมอที่ไหนก็บอกว่าตาอักเสบ ซึ่งแต่ละท่านนั้นตรวจไม่ถึงนาทีเลย

คลิก! เพื่ออ่านกระทู้ต้นฉบับ

ไม่ได้เห็นคนไข้เอง แต่แนะนำว่า อาจจะลองไปหาจักษุแพทย์ อีกทีค่ะ บอกไปว่า ยังไม่หายสนิท ลองเน้นๆไป
ขอให้หายไวๆค่ะ

คลิก! เพื่ออ่านกระทู้ต้นฉบับ

ถ้าระคายเคือง ควรใส่แว่นครับ
แล้วหาสาเหตุด้วยว่า อักเสบเพราะอะไร ไม่งั้น ยังไงก็ไม่หาย มันแค่ทุเลาตามยาที่ได้รับ

คลิก! เพื่ออ่านกระทู้ต้นฉบับ

จำนวนเวลาที่เป็น  จำนวนเวลาที่รักษา     ไม่สามารถบอกได้ว่าจะใส่คอนแทคเลนส์ได้เมื่อไหร่
ควรสอบถามแพทย์ผู้รักษา เพื่อประเมินว่าที่อักเสบนั้น หายดีจนสามารถใส่คอนเทคเลนส์ได้หรือยัง เพราะแต่ละโรค แต่ละบุคคลย่อมไม่เหมือนกัน

คลิก! เพื่ออ่านกระทู้ต้นฉบับ

หลังหยอดยา น่าจะต้องรอซัก 3 วัน ถึงจะดีขึ้น
แต่ถ้าไม่มั่นใจ ในหมอคนเดิม หรืออยากได้ second opinion น่าจะไป รพ.ที่ เชี่ยวชาญด้าน ตา นะคะ
ในกทม. ก้อ จักษุรัตนิน กับ รพ.สุขุทวิท
รีบไปเถอะคะ ดวงตา สำคัญมากนะคะ เพื่อความปลอดภัย

คลิก! เพื่ออ่านกระทู้ต้นฉบับ

[6 เรื่องสำคัญควรรู้!] ก่อนใช้ยานอนหลับ…ชาว Pantip แนะนำให้ระวัง!!

สรุป 3 เรื่องที่ชาว Pantip อยากเล่าเกี่ยวกับเยื่อบุตาอักเสบ

ชาว Pantip แนะนำและเล่าประสบการณ์แก่ผู้มีอาการเยื่อบุตาอักเสบ

– ชาว Pantip อธิบายว่าหากมีอาการเยื่อบุตาอักเสบก็ควรงดใช้สายตาในที่ที่มีแสงจ้า และงดแสงจากอุปกรณ์อิเล็กหรอนิกส์ต่างๆนอกจากนั้นก็ไม่ควรสัมผัสหรือขยี้ตาด้วย

– ชาว Pantip อธิบายด้วยว่าเยื่อบุตาอักเสบมักจะเกิดจากสารก่อภูมิแพ้ จากเชื้อไรวัส หรือแบคทีเรียด้วย

บทสรุปส่งท้าย : ชาว Pantip แนะนำ 3 เรื่องที่ควรรู้เกี่ยวกับเยื่อบุตาอักเสบ

เห็นไหมว่ามีผู้คนจำนวนไม่น้อยเลยที่เป็นหรือเคยเป็นเยื่อบุตาอักเสบและส่วนใหญ่ที่มีอาการนี้ก็มักจะไม่รุนแรงนักและเหตุผลที่ยังไม่หายขาดเพราะบางคนอาจยังไม่พบสาเหตุของการเกิดเยื่อบุตาอักเสบส่วนคนอื่นๆก็มีหลายคนที่หายขาดจากเยื่อบุตาอักเสบ

เยื่อบุตาอักเสบเป็นอาการที่เกิดขึ้นได้กับทุกคนเพราะอาจเกิดจากแบคทีเรียที่ลอยอยู่ตามอากาศหรือไวรัสหรือสารก่อภูมิแพ้ที่อยู่ตามสิ่งอยู่ต่างๆ และนอกจากนั้นสิ่งที่มีผลกับอาการนี้ก็คงหนีไม่พ้นสภาพอากาศชาว Pantip หลายคนก็เห็นด้วยเลยว่าสาเหตุต่างๆที่กล่าวมานี้สามารถหลักเลี่ยงได้ยากในบางครั้งจริงๆ