ฉบับย่อ :
|
มีปัญหาหูดข้าวสุกกวนใจ ทำยังไงให้หายดี? มาฟังคำแนะนำจากชาว Pantip กัน!
“หูดข้าวสุก” เป็นหนึ่งในอาการผิดปกติที่เกิดขึ้นบริเวณอวัยวะเพศ ทำให้เกิดตุ่มที่เหมือนกับหูดเกิดขึ้นสร้างความไม่สบายใจให้กับคนที่มีอาการเป็นอย่างมาก ถ้าหากใครที่เกิดปัญหาหูดข้าวสุกแล้วกำลังมองหาวิธีการในการแก้ไขปัญหาอยู่ล่ะก็ ลองมาฟังคำแนะนำที่น่าสนใจจากชาว Pantip ผ่านบทความชิ้นนี้กัน เชื่อว่าอาจจะมีข้อมูลที่มีประโยชน์ให้นำไปปรับใช้กันได้อย่างแน่นอน
[15] สัญญาณเตือนโรคซึมเศร้า รู้ก่อนแก้ไขทัน แนะนำโดยชาว Pantip!
วิธีการรับมือกับหูดข้าวสุกที่น่าสนใจจากชาว Pantip มีอะไรกันบ้าง?
ในส่วนของวิธีการจัดการกับปัญหาหูดข้าวสุกที่ชาว Pantip อยากแนะนำให้รู้จักกันนั้น มีรายละเอียดที่เรียกได้ว่าไม่ควรพลาด ดังต่อไปนี้
โรคหูดข้าวสุก มักจะมีระยะฟักตัวเฉลี่ยของเชื้อชนิดนี้อยู่ที่ประมาณ 2-7 สัปดาห์ไปจนถึง 6 เดือนค่ะ อาการจะพบตุ่มบริเวณผิวหนังเป็นตุ่มเดี่ยว หรืออยู่กระจุกเป็นกลุ่มได้ถึง 20 ตุ่ม และมีผิวสัมผัสที่เงาและเรียบ มีสีเนื้อ หรือสีขาวอมชมพูลักษณะเป็นรูปทรงโดม หรือมีรอยบุ๋มตรงกลาง และมักพบได้บริเวณใบหน้า ท้อง ลำตัว แขน ขา อวัยวะเพศ ต้นขาด้านใน ผิวหนังที่สัมผัสหรือเสียดสีกันบ่อย เช่น ข้อพับ เป็นต้นค่ะ และโดยทั่วไปหูดข้าวสุกสามารถหายเองได้ภายใน 6-12 เดือนค่ะ แต่สำหรับผู้ติดเชื้อที่เป็นผู้ใหญ่ แพทย์จะแนะนำให้เอาหูดออก มากกว่ารอให้หายไปเอง เพราะอาจแพร่กระจายไปสู่ผู้อื่นได้อย่างรวดเร็ว และหากระบบภูมิคุ้มกันร่างกายบกพร่องอาจส่งผลให้อาการของโรค รุนแรงมากขึ้นและรักษาได้ยากกว่าคนปกติได้ค่ะ สำหรับการรักษา สามารถรักษาได้หลายวิธีค่ะ เช่นการใช้ยาทาที่มีส่วนผสมของกรดซาลิซิลิก ไฮโดรเจนเพอร์ออกไซด์ หรือ เบนโซอิลเพอร์ออกไซด์ เพื่อช่วยทำลายเซลล์ที่ติดเชื้อ และยังมียาในรูปแบบเจลหรือครีมที่มีส่วนผสมของเรตินอยด์ เช่น ทาซาโรทีนได้ นอกจากนี้ ยังสามารถรักษาด้วยการจี้ทำลายโรคด้วยความเย็น การรักษาด้วยแสงเลเซอร์ ซึ่งต้องทำโดยแพทย์ผิวหนัง เป็นต้นค่ะ เบื้องต้น แนะนำให้คุณไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยอาการ เนื่องจากการรักษามักจะขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์ผู้ทำการรักษา ซึ่งหลังจากการตรวจแล้วคุณจะได้รับการรักษาที่เหมาะสมต่อไปค่ะ
เราเป็นค่ะ ตอนนี้ยุบแล้ว หมอใช้อะไรทาให้เราไม่แน่ใจค่ะรู้สึกแสบๆสักพักก็ปกติเเล้วให้ยา aldar cream มาทาวันเว้นวันแล้วทุก2อาทิตย์คุณหมอก็นัดดูอาการ เราใช้เวลา1เดือนกับการรักษาค่ะ เรารักษาโรงบาลเอกชนจะเเพงหน่อยแต่ผลตรวจเเละการรักษาดีมากค่ะ
สำหรับที่เข้ามาหาข้อมูลใหม่นะคะ เราเคยรักษาที่คลินิก หมอไม่ได้แนะนำให้ตรวจเชื้ออะไร แต่ทุกครั้งที่มีปัญหาจะแนะนำให้ตรวจภายในทุกครั้ง การรักษาคือใช้ยาป้ายจี้ ยาแสบๆร้อนๆมากอยู่แต่ อดทนได้ หมอทำให้ กลับมาสัก3-4 วัน หูดจะเริ่มลอกออกเองคันๆโล่งๆค่ะ ทำไปจนจะหลุดหมดประมาณ4สัปดาห์ ค่าป้ายยาครั้งละ 200 กว่าบาท ไม่ถึง300 ไม่มียากินค่ะ. 3-4ปี ผ่านไปยังไม่กลับมาเป็นซ้ำค่ะ (แต่ตรวจเจอ เอชไอวี) แนะนำให้ขอหมอตรวจหาเชื้อไวรัสหรือหมอถ้าแนะนำก็ตรวจ เลยถ้าหากใครที่กำลังเป็น อย่าปล่อยไว้นานค่ะ
อย่ารักษาเอง หาหมอค่ะ ยิ่งเป็นซ้ำก็ต้องยิ่งหาหมอ ไม่อยากจี้ด้วยเครื่องก็บอกหมอไป ยาจี้ ยาทา มี แต่ต้องให้หมอทำให้จึงจะปลอดภัย
ชาว Pantip กด Like! [5] สุดยอดสมุนไพรช่วยให้นอนหลับสนิทเป็นตายจนถึงเช้า
มาลองสรุปข้อมูลที่น่าสนใจจากชาว Pantip กันดีกว่าว่าการรักษาหูดข้าวสุกมีอะไรกันบ้าง?
เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาในการค้นคว้าหาข้อมูล มาฟังจากปากชาว Pantip แบบสรุปกันดีกว่าว่าหูดข้าวสุกต้องทำการรักษาอย่างไรกันบ้าง เพื่อให้กลับมาหายดี?
- วิธีรักษาหูดข้าวสุก ใช้ยาทาที่มีส่วนผสมของกรดซาลิซิลิก
- วิธีรักษาหูดข้าวสุก ใช้ใยาทาที่มีส่วนผสมขอ ไฮโดรเจนเพอร์ออกไซด์
- วิธีรักษาหูดข้าวสุก ใช้ยาทาที่มีส่วนผสมของเบนโซอิลเพอร์ออกไซด์
- วิธีรักษาหูดข้าวสุก ใช้ยทาาในรูปแบบเจลหรือครีมที่มีส่วนผสมของเรตินอยด์ เช่น ทาซาโรทีน เป็นต้น
- วิธีรักษาหูดข้าวสุก จี้ทำลายด้วยความเย็น
- วิธีรักษาหูดข้าวสุก การรักษาด้วยแสงเลเซอร์
หูดข้าวสุกถ้าปล่อยให้หายเองนานไหมคะ?
ในกรณีที่ไม่ได้รับการรักษาอย่างเหมาะสม หูดข้าวสุกจะสามารถหายเองได้ในระยะเวลา 9-12 เดือน แต่ถ้าหากเกิดในผู้ใหญ่แพทย์จะแนะนำให้นำออกเพื่อป้องกันไม่ให้แพร่กระจายไปยังบุคคลอื่น ๆ มากกว่า ส่วนวิธีการนั้นจะขึ้นอยู่กับความรุนแรงของโรค
แนะนำ [10] ยาและวิธีรักษาแก้ปัญหาร้อนในแบบได้ผลชะงัด จากเหล่ากูรูชาว Pantip!
บทสรุปส่งท้าย : หูดข้าวสุกมีวิธีรักษาที่มีประสิทธิภาพอะไรบ้าง? หวังว่าชาว Pantip จะช่วยให้ได้รับคำตอบ!
หลังจากที่ได้ทราบข้อมูลที่น่าสนใจจากชาว Pantip ในตอนต้นกันไปแล้ว เชื่อว่า ณ ตอนนี้หลาย ๆ คนก็คงจะสามารถมองเห็นภาพรวมแล้วว่าที่จริงแล้วหูดข้าวสุกก็สามารถรักษาได้ด้วยวิธีการที่หลากหลายขึ้นอยู่กับความรุนแรง ดังนั้น ถ้าหากพบว่าตัวเองเป็นหูดข้าวสุกก็อย่ามัวปล่อยเอาไว้ เพราะอาจลุกลามกลายเป็นปัญหาใหญ่ได้เช่นกัน…