เรียนภาษาญี่ปุ่นชาว Pantip มีคำแนะนำอะไรดีๆมาแนะนำบ้าง?
ประเทศญี่ปุ่นถือเป็นอีกประเทศที่คนไทยชื่นชอบมากๆ ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยว บรรยากาศ วัฒนธรรม ภายในประเทศที่ถูกจริตคนไทยเป็นอย่างมากเลยล่ะ ในยุคที่ยังไม่มีโควิดประเทศที่คนไทยเดินทางไปเที่ยวบ่อยมากก็หนีไม่พ้นประเทศญี่ปุ่น แม้แต่ในปัจจุบันที่เกิดการระบาดมีการปิดประเทศการเดินทางไปเที่ยวเป็นอะไรที่ทำไม่ได้ก็มีคนไทยไม่น้อยที่โหยหาและประกาศว่าประเทศเปิดเมื่อไรจะต้องไม่พลาดไปเที่ยวญี่ปุ่นอย่างแน่นอน และอีกสิ่งหนึ่งที่ประเทศญี่ปุ่นถูกยอมรับและดังไปไกลระดับโลกเรื่องคืออุตสหกรรมการ์ตูนหรือภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า อนิเมะ มีอนิเมะหลายเรื่องมากที่ดังระดับโลกได้รับการยอมรับและประเทศไทยเราก็มีอนิเมะญี่ปุ่นไม่น้อยเลยล่ะที่เข้ามาฉายและตกชาวไทยไปเป็นแฟนคลับได้ไม่น้อย จนทำให้คนไทยหลายๆคนอยากที่อยากจะฟังและอยากพูดภาษาญี่ปุ่นให้ได้เพื่อการสื่อสาร ซึ่งชาว Pantip จะมีคำแนะนำการแนะนำเรื่องการเรียนภาษาญี่ปุ่นเป็นอย่างไร? ไปดูกัน
[รีวิว] เรียนภาษาจีนที่ ต้าเหลียน ประเทศจีน มีอะไรที่ชาว Pantip อยากให้รู้ก่อนไปกันบ้าง!?
โรงเรียนสอนภาษาญี่ปุ่นที่ชาว Pantip พูดถึง
สสท.จะเบาสุด 55
แนะนำถ้าอยากแบบสายหนักๆเลย การบ้านเยอะมากก สอบทุกวัน ก็วาเซดะเลยจ้ะ เพราะเนื้อหาจะแน่นมากก55
ส่วนเจเอดก็กำลังดีนะ ไม่สอบเยอะเท่าวาเซดะ
คำแนะนำของชาว Pantip ในการเริ่มเรียนภาษาญี่ปุ่นด้วยตัวเอง
ถ้าไม่เคยมีพื้นฐานภาษาญี่ปุ่นมาก่อน ลองศีกษาจาก youtube ก่อนก็ได้
เริ่มจากพื้นฐานตัวอักษรและการออกเสียง อะ อิ อู เอะ โอะ ต่างๆ ที่ถูกต้อง
จากนั้น การเขียนตัวอักษร Hiragana และ Katakana และเริ่ม Kanji ง่ายๆ
(คันจิ คืออักษรภาพคล้ายตัวอักษรจีน จะต้องใช้การจำและฝึกวิธีการเขียนที่ถูกต้อง)
จากน้ั้น บทสนทนาพื้นฐาน ในชีวิตประจำวัน การเขียนตัวหนังสือ รูปประโยคและไวยากรณ์
ค่อย ๆ ศึกษา จากนั้น ก็ทำแบบทดสอบความเข้าใจตามเนื้อหาบทเรียนแต่ละบท
จากนั้น หาคลิปการ์ตูนภาษาญี่ปุ่น สำหรับเด็กประถมฝึกอ่าน ฝึกฟัง ก็จะเก่งขึ้น และ
เริ่มดูละครซีรีย์ภาษาญี่ปุ่น ที่มีซับตัวหนังสือญี่ปุ่น จากนั้น ก็ฟังข่าว รายการ NHK
ภาษาก็จะดีขึ้นเรื่อยๆ และหาโอกาสเข้าสอบวัดระดับความรู้ภาษาญี่ปุ่นในระดับต่างๆ
1. เริ่มจากฝึกฟัง-พูด-อ่าน-เขียน ตัวฮิระงะนะ วันละ 1 “วรรค”
2. เพิ่มคำศัพท์ให้ตัวเองวันละ 10-15 คำ จาก วรรค ที่ฝึกในแต่ละวัน
เช่น วันนี้เขียน วรรค คะ ก็ หาคำศัพท์ที่ขึ้นต้นด้วยวรรค คะ
3. เพิ่มบทสนทนาง่าย ๆ วันละ 2-3 ประโยค ที่ใช้ได้จริงไปพร้อมกัน
เช่น ประโยคทักทาย
(3 ข้อแรก ทำพร้อมกันจนเรียนครบตัวฮิระงะนะทุกตัว)
4. หลังจากฮิระงะนะ ได้แล้ว เริ่ม คะตะคะนะ วันละ 1 วรรค
5. เพิ่มคำศัพท์แบบเป็นหมวดหมู่ เช่น หมวดหมู่คำศัพท์สมาชิกในครอบครัว วันละ 1 หมวด
6. หัดเขียนคันจิ จากในข้อ 5. (ถ้าคำศัพท์นั้นมีคันจิ)
7. อย่าลืม ประโยคสนทนา วันละ 2-3 ประโยคเช่นเดิม
8. ทำความเข้าใจกับการผันกริยาในรูปแบบต่าง ๆ
9. ทำความเข้าใจเกี่ยวกับ ระดับของภาษา (กันเอง/สุภาพ)
10. ฟังเพลง/ดูคลิปรายการ/ดูการ์ตูน/อ่านการ์ตูน ที่เป็นภาษาญี่ปุ่นค่ะ
ชาว Pantip รวบรวมแหล่งแปลภาษาอังกฤษเป็นไทยปี 2022 มีอะไรบ้าง?
สรุปคำแนะนำจากชาว Pantip เรื่องการเรียนภาษญี่ปุ่น
แนะนำโรงเรียนที่ชาว Pantip พูดถึง
- waseda ดีมาก การบ้านเยอะ แต่ไม่ได้มากมายขนาดนั้น สอบทุกวัน เนื้อหาจะแน่นมาก
- jeducation กำลังดีนะ ไม่สอบเยอะเท่าวาเซดะ
- ส.ส.ท. เบาที่สุดถ้าเทียบกับ waseda และ jeducation
คำแนะนำถ้าเรียนด้วยตัวเองต้องเริ่มยังไง
- เริ่มจากฝึกฟัง-พูด-อ่าน-เขียน ตัวฮิระงะนะ วันละ 1 “วรรค”เพิ่มคำศัพท์ให้ตัวเองวันละ 10-15 คำ จาก วรรค ที่ฝึกในแต่ละวัน
เช่น วันนี้เขียน วรรค คะ ก็ หาคำศัพท์ที่ขึ้นต้นด้วยวรรค คะ เพิ่มบทสนทนาง่าย ๆ วันละ 2-3 ประโยค ที่ใช้ได้จริงไปพร้อมกัน
เช่น ประโยคทักทาย ทำพร้อมกันจนเรียนครบตัวฮิระงะนะทุกตัว) - หลังจากฮิระงะนะ ได้แล้ว เริ่ม คะตะคะนะ วันละ 1 วรรค เพิ่มคำศัพท์แบบเป็นหมวดหมู่ เช่น หมวดหมู่คำศัพท์สมาชิกในครอบครัว วันละ 1 หมวด หัดเขียนคันจิ จากในข้อ (ถ้าคำศัพท์นั้นมีคันจิ) อย่าลืม ประโยคสนทนา วันละ 2-3 ประโยคเช่นเดิม
- ทำความเข้าใจกับการผันกริยาในรูปแบบต่างๆ ทำความเข้าใจเกี่ยวกับ ระดับของภาษา (กันเอง/สุภาพ)ฟังเพลง/ดูคลิปรายการ/ดูการ์ตูน/อ่านการ์ตูน ที่เป็นภาษาญี่ปุ่น
สรุปสุดท้าย:ใจความสำคัญที่ชาว Pantip อยากบอกเรื่องการเรียนภาษาญี่ปุ่น คือ ความตั้งใจ
ในประเทศไทยเราจะเห็นได้มีน้อยคนมากที่จะพูดภาษาอื่นๆได้ที่ไม่ใช่ภาษาไทย แต่ด้วยยุคสมัยที่เปลี่ยนการสื่อสารถือเป็นเรื่องสำคัญยิ่งพูดได้หลายภาษาโอกาศก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้น เป้นการเพิ่มระดับคุณภาพชีวิตให้สูงขึ้น ในตอนนี้เราก็จะเห็นได้แล้วว่าภาษาที่สำคัญมากที่สุดนอกจากภาษาที่ใช้สื่อสารกันในประเทศอย่างภาษาไทย
นั้นก็เป็นภาษาอังกฤษที่ไม่ว่าจะชอบหรือไม่ชอบก็จำเป็นที่จะต้องฝึก แต่ก็จะมีภาษาที่ 3-4 อยู่ซึ่งก็แล้วแต่บุคคลว่าภาษาที่ 3 ที่ 4 จะเป็นภาษาอะไร อันนี้ขึ้นอยู่กับความชอบ และการจะฝึกภาษาให้สำเร็จเคล็ดลับมันคือความตั้งใจ แต่จะง่ายขึ้นไปอีกถ้าเรามีความชอบเสริมเข้าไปด้วย การทำอะไรที่ชอบย่อมจะได้ผลเสมอ