หมุนเงินผ่อนไม่ทัน! มาดูประสบการณ์ ที่ชาว Pantip อยากบอกให้รู้หากต้องการหา [ทางด่วนแก้หนี้] ในปี 2022

เราได้ลงทะเบียนช่วยเหลือมาตรการโควิดกับธนาคาร SCB ลงหลายรอบมาก แต่โดนธนาคารปฏิเสธตลอด จนกระทั้งมีทางด่วนแก้หนี้ เข้ามา เราคิดว่าเป็นทางเดียวที่จะช่วยแก้หนี้เราได้ เราจึงรีบลงทะเบียน แต่สุดท้าย ช่องทางนี้ก้ช่วยเราไม่ได้  เราไม่รู้จะหันไปทางไหนเลย SCB เป็นธนาคารเดียวที่ไม่ช่วยเหลือเรา

คลิก! เพื่ออ่านกระทู้ต้นฉบับ

สวัสดีค่ะ  สำหรับทางด่วนแก้หนี้ (โครงการของธนาคารแห่งประเทศไทย) ขั้นตอนดังนี้ค่ะ
– แจ้งผ่านทางเว็บไซต์ ทางด่วนแก้หนี้ (https://www.1213.or.th/App/DebtCase) ตลอด 24 ชั่วโมง
– ลูกหนี้ต้องกรอกข้อมูล 1 รายการคำขอ ต่อสถาบันการเงิน 1 แห่ง
– ให้ข้อมูลที่ถูกต้องครบถ้วน และให้เบอร์ที่สามารถติดต่อกลับได้
– หากไม่ได้รับการติดต่อกลับภายใน 15 วันหลังยื่นเรื่อง ให้โทรสอบถามศูนย์คุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน (ศคง.) โทร. 1213

คลิก! เพื่ออ่านกระทู้ต้นฉบับ

ลงทะเบียนทางด่วนแก้หนี้ประเภทบัตรกดเงินสดไว้ตั้งแต่15กพ.และอีกครั้ง20เม.ย.เช่นกันค่ะ ยังไม่ได้รับการติดต่อกลับจากไทยพาณิชย์ และยังไม่ได้รับความช่วยเหลือใดๆค่ะ

คลิก! เพื่ออ่านกระทู้ต้นฉบับ

ล่าสุด เจ้าหน้าที่SCB ติดต่อมา จะอนุมัติให้ แต่เราต้องชำระยอดเพื่อกันดอกเบี้ยล่วงหน้ามาก่อน 20% ของเงินกู้ และกันล่วงหน้าทั้งหมด48 งวด เป็นเงินประมาณ35,000
ซึ่งหากเรามีเงินจ่าย35,000 เราจะขอเข้าร่วมมาตรการแก้หนี้มั้ย แบงค์อื่นอนุมัติค่ะ เหลือscb ค่ะ ดูเหมือนเข้าร่วมโครงการไปงั้น แต่ไม่ได้ช่วยเหลือลูกหนี้จริงๆค่ะ

คลิก! เพื่ออ่านกระทู้ต้นฉบับ

สำหรับมาตรการช่วยเหลือ COVID-19 (ระยะที่ 3) บัตรเครดิต ขอผ่อนชำระยอดค้างชำระ Call For Deejung ดอกเบี้ย 12% นาน 48 เดือน และบัตรกดเงินสด Speedy Cash ขอผ่อนยอดค้างชำระ ด้วยอัตราดอกเบี้ยไม่เกิน 22% ต่อปี นาน 48 เดือน โดยเงื่อนไขต้องมียอดค้างชำระในบัตรแต่ละใบตั้งแต่ 2,000 บาทขึ้นไป  มีวงเงินเพียงพอสำหรับกันดอกเบี้ย 20% และเงื่อนไขเพิ่มเติมตามมาตรการช่วยเหลือค่ะ กรณีท่านไม่สะดวกชำระ แจ้งข้อมูลทางหลังไมค์ เพื่อประสานงานเพิ่มเติมได้เลยนะคะ

คลิก! เพื่ออ่านกระทู้ต้นฉบับ

1️⃣️.  หยุด 🚫 สร้างหนี้เพิม โดยเฉพาะกดบัตร ไปจ่ายหนี้บัตร

2️⃣️.  จัดลำดับการจ่ายหนี้บัตร ว่าควรปิดใบไหนก่อน ปิดใบไหนปิดเร็วที่สุด เมื่อปิดได้เราจะไม่ต้องจ่ายขั้นต่ำบัตรใบนั้น เราก็จะมีเงินเพิ่มขึ้นเพื่อไป ✂️ ตัดต้นบัตรใบต่อไป

3️⃣️.  หาเงินก้อนมาปิด ลองสำรวจตัวเองดูว่าสามารถหามาจากไหนได้บ้าง เช่น โบนัส ขายของชิ้นใหญ่ที่ไม่ใช้

4️⃣.  แก้หนี้ด้วยเงินคงเหลือ ตรงนี้เราต้องทำให้แต่ล่ะเดือน ไม่ติดลบก่อน หลังจากนั้นถ้าเดือนไหนมีเงินเหลือก็เอาไปตัดต้นบัตรใบแรกที่เราจัดลำดับไว้

คลิก! เพื่ออ่านกระทู้ต้นฉบับ

เราก็ต้องมาดูก่อนว่า ผ่อนหนี้เดือนล่ะกี่บาท บวกค่าใช้จ่ายต่อเดือนเข้าไป เราก็จะร็ว่าเงินเดือนน่ะพอใช้ไหม

ถ้าไม่พอ ➖ ติดลบ ต้องรีบแก้เลย เพราะเมื่อเงินไม่พอก็มีโอกาสสร้างหนี้เพิ่ม ..แล้วแก้ยังไงล่ะ .. เราก็ต้องมาดูหนี้ทีล่ะตัว ว่าหนี้ไหนขายได้ หรือ รีไฟแนนซ์ได้ เพื่อไปจัดการกับหนี้ที่ดอกเบี้ยสูงกว่า แต่เคสที่เจอบ่อยเป็นหนี้บัตรเครดิตน่ะสิ

คลิก! เพื่ออ่านกระทู้ต้นฉบับ

ทฤษฎีใครก็รู้ แต่ปฎิบัติไม่ได้สักคน

คลิก! เพื่ออ่านกระทู้ต้นฉบับ

ลดความอยากได้ อยากมีลง ก็หนี้ได้แล้ว

คลิก! เพื่ออ่านกระทู้ต้นฉบับ

ถ้าเป็นผมนะ
1. ถ้ารถใช้แค่เดินทาง ใช้บ้างจอดบ้าง ไม่ได้เป็นตัวแปรหาเงิน แค่ อุปกรณ์อำนวยความสะดวก ***ขาย***
2. ของในบ้านมีอะไรที่เป็นของเล่น เช่น TV จอใหญ่ ไอแพด ไอโฟน ****ขาย***
3. สำรวจบัตรแต่ละใบแล้วเข้าไปคุยกับธนาคาร
4. สำรวจพฤติกรรมการอยู่การกิน ในปัจุจัน อะไรที่เกินเลยคำว่า ดำรงชีวิต *****เลิก***
5.มองหาลู่ทางหารายได้เพิ่ม จำไว้ว่า ได้มาเพิ่ม วัน ละ 100 บาท ก็คือ ได้ ดีกว่า อยู่เฉยๆ

*******หยุดก่อหนี้ใหม่ทันทีด้วยประการทั้งปวง******

คลิก! เพื่ออ่านกระทู้ต้นฉบับ

หนี้เป็นคดีแพ่ง
ถ้าไม่ไหวก็หยุดจ่าย เก็บเงินสดไว้ประนอมหนี้
ถ้ามีบ้านก็จะโดนฟ้องยึดบ้าน ไม่ว่าเราจะติดจำนองอยู่หรือไม่ก็ตาม
แต่ต้องยอมรับว่าเครดิตจะหายไปเลยนะครับ
จะไปกู้ใครในอนาคต ก็จะลำบากยากเย็น โดนโขกดอกเบี้ยสูงๆ
ปล.ถ้ากู้นอกระบบก็ตัวใครตัวมันครับ

คลิก! เพื่ออ่านกระทู้ต้นฉบับ

เมื่อรายได้น้อยกว่ารายจ่ายหนี้
ก็แค่ต้องหารายได้เพิ่ม หรือจำหน่ายหนี้ทิ้งไป แค่นั้นไม่มีอะไรมาก
จะมาประหยัดบริหารเงินคงเหลืออะไร เมื่อรายได้มันน้อยกว่าหนี้อยู่แล้ว

คลิก! เพื่ออ่านกระทู้ต้นฉบับ

เมื่อปี 2540 เคยเป็นหนี้เกิดจากมีลูกหนี้การค้าเป็นNPL จำนวนมาก ใช้ทฤษฎีของมร.ซี.นอร์ธ โค๊ท พาร์กินสัน
และผู้มีประสบการณ์จากหลายๆท่านนำมาใช้ปรับโครงสร้างหนี้และแก้ไขปัญหาภาระหนี้สิน
วิธีแก้ไขปัญหาหนี้สิน หาแนวทางเพิ่มรายได้ให้มากขึ้น ลดรายจ่ายประจำให้ต่ำลง จัดลำดับความสำคัญก่อนหลัง
เมื่อรายได้มากขึ้น รายจ่ายลดลง ภาระหนี้ก็ค่อยๆลดลงตามลำดับ เมื่องบดุลกลับมาเป็นบวก คราวนี้จะตัดสินใจซื้อ
อะไรก็ตามให้คิดว่าทุกอย่างที่ซื้อเข้ามามันคือภาระ”หนี้สิน” นอกจากสิ่งที่ซื้อเข้ามามันช่วยก่อให้เกิดรายได้ทางตรง
และทางอ้อมค่อยตัดสินใจซื้อ  และการตัดสินใจซื้อแล้วสิ่งที่ซื้อเข้ามาไม่ก่อให้เกิดรายได้ประจำ ก็เปลี่ยนจากการซื้อ
เป็นการเช่าหรือผ่อนเป็นงวดๆ การเช่าเป็นรายวัน รายเดือน หรือรายปี ช่วยลดความเสี่ยงจากภาระหนี้สินอีกทางหนึ่ง

คลิก! เพื่ออ่านกระทู้ต้นฉบับ