[7] เคล็ดลับดูแลผู้ป่วยอัลไซเมอร์ระยะสุดท้ายด้วยความเข้าใจ อ้างอิงประสบการณ์จริงของชาว Pantip!

แนะนำว่า ขั้นแรกคือ ปรับ mind set ก่อน ลองคิดว่า ถ้าแม่ แขนหัก แม่จะใช้แขนไม่ค่อยได้ เวลาแม่ทำของตก เราจะเข้าใจได้ ว่าแกใช้แขนได้ไม่ดี เราจะไม่โมโหมาก กรณีนี้คือ สมองแม่ ซึ่งเป็นอวัยวะส่วนนึง มีปัญหาครับ เขาไม่ได้จะทำตัวแบบนี้ แต่ แก ใช้สมองแก ได้ไม่เต็มที่ ใจจะเบาไประดับนึง ต่อมาคือ คิดซะว่า ดีแล้วที่แกป่วยแค่นี้ ถ้าป่วยมากกว่านี้ ร่างกายทรมาน แบบเป็นมะเร็ง หรือเป็นเบาหวาน แกจะเจ็บจะปวด ก็คือทำใจว่า เป็นแบบนี้แกยังไม่เจ็บไม่ปวดมาก ก็จะทำให้ทำใจได้ดีขึ้นว่า ดีแล้ว ที่ตอนนี้เป็นแค่นี้ อันดับต่อมา คือทำใจ ว่าสถานการณ์จะเลวร้ายขึ้น อันนี้ต้องศึกษาโรค นี้ให้เยอะๆครับ

คลิก! อ่านกระทู้ต้นฉบับ

จากอาการที่เล่ามา การดูแลผู้ป่วยอัลไซเมอร์ จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีความรู้ ความเข้าใจในเรื่องโรค อาการและอาการแสดง พฤติกรรมต่างๆที่เกิดขึ้นกับผู้ป่วยค่ะ รวมทั้งผลกระทบที่เกิดขึ้น และการดูแลที่เป็นพิเศษ ซึ่งอัลไซเมอร์ เป็นชนิดหนึ่งของโรคสมองเสื่อม เป็นความผิดปกติของสมองที่เกิดขึ้น ช้า ๆ โดยไม่ทราบสาเหตุ ทำให้เซลประสาทสมองตายไปเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้ความสามารถ ของสมองลดลง โดยเฉพาะในเรื่องของการจดจำ และการคิดอย่างมีเหตุผลลดน้อยลง รวมทั้งการตัดสินใจเปลี่ยนแปลงไป และ ยังมีการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมและบุคลิกภาพ ซึ่งมีผลกระทบต่อการทำงาน หรือการใช้ชีวิตของบุคคลนั้นอย่างชัดเจนได้ค่ะ ในเบื้องต้น สำหรับการดูแลผู้ป่วย  แนะนำให้พยายามเบียงเบนความสนใจเดิม โดยไม่ต้องโต้เถียง ไม่ต้องใช้เหตุผล แม้ว่าผู้ป่วยจะเข้าใจผิดเพราะไม่ได้ช่วยอะไรให้ดีขึ้นหรืออาจจะ เปิดเพลงที่ผู้ป่วยชอบให้ฟัง จะทำให้ผู้ป่วยอารมณ์ดีขึ้น ลืมเรื่องต่าง ๆ ได้ง่าย และค่อยบอกซ้ำให้ทำตามในสิ่งที่เราให้ทำ เช่นบอกให้นอน หรือบอกให้ทานข้าว เป็นต้น ซึ่งอาจจะทำให้ผู้ป่วยทำตามคำบอกของผู้ดูแลได้ค่ะ

คลิก! อ่านกระทู้ต้นฉบับ

ระวังภาวะน้ำเกินหรือน้ำเป็นพิษก่อนเลยค่ะ ซึ่งเกิดได้บ่อยในผู้ป่วยอัลไซเมอร์ การทานน้ำบ่อย มากเกินไป ได้รับวันละ 6-7 ลิตร น้ำจะเจือจางแร่ธาตุโซเดียมในร่างกายลง ทำให้เกิดภาวะน้ำเป็นพิษ เซลล์บวมน้ำ ภาวะโซเดียมในเลือดต่ำ (Hyponatremia) เป็นอันตรายถึงชีวิตค่ะ ซึ่งพบได้ในผู้ป่วยอัลไซเมอร์ที่ทานน้ำต่อวันเยอะเกินไปน่ะ เคยเห็นชุดพยาบาลแบบพ๊อตเกตควบคุมการทานน้ำอยู่เหมือนกันค่ะ มันจะแบ่งเป็นล็อคๆ สำหรับแต่ละช่วงเวลา และให้ทานเท่านี้ จำกัดการรับน้ำในแต่ละวันน่ะค่ะ อาจแบ่งซอยย่อยการทานหลายรอบ แต่จะไม่ให้เกินปริมาณที่เหมาะสม

คลิก! อ่านกระทู้ต้นฉบับ

แล้วก็อยากแนะนำอีกอย่างคือ ให้ทำอย่างอื่น ออกจากตรงที่มีน้ำดื่ม พาท่านไปในที่เคยไป ทำกิจกรรมที่เคยทำ พาเข้าสังคม หาเพื่อน ครอบครัวที่เคยสนิท จะช่วยได้บ้างค่ะ เอาใจช่วยนะคะ

คลิก! อ่านกระทู้ต้นฉบับ

เห็นใจเลยค่ะโรคนี้ป่วยคนเดียวเหมือนป่วยทั้งบ้านเพราะพฤติกรรมอะไรมันจะไม่สามารถใช้เหตุผลมาเข้าใจได้เพราะสมองเค้าเสื่อมไปแล้วและต้องมีคนคอยดูแลตลอด เรื่องน้ำต้องเก็บขวดน้ำหรือแก้วให้พ้นสายตาท่านค่ะไม่งั้นพอแกเห็นขวดน้ำหรือตู้เย็นแกที่แกคุ้นเคยก็จะนึกแต่จะกินน้ำตลอดตู้เย็นย้ายไม่ได้ก็หาผ้าหรืออะไรมาคลุมมาขวางไว้ แกบ่นก็เปิดเพลงที่แกชอบหาหนังสือที่มีภาพให้แกดูหรือเปิดทีวีก็ได้น่าจะช่วยได้บ้างเป็นกำลังใจให้นะคะ

คลิก! อ่านกระทู้ต้นฉบับ